หลานรัก กลับกลายเป็นคนร้าย ลงมือสังหาร “ตา” อ้างอารมณ์ชั่ววูบ
หลานรัก ลงมือสังหารตาอย่างเลือดเย็น ถึงในบ้านพัก อ้างอารมณ์ชั่ววูบ ขณะที่ญาติเผยมีลางบอกเหตุ ก่อนเกิดเหตุร้าย
16 ก.ค.2567 พ.ต.ท.นพล วงศ์พุฒิ สว.(สอบสวน) สภ. กุมภวาปี จ. อุดรธานี รับแจ้งเหตุ หลาน ลงมือ ฆ่า ตา เสียชีวิต ที่บ้านพักหลังหนึ่ง ใน ต.ปะโค อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี จึงพร้อม พ.ต.อ.วิชาญ สุธรรมแปง ผกก.สภ.กุมภวาปี และประสานเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุ พบศพ ชายอยู่กลางบ้าน ทราบชื่อ ภายหลัง นายใส อายุ 84 ปี เจ้าของบ้าน ถูกฟันตามตัวเป็นแผลฉกรรจ์นับ 10 แผล ตรวจสอบทราบว่าคนร้าย คือ นายทนงศักดิ์ หรือ ต้อม อายุ 37 ปี หลาน ผู้เสียชีวิต
ต่อมาตำรวจเข้าล้อมจับ นายต้อม ได้ที่บ้านของนายต้อม อยู่ติดกับบ้านของผู้เสียชีวิต พร้อมมีดปังตอที่ใช้ก่อนเหตุ และอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ 1 กระบอก นำส่ง สภ.กุมภวาปี
สอบสวน นายต้อม รับสารภาพว่า เคยเป็น รปภ. แต่ลาออกมาแล้ว ที่ลงมือเพราะถูก ตา ด่าว่า ไม่ทำงานเอาแต่มาขอกิน และไล่ตนออกจากบ้าน ทำให้ตนโมโหสุดขีด เป็นอารมณ์ชั่ววูบ โดยก่อนก่อเหตุเสพยาไป 1 เม็ด อยากบอกดวงวิญญาณของตาว่า ไม่ได้ตั้งใจฆ่า และขอโทษที่ทำลงไป
ขณะภาพวงจรปิดฝั่งตรงข้ามบ้าน เห็นนายต้อมเดินออกมาจากบ้านตา หลังก่อเหตุ จากนั้นได้ยินเสียงป้าร้องตะโกน “ไอ้ต้อมมึงทำอะไร บักต้อม ฆ่า พ่อใหญ่แล้ว”
นางแตงอ่อน อายุ 77 ปี ยายของนายต้อม เล่าว่า หลานคนนี้ตารักมากใครพูดอะไร ก็ไม่ได้ เพราะเป็นหลานคนแรก ส่วนพ่อและแม่นายต้อมไปทำงานที่กรุงเทพฯ หาเงินส่งมา ก่อนเกิดเหตุเห็นตามีอาการซึมๆ เศร้าๆไม่สดใสเหมือนก่อน คิดว่าน่าจะเป็นลางบอกเหตุ
เมื่อคืนนี้ หลาน ชายเดินไปเดินมา มาขอยาเส้นไปสูบ ทำให้หมาเห่าผู้เสียชีวิตไม่ได้นอน ผู้เสียชีวิต เลยต่อว่า กระทั่งเวลา 04.30 น. ตนตื่นมานึ่งข้าวและทำอาหารเช้าอยู่ในครัว ส่วนคนตายนอนอยู่ห้องโถงชั้นล่าง นายต้อม เดินมาหาผู้เสียชีวิต เพื่อมาขอยาเส้นในตะกร้าหมากของตนอีก และได้ยินเสียงผู้เสียชีวิตร้องด้วยความเจ็บปวด และเสียงมีฟันฉับๆหลายครั้ง
จากนั้นเห็น นายต้อม เดินถือมีดปังตอเปื้อนเลือดกลับไปบ้าน จึงถามหลานว่าทำอะไรตา แต่หลานไม่ตอบ เดินกลับบ้านเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น พอตนเดินเข้าไปในบ้านก็พบว่าตาถูกฟันนอนจมกองเลือดแล้ว
สาเหตุ เพราะ หลาน ติดยาบ้ามานานเกือบ 10 ปีแล้ว และเคยถูกจับเมื่อ 3-4 ปี ที่ผ่านมา อยากบอกดวงวิญญาณสามีว่า หมดกรรมหมดเวรแล้ว แต่ก็ไม่รู้ว่าเป็นกรรมเวรกับหลานตั้งแต่ภพชาติไหน พอมาชาตินี้เลยมาพบเจอกันแบบนี้ ขอให้ไปสู่ภพภูมิที่ดี หลานชายเคยทำร้ายตามาหลายครั้ง ก็ห้ามไว้ตลอด มาครั้งนี้ห้ามไม่ทัน
ต่อมา ตำรวจคุมตัว นายต้อม ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ และจากการตรวจปัสสาวะพบเป็นสีม่วง
เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา , เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย และมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
ส่วนนางทองหลาง อายุ 56 ปี หลานสาว ผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุ 2-3 วัน มีนกแสกบินมาร้องที่บ้านตากับยาย แต่ก็ไม่คิดว่าจะเป็นคนในครอบครัว หรือลางไม่ดี แต่ตามความเชื่อ ถ้ามีนกแสกร้องแบบนี้ อาจจะมีคนตาย เพราะในหมู่บ้านก็มีคนเจ็บป่วยมาก แต่ก็ไม่คิดว่าจะเป็นตา เพราะแกยังแข็งแรงดี ไปทำนาทุกวัน
เวลา 14.00 น. ที่บ้านเกิดเหตุ ญาติพี่น้อง ของนายใส เคลื่อนศพจากโรงพยาบาลกุมภวาปี มาทำพิธีทางศาสนาที่บ้าน โดยมีผู้นำชุมชน ญาติพี่น้อง และชาวบ้านมาแสดงความเสียใจ โดยจะมีการฌาปนกิจศพในช่วงบ่ายวันที่ 18 ก.ค. 2567 ที่ป่าช้าวัดป่าวิเวกเวฬุวัน บ.ดงน้อย ต.ปะโค อ.กุมภวาปี
ขณะที่นางแตงอ่อน ภรรยาผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ขอให้สามีไปสู่ภพภูมิที่ดี ชาตินี้หมดเวรหมดกรรมแล้ว ให้ไปแบบสบาย ไม่ต้องเป็นห่วง หากชาติหน้ามีจริงก็ขอให้มาเป็นคู่ครองกันอีก หลังจากชาตินี้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันมา 60 ปี ส่วนหลานทรพีก็รับกรรมไปแล้ว ไม่ต้องต้องจองเวรกรรมกับหลาน เพราะตารักหลานชายคนนี้มากกว่าหลานคนอื่นๆ เป็นหลานชายคนแรกที่ให้ขี่คอมาตั้งแต่เล็ก ไปไหนก็เอาไปด้วย