ข่าว

เจ้าของบริษัทรถเช่า แฉชายฉกรรจ์ปาดหน้ารถ อุ้มนทท.จีน ไปรีดเงินที่เซฟเฮาส์

15 ก.ค. 2567

เจ้าของบริษัทรถเช่า ร้องสายไหมต้องรอด เปิดคลิปกลุ่มชายฉกรรจ์ ขับรถปาดหน้า อุ้ม นนท.จีนและคนขับรถ ไปเซฟเฮาส์ รีดเงิน 7 แสน ขอให้ตรวจสอบตำรวจจริงหรือไม่

กรณีกลุ่มชายขับรถปาดหน้าและล้อมรถคันหนึ่ง บริเวณจุดเกิดเหตุช่วงหลัก กม.3+600 ถนนสาย 7 ตอน 5 ( มอเตอร์เวย์ ) ขาเข้าเมืองพัทยา โดยอ้างเป็นเป็นตำรวจรีดเงินคนจีนไป 7 แสนบาท เมื่อวันที่  10 ก.ค. ที่ผ่านมา


ล่าสุดนายเอ (สงวนชื่อและนามสกุล) อายุ 38 ปี เจ้าของบริษัทรถเช่า ขอความช่วยเหลือนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด พร้อมเล่าว่า ตนได้รับการติดต่อให้ไปรับนักท่องเที่ยวชาวจีน 2 ราย จากท่าอากาศยานเชียงรายให้ไปส่งที่พัทยา จึงได้ปล่อยเช่ารถพร้อมคนขับให้กับนักท่องเที่ยวชาวจีน 

ต่อมาในช่วงค่ำของวันดังกล่าวขณะที่รถได้มาถึงยังบริเวณทางบนทางด่วนมอเตอร์เวย์ ช่วงเลยด่านเก็บเงิน มีรถยนต์จำนวน 1 คันปาดหน้าและอีก1 คันประกบข้าง ก่อนจะมีกลุ่มชายฉกรรจ์จำนวน 4-5 คน ลงมาพร้อมขอเข้าค้นตัวนักท่องเที่ยวคนจีนทั้ง 2 ราย อ้างว่าเป็นตำรวจ ก่อนจะมีการพาไปที่เซฟเฮาส์ของกลุ่มชายฉกรรจ์ หนึ่งในกลุ่มชายฉกรรจ์ พยายามพูดคุยกับนักท่องเที่ยวชาวจีน 2 ราย แต่ก็ไม่รู้เรื่อง จึงได้ติดต่อไปหาล่ามให้เป็นตัวกลางในการพูดคุย 

เจ้าของบริษัทรถเช่า (สวมหมวกสีขาว)

จากการสอบถามคนขับว่ามีการพูดอะไรกัน คนขับไม่สามารถพูดภาษาจีนได้ แต่สามารถจับใจความได้ว่า กลุ่มชายฉกรรจ์พยายามขอเรียกรับเงิน หากไม่จ่ายเงินจะถูกแจ้งข้อหา คนจีนทั้ง 2 ราย จึงได้มีการจ่ายเงินไป ทั้งสกุลเงินหยวนและสกุลเงินดอลล่าร์รวมกันเป็นจำนวน 700,000 บาท ก่อนถูกปล่อยตัว และคนขับรถได้ไปส่งตัวนักท่องเที่ยวที่ห้างเทอร์มินอล 21 พัทยา และไม่ได้จ่ายเงินค่ารถ ซึ่งหลังเกิดเรื่องไม่สามารถติดต่อคนขับรถได้อีก

นายเอ กล่าวว่า ตนไม่ได้ไปแจ้งความกับตำรวจ เพราะไม่ใช่ผู้เสียหายโดยตรง เเต่ส่วนนักท่องเที่ยวชาวจีนทั้ง 2 คน ตนก็ไม่สามารถติดต่อได้ จึงไม่รู้ว่ามีการไปเเจ้งความหรือไม่ ตอนนี้ไม่รู้ว่า กลุ่มชายฉกรรจ์ดังกล่าวเป็นตำรวจจริงหรือไม่ และกังวลเรื่องความปลอดภัย

 

ด้านนายเอกภพ ได้รับรายงานอย่างไม่เป็นทางการว่า คนขับรถถูกตำรวจท่องเที่ยวเมืองพัทยาคุมตัวอยู่ จึงอยากให้นำตัวมาให้ปากคำที่ สภ.เมืองพัทยา เพื่อให้ปากคำ ขณะนี้ได้ติดต่อไปยังรองผกก.สส.สภ.เมืองพัทยา ให้เร่งติดตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบว่าจุดเกิดเหตุอยู่บริเวณช่วงหนองปรือ จ.ชลบุรี ตอนนี้รู้เส้นทางของรถต้องสงสัยทั้ง 2 คันแล้ว  

 

เบื้องต้นจากพฤติการณ์ตำรวจพัทยา ตั้งข้อสังเกตว่า อาจไม่ใช่ตำรวจจริง อยู่ระหว่างการติดตามตัวบุคคลที่ปรากฏอยู่ในคลิปทั้งหมดมาสอบปากคำ หากพบความผิดจะดำเนินคดีทางกฎหมายทันที