ข่าว

ฟันธง “ยางู” ไม่เกี่ยวกับการเสียชีวิต 6 ศพ ชาวเวียดนาม

ฟันธงแล้ว “ยางูหมายเลข7” ไม่เกี่ยวกับการเสียชีวิต 6 ศพ ชาวเวียดนาม ด้านกองพิสูจน์หลักฐาน รอผลดีเอ็นเอ เทียบวัตถุพยาน พิสูจน์มือวางยาตัวจริง

หลักฐานในที่เกิดเหตุ ภาชนะที่ใส่ไซยาไนด์

18 ก.ค.2567 ความคืบหน้าคดีพบ 6 ศพ ชาวเวียดนาม ถูก วางยาพิษ ไซยาไนด์ ใน โรงแรมดังราชประสงค์ เมื่อเย็นวันที่ 16 ก.ค.2567 และจากการนำตัว นายฟาน หง็อก หวู อายุ 35 ปี สัญชาติเวียดนาม ไกด์ชาวเวียดนาม ที่เป็นไกด์ ให้กับกลุ่มผู้เสียชีวิต มาทำการสอบปากคำ พบการสั่งซื้อขาย ยางูหมายเลข7 โดยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนเร่งแกะรอยว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิต 6 ศพ หรือไม่

 

ล่าสุด มีรายงานจากชุดทำคดี หลังการสอบปากคำ ที่มีการสั่งซื้อ ยางู ดังกล่าว พบว่า ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับคดีนี้ แต่เนื่องจากพฤติกรรมในการสั่งซื้อยาดังกล่าว มีความซับซ้อน และเชื่อมโยงกับ น.ส.ถิ เหวียนเฟือง หล่าน หนึ่งในผู้เสียชีวิต ทำหน้าที่เป็นนายหน้าในการหาคนมาลงทุน จึงต้องสืบสวนให้สิ้นสงสัย แต่ยังไม่พบว่า มีความเชื่อมโยง

ส่วนการสอบปากคำ สามี ชาวเวียดนาม ของ น.ส.ถิ เหวียนเฟือง หล่าน ที่เป็นนักธุรกิจในประเทศญี่ปุ่น เมื่อวานนี้ (17 ก.ค.2567) เจ้าตัวให้การว่า ไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับภรรยาเลย เนื่องจากช่วงเกิดเหตุ ตนเองเดินทางไปทำธุรกิจอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น ทำให้ไม่ได้รู้ความเคลื่อนไหวของภรรยา และก็ไม่รู้เกี่ยวกับเรื่องการลงทุนที่มีข้อมูลว่า ภรรยาเป็นนายหน้าไปชักชวนกลุ่มผู้เสียชีวิตมาลงทุน

 

และขณะนี้ชุดทำคดี ยังต้องรอผลการตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ โดยเฉพาะลายนิ้วมือแฝงที่อยู่บนกาน้ำชา และถ้วยกาแฟ ที่พบสาร ไซยาไนด์ รวมถึงผลการตรวจสอบอื่นๆ จึงจะสามารถเชื่อมโยงได้ความชัดเจนว่า ใครเป็นผู้ก่อเหตุวางยาในครั้งนี้

 

  • พฐ.ยังรอผลดีเอ็นเอ เทียบวัตถุพยาน หามือวางยาตัวจริง

 

ด้าน พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ ระบุว่า จากการตรวจสอบวัตถุพยานในห้องที่เกิดเหตุ ขณะนี้ยังมีแค่กาน้ำชา , ซองชา และถ้วยกาแฟ ทั้ง 6 ถ้วย ที่พบสาร ไซยาไนด์ ส่วนวัตถุพยานที่ตรวจเก็บได้จากสัมภาระของผู้เสียชีวิต รวมไปถึงยารักษาโรคทั่วไป ขณะนี้ยังไม่พบว่า มีสารไซยาไนด์

    

ทั้งนี้ จะต้องทำการประสานทางตำรวจนครบาลเพิ่มเติมก่อน เนื่องจากสัมภาระของผู้เสียชีวิตที่เหลือทั้งหมด ตำรวจนครบาล เก็บไว้เป็นหลักฐาน และบางกระเป๋ามีการล็อกยังไม่ได้เปิด เนื่องจากต้องรอทางญาติของผู้เสียชีวิต และสถานทูตมาเปิดพร้อมกัน จึงต้องทำการประสานเพิ่มเติมว่า ยังมีวัตถุพยานใดที่ต้องให้พิสูจน์หลักฐานตรวจสอบเพื่มเติมอีกหรือไม่ แต่ยืนยันได้ว่าวัตถุพยานที่ส่งมาขณะนี้ ไม่มีลักษณะอะไรที่เป็น ยางู

 

ส่วนกรณีการตรวจสอบลายนิ้วมือ และดีเอ็นเอ จากวัตถุพยาน ขณะนี้ยังรอรายงานผลอยู่ เพราะเป็นการตรวจโดยละเอียด รวมถึงต้องรอผลดีเอ็นเอจากศพที่ทางนิติเวช โรงพยาบาลจุฬาฯ เป็นผู้ตรวจ ส่งมาเพื่อนำมาเปรียบเทียบกับดีเอ็นเอของวัตถุพยานด้วยจึงจะยืนยันได้ว่า วัตถุพยานชิ้นไหนตรงกับดีเอ็นเอ ของใครบ้างโดยเฉพาะ วัตถุพยานที่พบสารไซยาไนด์ ทั้งกาชา แก้วกาแฟ กระป๋องชา และซองชา