ข่าว

แกะรอยรวบ "บาส" โจรชิงทอง 40 บาท ห้างบิ๊กซี

แกะรอยรวบ "บาส" โจรชิงทอง 40 บาท ห้างบิ๊กซี

19 ก.ค. 2567

ตำรวจนครบาลแกะรอย ตามรวบ “บาส” โจรชิงทอง 40 บาท ในห้างบิ๊กซี สุขาภิบาล 3 ได้ที่ จ.นครนายก หลังก่อเหตุเพียงข้ามวัน

ของกลางที่ตรวจยึดได้

19 ก.ค.2567 กรณีคนร้ายบุกเดี่ยว ชิงทอง 40 บาท ร้านทอง แห่งหนึ่ง ใน ห้างบิ๊กซี สุขาภิบาล 3 เมื่อวันที่ 18 ก.ค.2567 ต่อมาตำรวจทราบชื่อคนร้าย นายพงศธร หรือ บาส และขอศาลอาญามีนบุรีอนุมัติหมายจับแล้ว

 

ล่าสุด เวลา 12.40 น. วันนี้ ตำรวจนครบาล ร่วมกัน จับกุม นายบาส ได้ที่แยกประชาเกษม จ. นครนายก พร้อมของกลาง ประกอบด้วย

  1. ทองคำ 22 เส้น
  2. โทรศัพท์ มือถือ 2 เครื่อง
  3. เงินสด 11,000 บาท
  4. ยาเคประมาณ 50 กรัม
  5. รถยนต์ 1 คัน

โดยก่อนหน้านี้ ทีมข่าว ได้เดินทางไปยังบ้านพักของนาย บาส  ซึ่งอยู่ใกล้กับสุเหร่าซีรอ  โดยทีมข่าวได้พบกับคุณยายของผู้ก่อเหตุ และไม่สะดวกให้สัมภาษณ์

 

โดยในช่วงแรกคุณยาย เปิดประตูออกมาถาม ว่าเป็นนักข่าวใช่ไหม ไม่สะดวกให้ทำข่าว แต่ผู้สื่อข่าวของเราพยายามสอบถาม ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นคุณยายจึงให้ข้อมูลว่า หลานชายเป็นคนนิ่งเงียบไม่ค่อยพูดไม่ค่อยจา ปกติอาศัยอยู่กับแม่ที่อยู่ห้องใกล้กัน โดยหลานชายทำอาชีพเป็นไรเดอร์ส่งอาหาร ไม่ดื่มเหล้า ไม่ติดยา แต่ไม่รู้มีเรื่องเล่นการพนันหรือไม่

 

หลังก่อเหตุมีรายงานจากชุดสืบสวนว่า หลังก่อเหตุผู้ต้องหาได้หลบหนีไปบ้านญาติที่ จ.ฉะเชิงเทรา แต่เมื่อตำรวจไปติดตามพบว่า ญาติได้ไล่ผู้ต้องหาออกจากบ้านไปแล้ว หลังรู้ว่าไปก่อเหตุ ชิงทอง มา  

 

ด้านนายเอฟ ญาติของนาย บาส เล่าว่า รู้สึกกังวลใจว่า ผู้ก่อเหตุจะไปฆ่าปิดปากแม่ของตน เพราะแม่ของตนรู้ข้อมูลเยอะ และเมื่อวานนี้ตอนที่ตนโทรศัพท์ไปสอบถามแม่ ได้พูดคุยกับผู้ก่อเหตุ เขาบอกว่าจะหนีไป จ.นครนายก แต่ที่จังหวัดนั้นไม่มีเพื่อนหรือญาติพี่น้อง และตนก็ได้ถามถึงเหตุผลว่าทำไมถึงก่อเหตุเขาก็เงียบไม่ตอบ คาดว่าน่าจะเป็นปัญหายาเสพติด เพราะผู้ก่อเหตุติดยาเค เชื่อว่าน่าจะมีปัญหาหนี้สิน ส่วนประวัติการเล่นพนันออนไลน์นั้นไม่แน่ใจ และตนได้ถามนายบาส ต่อว่าจะหนีหรือจะมอบตัว เขาตอบว่าจะหนี ตนก็เลยบอกว่าถ้าจะหนีก็หนีไปเลยตอนนี้ และเขาก็ติดรถออกไป และในวันที่หนีออกไปก็ติดกระเป๋าซึ่งมีทองของกลางออกไปด้วยทั้งหมด ตอนนี้ทุกคนก็อยากให้เขามอบตัว ไม่อยากเห็นข่าวที่มันเลวร้ายไปกว่านี้

