หนุ่มหึงโหด ไล่ยิงแฟนสาว เจ็บสาหัส ปมตีตัวออกห่าง

13 กรกฎาคม 2567 เวลา 20.50 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรเมืองจันทบุรี ได้รับแจ้งเหตุใช้อาวุธปืนยิงกัน มีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นหญิงหนึ่งราย เหตุเกิดที่บ้านหลังหนึ่ง หมู่ 10 ต.บางกระจะ อ.เมือง จันทบุรี จึงประสานกู้ภัยสว่างกตัญญูธรรมสถานจันทบุรี ให้เดินทางไปที่เกิดเหตุเพื่อช่วยเหลือผู้บาดเจ็บทันที 

 

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบ ผู้บาดเจ็บเป็นหญิง 1 ราย ทราบชื่อ นางสาวสุภาพร อายุ 34 ปี มีแผลถูกอาวุธปืนยิงเข้าบริเวณต้นขาขวา และช่วงเอว นางสาวสุภาพร รู้สึกตัวดีเนื่องจากกระสุนไม่ได้เจาะโดนอวัยวะสำคัญ กู้ภัยจึงได้ปฐมพยาบาลเบื้องต้น และนำส่งโรงพยาบาลพระปกเกล้าเพื่อให้แพทย์ทำการรักษาต่อ

 

ห่างจากบ้านที่เกิดเหตุประมาณ 30 เมตร พบปลอกกระสุนปืน ขนาด 9 มม. ตกอยู่จำนวน 3 ปลอก และยังพบกระสุนปืนที่ยิง ตกอยู่อีกจำนวน 1 นัด และบริเวณทางโค้งก่อนถึงจึดเกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืน ชนิดเดียวกันตกอยู่อีก 1 ปลอก 

ตำรวจจึงทำการบันทึกและเก็บวัตถุพยานไว้เป็นหลักฐานต่อไป 

 

 

จากการสอบถามผู้อยู่ในเหตุการณ์ทราบว่า ผู้ก่อเหตุคือ นายสุภชีพ อายุ 40 ปี เป็นชาว ต.ซึ้ง อ.ขลุง จันทบุรี เป็นแฟนของผู้ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งคบหากันมาประมาณ 2 ปี ก่อนหน้านี้ ทั้งคู่อยู่ด้วยกันภายในสวน เขตพื้นที่ อ. มะขาม จันทบุรี และเกิดมีปากเสียงทะเลาะกันบ่อยครั้งเรื่องการหึงหวง จนเมื่อประมาณ 2-3 วันก่อน ทะเลาะมีปากเสียงกันผู้ก่อเหตุได้นำอาวุธปืนมาขู่ทำร้าย นางสาวสุภาพรจึงต้องหนีกลับมาอยู่บ้านหลังที่เกิดเหตุ

กระทั่ง วันที่ 13 ก.ค. เวลาประมาณ 19:00น. นายสุภชีพ ได้ วิดีโอคอลมาหา แต่นางสาวสุภาพรไม่สะดวกคุย ต่อมานายศุภชีพ จึงโทรศัพท์กลับมาบอกว่าจะมาถล่มแพปลา บริเวณหน้าบ้าน และ ได้ขับรถยนต์กระบะ รีโว่ สีเขียว มาจอดเรียกหานางสาวสุภาพรที่อยู่ในบ้านพัก 

 

 

จากนั้นมีปากเสียงกัน นายสุชีพได้ชักอาวุธปืนขึ้นมาจ่อยิงที่ศีรษะ แต่กระสุนด้าน นางสาวสุภาพรจึงวิ่งหนีออกไปนอกบ้านร้องขอให้คนช่วย แต่ถูกตัวของผู้ก่อเหตุวิ่งไล่แล้วใช้อาวุธปืนยิงประมาณ 3 นัด กระสุนถูกเข้าที่บริเวณขาขวา และช่วงเอว 

 

 

ต่อมาพี่สาวของนางสาวสุภาพร วิ่งออกมาช่วยเหลือ นายศุภชีพจึงได้กลับไปขึ้นรถยนต์กระบะเพื่อจะขับหนีออกไป แต่ในระหว่างนั้น นายไพลิน พี่ชายของนางสาวสุภาพร ขี่รถจักรยานยนต์กลับมา แล้วขวางรถของผู้ก่อเหตุเอาไว้ ตัวของผู้ก่อเหตุจึงใช้อาวุธปืนยิงเปิดทางอีก 1 นัด แล้วขับรถหนีไป

 

 

ส่วน พฤติกรรมของนายศุภชีพนั้น นางสาววราภรณ์ อายุ 54 ปี พี่สาวของนางสาวนภาพร เล่าว่าขณะเกิดเหตุเธออยู่ในบ้านได้ยินเสียงทะเลาะกัน และได้ยินเสียงอาวุธปืนเธอจึงวิ่งตามออกมาดู เห็นนายศุภชีพกำลังวิ่งไล่ยิงน้องสาว แล้วใช้มือล็อคคออยู่ จึงเข้าไปช่วยห้าม บอกว่าให้ปล่อย แล้วตะโกนบอกชาวบ้านว่าให้ช่วยเรียกตำรวจเรียกรถพยาบาลที 

นายศุภชีพจึงได้วิ่งไปที่รถ แล้วยังตะโกนต่อว่า หาว่าพวกตนกีดกันไม่ให้คบกัน 

 

นางสาววราภรณ์ เล่าต่อว่า ทั้งคู่เพิ่งจะคบกันได้ประมาณ 2 ปี ฝ่ายชายมีนิสัยขี้หึงมาก ถึงขั้นเคยยึดโทรศัพท์ของน้องตัวเองไว้ ก่อนหน้านี้ก็เคยมีการขับรถจะพุ่งชน และใช้อาวุธปืนจ่อหัวน้องสาวของเธอด้วย เหตุการณ์เพิ่งเกิดขึ้นมาไม่นาน 

 

 

 พ.ต.ท.จักรกฤต แสงจันทร์ พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี สภ.เมืองจันท์ นายเก็บบันทึกหลักฐานทั้งหมด และเชิญผู้อยู่ในเหตุการณ์ไปสอบปากคำ เบื้องต้นทราบว่าชนวนเหตุ เกิดจากความหึงหวง เกรงว่าภรรยาจะไปมีคนอื่น