แม่วอน ตร.เร่งล่า กลุ่มวัยรุ่น ล็อกคอลูก ม.1 ทำร้าย เป็นแผลฉกรรจ์เย็บ 16 เข็ม | คมชัดลึก

17 ก.ค. 2567 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องทุกข์จากนางสาวศุทธภา หรือ แม่โจ้ ว่าช่วงเย็นเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2567 มีกลุ่มวัยรุ่นจำนวนหลายคนได้รุมทำร้ายร่างกายลูกชายของตนจนศรีษะแตกเป็นแผลฉกรรจ์ 2 แผล เย็บถึง 16 เข็ม โดยการจับล็อคคอก่อนใช้ปืนตีไปที่ศรีษะก่อนโดนสนับมือต่อยซ้ำ เหตุเกิดบริเวณสวนหย่อมสามชัย ถนนธรรมนูญวิถี ตำบลหาดใหญ่ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ซึ่งทางครอบครัวไม่กล้าเข้าแจ้งความกลัวลูกชายจะโดนทำร้ายร่างกายซ้ำ ก่อนที่ผู้สื่อข่าวประสาน พ.ต.อ.ภูมิ บาลทิพย์ ผกก.สภ.หาดใหญ่ เพื่อรายงานให้ทราบ 

 

ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่สถานีตำรวจภูธรหาดใหญ่ พร้อมกับนายกฤศ รัตนมณี ทนายความ นางสาวศุทธภา หรือ แม่โจ้ อายุ 47 ปี และ น้องไอซ์ อายุ 13 ปี ลูกชาย ได้เดินทางเข้าแจ้งความ กับ พ.ต.ท.สมเกียรติ คำสุวรรณ สวส.สภ.หาดใหญ่ เพื่อเอาผิดและให้ตามจับกุมตัวกลุ่มวัยรุ่นที่รุมทำร้ายร่างกายลูกชาย 

 

หลังเข้าแจ้งความและสอบปากคำเบื้องต้น พ.ต.อ.ภูมิ บาลทิพย์ ผกก.สภ.หาดใหญ่ ได้สั่งการให้ชุดสืบสวน สภ.หาดใหญ่ ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุทันทีพร้อมตรวจสอบกล้องวงจรปิดก่อนออกติดตามจับกุมตัวกลุ่มวัยรุ่นที่รุมทำร้ายร่างกายน้องไอซ์ 

จากการสอบถาม นางสาวศุทธภา หรือ แม่โจ้ ได้เล่าว่า เหตุเกิดเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาช่วงเวลา 18.30 น. ซึ่งปกติน้องจะไปนั่งเล่นกับเพื่อนตามปกติไม่มีปัญหาอะไร และตนมาทราบเรื่องตอนที่หมอโรงพยาบาลโทรมาแจ้งว่า น้องเกิดอุบัติเหตุโดนทำร้ายร่างกายนะตอนนี้อยู่ที่โรงพยาบาล พอไปถึงโรงพยาบาล ตอนนั้นตนยังไม่เห็นแผลที่น้องโดน ซึ่งหมอได้พันผ้าเอาไว้เพราะมีเลือดไหลออกมาเต็มเสื้อพละ หมอก็เลยห้ามเลือดเอาไว้ก่อน

 

พอหมอเปิดผ้าพันแผลออกเพื่อจะทำการเย็บแผล ตนถึงกับตกใจเห็นแผลใหญ่ๆ 2 แผล ตนจึงได้ถามน้องว่า ไปมีเรื่องอะไร ทำไมโดนทำร้ายร่างกายเป็นแผลอุฉกรรจ์ขนาดนี้ ซึ่งตอนนั้นมีพี่สาวนั่งอยู่ด้วยและน้องบอกว่า ตอนนั้นกำลังนั่งเล่นกันอยู่ มีวัยรุ่นได้ขี่รถจักรยานยนต์มา 5-6 คัน และมีวัยรุ่นลงมาจากรถประมาณ 10 คนได้ ก็ได้มาถามหาเฟซบุ๊กของเพื่อนคนนึงว่ามาไหม น้องก็ได้ตอบกลับไปว่า ไม่มา 

 

จากนั้นกลุ่มวัยรุ่นได้ถามหาชื่อเฟซบุ๊กอีกคนว่าใครเป็นคนเล่น พอน้องจะหันกลับไปตอบ กลุ่มวัยรุ่นได้ปรี่กันเข้ามาจับน้องล็อคคอแล้วก็ทุบๆ หลายครั้ง ตอนนั้นน้องบอกว่าเห็นปืนเนบอยู่ที่เอววัยรุ่นคนที่เข้ามาทุบ โดยชักปืนขึ้นมาตีที่หัวน้อง