 

ด้าน นายเด๊ะ ญาติอีกคนของนายบาส เล่าว่า หลังจากบาสก่อเหตุชิงทองแล้ว กลับมาที่บ้านเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าและออกไปอีกรอบ โดยขี่รถจยย.คันที่ใช้ก่อเหตุไปจอดไว้ และต่อรถแท็กซี่ไปไหนสักที่ ได้ถามนายบาสว่า จะมอบตัวไหม หากจะมอบตัวก็จะพามามอบ แต่ถ้าจะหนีก็อยู่ที่นี่ไม่ได้  ตอนนี้ไม่รู้ว่าหนีไปอยู่ไหนแล้ว แม่ของเขาก็เครียดเป็นห่วงเขาอยากให้มอบตัว

 

เขามีพฤติกรรมติดยาเคหนัก แต่เชื่อว่าไม่น่าจะเป็นเหตุให้ถึงขั้นต้องไปชิงทอง ปกติเขาจะมีนิสัยลักเล็กขโมยน้อยขโมย ขโมยเพียงแต่ของคนในบ้านไม่ได้มากมาย เราก็ไม่ได้แจ้งตำรวจ เพราะเป็นคนในบ้านก็คิดว่าเขาจะสำนึก จนกระทั่งมามีเหตุดังกล่าว

 

ส่วนเรื่องประเด็นค้ายาเสพติด ปัจจุบันไม่มี แต่ก่อนหน้านี้เคยมีเพื่อนๆพูดกันบ้าง เขาไม่ได้ไปเกเรเมาเหล้าที่ไหน ได้ยินมาจากเพื่อนเขาว่า เขาติดหนี้เยอะ เล่นพนันออนไลน์ แล้วก็เชื่อว่ากลุ่มเพื่อนน่าจะรู้

 

ขณะเดียวกัน ตำรวจได้ตรวจสอบ ตามเส้นทางการหลบหนีของ นายบาส พบว่ามีการขึ้นรถแท็กซี่ไปจนถึงย่านคลองสอง จังหวัดปทุมธานี ก่อนจะมีรถเก๋งขับมารับพาหนีต่อ ซึ่งตำรวจตรวจสอบแล้ว ปรากฏว่ารถยนต์คันนี้ ไม่ใช่ผู้ร่วมขบวนการที่พาผู้ก่อเหตุหลบหนี แต่เป็นรถยนต์มือสอง ที่ผู้ก่อเหตุขอซื้อจากคนที่ประกาศขายในราคา 80,000 บาท แล้วให้นำไปส่งที่จุดนี้ 

 

จากนั้น นายบาส ได้ขับรถต่อไปญาติที่ อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา แต่เมื่อญาติทราบข่าวจึงขับไล่ให้ผู้ก่อเหตุไปที่อื่น นายบาสจึงขับรถคันที่ซื้อมาหลบหนีต่อไป กระทั่งเมื่อช่วงสายที่ผ่านมา ชุดสืบสวนจะสามารถจับกุมได้ที่บริเวณแยกสาริกา ตำบลสาริกา อำเภอเมือง จังหวัด นครนายก ขณะขับรถตระเวนหลบหนีตลอดทั้งคืน โดยล่าสุดเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างควบคุมตัวมาสอบปากคำ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป