ตาเครียดหนัก ถูกเพื่อนลูกเชิดรถใหม่ป้ายแดงที่เพิ่งผ่อนมาหนี จบชีวิตสลด
หลายเรื่องรุมเร้า ตาวัย 66 เครียดหนัก ถูกเพื่อนลูกเชิดรถใหม่ป้ายแดงที่เพิ่งดาวน์มา หวังทำอาชีพวินมอเตอร์ไซค์ จบชีวิตสลดในห้องพัก สะเทือนใจไร้เงินจัดงานศพ
17 ก.ค.2567 ที่สถานีตำรวจภูธรหนองปลิง อ.เมือง จ.นครสวรรค์ ญาตินายบุญเชิด (สงวนนามสกุล) หนุ่มใหญ่วัย 66 ปี ก่อเหตุสลด ผูกคอตัวเองเสียชีวิตคาบ้านพักหลังหนึ่ง ใน ต.ปากน้ำโพ อ.เมือง จ.นครสวรรค์ สาเหตุเกิดจากความเครียด ที่ถูกเพื่อนลูกมาขอยืมรถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่ารุ่นฟินสีเขียว ทะเบียนป้ายแดง ที่ผู้ตายเพิ่งไปดาวน์รถมาใหม่ เพื่อใช้ประกอบอาชีพรับจ้างเป็นมอเตอร์ไซค์ โดยเหตุเกิด วันที่ 12 ก.ค. 2567 ที่ผ่านมา
นายอิศรา (สงวนนามสกุล) อายุ 33 ปี ชาวชุมแสง ซึ่งอาศัยกินนอนในบ้านกับลูกชาย ได้มาขอยืมรถคันดังกล่าว ไปซื้อข้าวกิน หายไปเป็นวัน และเมื่อวันที่ 13 ก.ค. 2567 ได้โทรศัพท์มาหานายนบุญเชิด ว่ารถได้ถูกจับอยู่ที่ สภ.บางมูลนาค จ.พิจิตร ให้เตรียมเงิน 5,000 บาทไ ปเสียค่าปรับ ทำให้นายบุญเชิดเริ่มมีอาการเครียด หาทางออกไม่ได้ และเสียดายรถที่อุตสาห์ตั้งใจไปออกมาหาเลี้ยงเมีย ที่พิการ
ประกอบกับเงินไม่มี ทำให้ต้องเดินเท้าไปขอยืมเงินนายจ้าง กว่า 10 กิโลเมตร เพื่อจะไปเอารถ แต่นายจ้างก็ห้ามว่าอย่าไป แกจะโดนหลอก และโดนทำร้ายได้ พร้อมแนะให้ไปแจ้งความดำเนินคดี แต่นายบุญเชิดกลับมาคิดสั้น จบชีวิตตัวเอง ในวันที่ 15 ก.ค. 2567 เวลาประมาณ 22.00 น. ที่ผ่านมา
ล่าสุดทีมข่าวเดินทางไปยังวัดปากน้ำโพใต้ ที่จัดงานศพนายบุญเชิด และจะมีพิธีฌาปนกิจในวันนี้ บรรยากาศเป็นไปอย่างเงียบเหงา มีเพียงบรรดาลูกๆ และพระในวัดต่างช่วยงานศพตามอัตภาพ เนื่องจากทางเจ้าภาพไม่มีเงินจัดงานศพ มีเพียงมูลนิธิพุทธปัญญา เป็นเจ้าภาพช่วยจัดงานให้
ด้านนางนุชนาถ (สงวนนามสกุล) อายุ 65 ปี ภรรยายายบุญเชิด ซี่งพิการเดินไม่ได้กล่าวทั้งน้ำตาว่า ก่อนสามีจะเสียชีวิตได้มาเล่าให้ฟังว่าเครียดเรื่องรถ จะไม่ได้คืน และไม่มีเงินผ่อนรถ ไหนจะมาหาเลี้ยงเมียที่พิการ พร้อมเล่าว่าสามีตั้งแต่เกิดเรื่อง เครียดมาตลอด จนมาคิดสั้น แต่สามีก็ยังห่วงตนเองลูก จะมารับไปอยู่ด้วยก็ไม่ได้กลัวว่าตนเองจะไม่มีกิน พร้อมบอกให้สามีไปสู่สุขคติอย่าห่วงอะไร
ด้านพันตำรวจตรี ดอน ก๋าคำ ร้อยเวรสอบสวน สภ.หนองปลิง ได้รับแจ้งความพร้อมรายงานผู้บังคับบัญชา เมื่อทราบเรื่องได้ส่งชุดสืบสวนลากคอเพื่อนแสบรายนี้แล้ว เพื่อนำตัวมาลงโทษตามกฎหมายต่อไป