17 ก.ค.2567 กรณีเกิดเหตุ ฆาตกรรมหมู่ 6 ศพ ในห้องพัก โรงแรมดังราชประสงค์ โดยทั้งหมดเป็น ชาวเวียดนาม และ 2 ใน 6 คน ได้รับสัญชาติอเมริกัน โดยในห้องที่เกิดเหตุ ไม่มีร่องรอยการต่อสู้ หรือดิ้นทุรนทุราย เหตุเกิดเมื่อเย็นวันที่ 16 ก.ค.2567
ต่อมากองพิสูจน์หลักฐานพบว่า ทั้งหมดถูก วางยาพิษ ไซยาไนด์ เสียชีวิต โดยคาดว่า 1 ในผู้เสียชีวิตเป็นคนก่อเหตุ
ล่าสุด มีรายงานข่าวว่า จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ได้จำแนก กลุ่มผู้เสียชีวิตออกเป็น 2 กลุ่ม
- กลุ่มแรก คือ ผู้ก่อเหตุ และกลุ่มที่สองคือผู้เสียหาย มีการสันนิษฐานว่า ผู้ล่วงรู้แผนการในการวางยาทั้งหมดมีด้วยกัน 2 คน โดยคาดว่าคือ น.ส.ถิ เหวียนเฟือง หล่าน และ น.ส. เชอรีน ชอง เนื่องจากพบความเชื่อมโยงระหว่างบุคคลทั้งสองว่า น.ส.ถิ เหวียนเฟือง หล่าน ทำหน้าที่เป็นนายหน้าในการหาคนมาลงทุน
- กลุ่มที่สอง คือ กลุ่มนักลงทุน น.ส.ดิ เหวียน เฟือง , นายดิน เจิ่น ฟู , นายฮึง ดัง วัน อายุ 55 ปี (Mr.HUNG DANG VAN) และ นายฮอง ฟ่าม ถั่น
โดยออกอุบายจัดฉาก ว่า น.ส. เชอรีน ชอง เป็นนายทุนที่ต้องการระดมทุมเพื่อสร้างโรงพยาบาลในประเทศญี่ปุ่น หากมาร่วมลงทุนจะให้ผลตอบสูง ทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินให้ แต่เมื่อเวลาล่วงเลยไปกลุ่มผู้เสียหายได้ทวงถามความคืบหน้า แต่ไร้คำตอบที่แน่ชัดมีการบ่ายเบี่ยงเรื่อยมา
ทั้งหมดจึงนัดรวมตัวพูดคุยเรื่องเคลียร์หนี้สินจากธุรกิจดังกล่าว โดยมีแพลนว่าจะไปเจรจาที่ประเทศญี่ปุ่น พร้อมกับไปดูที่สถานที่จริงในการทำธุรกิจ แต่เนื่องจากติดปัญหาขอวีซ่าเข้าประเทศญี่ปุ่น ทำให้ต้องเปลี่ยนมาเคลียร์กันที่ประเทศไทย กระทั่งมาเกิดเหตุสลดขึ้น
มีรายงานว่า หลังจากเกิดเหตุสลดดังกล่าว ทางเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลาง สหรัฐอเมริกา หรือ เอฟบีไอ (FBI) ได้ลงมาตรวจสอบที่เกิดเหตุในโรงแรมดังกล่าว เนื่องจากมีผู้เสียชีวิต 2 ใน 6 รายที่มีสัญชาติอเมริกันพร้อมประสานข้อมูลทางข้างกับทางการไทย
ทำให้ชุดคลี่คลายคดีพบประเด็นสำคัญ ซึ่งเป็นปูมหลัง หรือ ประวัติ ด้าน คดี ของ น.ส. เชอรีน ชอง อายุ 56 ปี (Ms.SHERINECHONG) 1 ในผู้เสียชีวิต ที่คาดว่าเป็นผู้ลงมือสังหารโหด โดยการวางยา ไซยาไนด์ ในครั้งนี้ ว่า เคยมีประวัติก่อเหตุในลักษณะ ฉ้อโกง มาก่อนหน้านี้
โดยพฤติกรรมคือ ราวปี 2553 ที่เมืองซานฟรานซิสโก น.ส. เชอรีน ชอง ได้ออกอุบายชักชวนชาวเวียดนามที่มีความประสงค์จะขอสัญชาติอเมริกัน ว่าสามารถดำเนินการขอสัญชาติให้ได้โดยคิดค่าบริการเป็นค่าใช้จ่ายครั้งละ 5,000 USD หรือประมาณ 179,850 บาทต่อคน ซึ่งมีชาวเวียดนามหลงเชื่อเป็นจำนวนมาก เนื่องจากตัวของ น.ส. เชรีน ชอง เป็นชาวเวียดนาม ที่ได้รับสัญชาติอเมริกัน
จากนั้น น.ส. เชอรีน ชอง จะไปติดต่อกับจิตแพทย์เพื่อให้ออกหนังสือรับรองว่า บุคคลที่กำลังจะยื่นขอวีซ่ามีอาการเจ็บป่วยทางจิตเวช ต่อมาภายหลังอัยการ DA มีคำสั่งให้ยุติการสอบสวนคดีดังกล่าว จึงมิได้มีการฟ้องร้องกันต่อศาล ทำให้ไม่มีประวัติในการก่อคดี นอกจากเหตุการณ์นี้ไม่พบการกระทำผิดทางอาญาของนาง เชอรีน ชอง แต่อย่างใด
สอดคล้องกับการสอบปากคำของของ อดีตสามีของ นางสาว ถิ เหงียน ฟอง หลั่น ผู้เสียชีวิตหมายเลข 2 หนึ่งในผู้ต้องสงสัยลงมือวางยาพิษไซยาไนด์ เมื่อวานนี้ (17 ก.ค.2567) ที่พบว่า พฤติกรรมของ เชอรีน มักจะทำให้ตนเองมีความน่าเชื่อถือ จะบอกกับเหล่าแวดวงนักธุรกิจชาวเวียดนามว่า ตัวเองเป็นนักธุรกิจชาวอเมริกันที่ประกอบธุรกิจมากมาย จากนั้นจะชวนคนมาร่วมลงทุนด้วย และหลังจากรู้จัก สนิทสนมกันแล้ว ก็จะยืมเงินเป็นจำนวนมาก
ข่าวที่เกี่ยวข้อง