สาวผวาหนัก หนุ่มฉุนโดนบล็อกเฟซบุ๊ก บุกถ่ายภาพโพสต์ด่า ขู่เผาบ้าน
สาวผวาหนัก หนุ่มฉุนโดนบล็อกเฟซบุ๊ก บุกถ่ายภาพหน้าบ้าน โพสต์ด่า-ขู่เผาบ้าน โร่แจ้งความ หวั่นไม่ปลอดภัยทั้งบ้าน
19 ก.ค. 2567 ที่ สภ.เมืองอำนาจเจริญ หลังจากที่ได้รับเรื่องร้องเรียนจาก น.ส.พัชรีย์ (สงวนนามสกุล) อายุ 42 ปี ว่าเมื่อคืนที่ผ่านมา เพื่อนของสามี ได้ขับรถมาจอดที่บริเวณหน้าบ้าน พร้อมกับมีการถ่ายรูปหน้าบ้านของต้น พร้อมกับโพสต์ด่าลงในเฟซบุ๊ก แล้วแท็กสามีของตน ในข้อความที่ว่า “เมียมึงบล็อกกูเพื่อ ?????? ไอ้.....ครกแม่..... ทาสเมีย แม่.....ปากดี โธ่.....” โดยมีเพื่อนในเฟซบุ๊ก ของคนที่มาถ่ายนี้ มีการเข้ามาคอมเมนต์ข้อความต่อด้วยว่า เผาเลยไหม
น.ส.พัชรีย์ เปิดเผยกับทีมข่าวว่า ตนก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น เพื่อนของสามีตนถึงได้มาทำเช่นนี้ ดูเหมือนจะมาคุกคามตนและสามี เพราะก่อนที่เขาจะเข้ามาหาและโพสต์ลงแบบนี้ ก็ไม่ได้มีการคุยอะไรกัน และก็ไม่ได้ติดต่อกันคุยกันนานมากแล้ว กับคนนี้ เพราะก่อนหน้านี้สามีของตนเคยมีปัญหาคาใจกันอยู่สักพัก
ก่อนที่จะมีการเคลียร์ใจกัน และจบปัญหากันไปนานแล้ว น่าจะ 3-4 ปี ได้แล้ว ซึ่งหากจะเอาเรื่องนี้มาหาเรื่องกัน ก็ไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะเป็นเรื่องที่เคลียร์กันจบไปแล้ว ต่างคนก็ต่างเข้าใจกันแล้ว แล้วก็ไม่ได้ติดต่อหรือพูดคุยกัน แต่อย่างใด หลังจากที่เคลียร์ใจกันเสร็จ
และสิ่งที่เขาทำตนก็มองว่ามันเกินไป แถมเพื่อนในเฟซบุ๊กของเขาก็ยังมีมาคอมเมนต์อีกว่าเผาเลยไหม? ซึ่งสร้างความหวาดกลัวให้ตนกับสามีเป็นอย่างมาก ตนกับสามีจึงต้องเดินทางเข้ามาแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองอำนาจเจริญ เพราะเกรงว่าจะเกิดอันตรากับตนเองและสามีได้
จากนั้น น.ส.พัชรีย์ ได้มีการโชว์หลักฐาน ที่บุคคลดังกล่าวได้มีการโพสต์เฟซบุ๊ก รวมไปถึงภาพจากกล้องวงจรปิด บริเวณหน้าบ้านของ น.ส.พัชรีย์ ว่าบุคคลดังกล่าวได้มีการเดินทางมาที่บริเวณหน้าบ้านของตนจริง ได้มีการจอดรถที่บริเวณหน้าบ้านของตน และได้ลงจากรถลงมาที่บริเวณหน้าบ้าน
ถึงแม้ว่าจะยังไม่ได้มีการก่อเหตุอะไรที่รุนแรง แต่ก็สร้างความวิตกกังวลใจให้กับตนและสามีเป็นอย่างมาก เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้มีการลงบันทึกประจำวัน กับบุคคลดังกล่าว ฐานก่อความเดือนร้อนรำคาญ และจะได้มีการเรียกตัวบุคคลดังกล่าว มาสอบสวนเพิ่มเติมอีกครั้ง
ทีมข่าวได้เดินทางไปที่บ้านของบุคคลดังกล่าวภายในคลิป เพื่อสอบถามเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ทางครอบครัวของบุคคลดังกล่าว เผยว่า บุคคลดังกล่าวยังไม่ตื่นต้องรอสอบถามเจ้าตัวเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เพราะทางครอบครัวก็ไม่รู้ว่าที่ทำไปเพราะสาเหตุอะไร