 

 

มีน้องที่อยู่คลองอีกฝั่งที่เห็นเหตุการณ์ว่ากลุ่มวัยรุ่นได้ใช้สนับมือ ไม้หน้าสาม ย้ำไปที่หัวของน้องอีก จากนั้นพี่สาวที่นั่งอยู่ด้วยได้วิ่งเข้าไปเอามือปิดที่หัวน้อง และก็ตกใจก็ได้กรี๊ดออกมา พอกลุ่มวัยรุ่นเห็นมีคนเริ่มมามุงดู กลุ่มวัยรุ่นที่ทำร้ายร่างกายน้องวิ่งแตกกระเจิงไปที่รถจักรยานยนต์ที่ขี่มาแล้วก็บอกว่า รีบไป รีบไป เดี๋ยวตำรวจมา 

 

ซึ่งปกติเวลาน้องจะกลับบ้านตนก็จะไปรับ หากวันไหนน้องกลับเองน้องจะบอก วันไหนน้องจะไปนั่งเล่นกับเพื่อนที่สวนหย่อมน้องก็จะบอกตน และตนก็จะไปรับที่สวนหย่อม ทุกครั้งที่ไปสวนหย่อมน้องจะนั่งเล่นกับเพื่อนที่บ้านอยู่แถวสวนหย่อม 

 

สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น ตนรู้สึกว่าถ้าทะเลาะตามประสาผู้ชายประมาณว่าชกต่อยกัน ต่อให้ ต่อยกันแบบตัวๆ ตนจะไม่ว่าอะไรเลย แต่แบบนี้เด็ก ม.1 แล้วมีพี่สาวเค้าอยู่ด้วย ซึ่งพี่สาวก็โดนลูกหลงจนหัวโน ตนอยากรู้ทำไมทำถึงขนาดนี้ตนรับไม่ได้เลย 

 

ถ้าหากน้องโดนจุดสำคัญแล้วเป็นอะไรขึ้นมา ใครจะมารับผิดชอบ ถ้าทะเลาะกันธรรมดาตนเข้าใจได้ แต่นี้ทำเกินกว่าเหตุซึ่งตนเห็นน้องเป็นแค่เด็ก ม.1 ไม่น่าจะลงมือกับน้องขนาดนั้น ถ้าเป็นเด็กโตพอว่า 

 

หลังเกิดเรื่องตอนนั้นตนยังลังเล กลัวว่าน้องจะโดนอีกแต่พอเห็นแผลของน้อง ตนจึงตัดสินใจเข้าแจ้งความ และอยากรบกวนฝากถึง ผกก.ช่วยตามคดีและช่วยเร่งติดตามจับกุมตัวกลุ่มวัยรุ่นทั้งหมด  ตนไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้กับคนอื่นอีก 

 

ส่วนทางด้าน นายกฤศ รัตนมณี ทนายความ เปิดเผยว่า วันนี้ตนพร้อมด้วยผู้เสียหายได้เดินทางเข้าแจ้งความเพื่อเอาผิดกับกลุ่มผู้ก่อเหตุ และขั้นตอนต่อไปก็จะให้ทางสหวิชาชีพเข้าร่วมสอบปากคำหาข้อมูลเพิ่มเติมของกลุ่มผู้ก่อเหตุ เพื่อตามหาและมารับโทษ ซึ่งน้องอายุแค่ 13 ปี 

 

 

ส่วนบาดแผลได้รับบาดเจ็บที่ศรีษะเป็นแผลแตกอุฉกรรจ์ 2 จุด ซึ่งแผลจุดนึงยาวประมาณ 4-5 ซม. ตอนนี้เย็บแผลโดยประมาณ 13 เข็ม แผลดังกล่าวเกิดจากการโดนรุมทำร้ายร่างกายด้วยด้ามปืน 1 จุด สนับมือ 1 จุด มีวัยรุ่นร่วมทำร้ายร่างกายประมาณ 20 คน ทั้งหมดไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัวกับน้องแต่อย่างใด 

 

จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกเหตุการณ์ช่วงก่อนเกิดเหตุไว้ได้ซึ่งพบว่ามีกลุ่มวัยรุ่นได้ขี่รถจักรยานยนต์กันมา 4 คัน นั่งซ้อนท้ายกันมาประมาณ 10 คน ก่อนจะเกิดเหตุการณ์รุมทำร้ายร่างกายขึ้น