เอก สายเต๊าะ เสียงอ่อยขอโทษลูกบ้าน รับปากปรับปรุงตัว ตร.แจ้งข้อหา ส่งเข้าห้องขัง
"เอก สายเต๊าะ" เริ่มเสียงอ่อยขอโทษลูกบ้าน รับปากปรับปรุงตัว ด้าน ตำรวจแจ้งข้อหา มีดฟัน รปภ. ฉกกระเป๋า เตรียมส่งศาลพรุ่งนี้ (21 ก.ค.) พร้อมค้านประกัน ชงศาลมีคำสั่ง ห้ามเข้าเขตหมู่บ้าน 5 ปี
20 ก.ค. 2567 เมื่อเวลา 11.00 น. พ.ต.อ.สุกฤต มังคละสวัสดิ์ ผกก.สน.ดอนเมือง พร้อมด้วย พ.ต.ท.อำนาจ ฉ่ำชะเอม รอง ผกก.สส.สน.ดอนเมือง พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ดอนเมือง ควบคุมตัว นายเอกลักษณ์ หรือ "เอก สายเต๊าะ" อายุ 42 ปี มาสอบปากคำ ภายหลังเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ชุดสืบสวนนครบาล ร่วมกับ สน.ดอนเมือง นำหมายค้นศาลอาญา เข้าตรวจค้นบ้าน ภายในซอยเทิดราชัน 17 ถนนเทิคราชัน แขวงสีกัน เขตอนเมือง กรุงเทพมหานคร เพื่อตรวจค้นสิ่งผิดกฎหมาย โดยยึดของกลางอาวุธปืนยาว บีบีกัน 1 กระบอก และทรัพย์สินที่นายเอก ชิงทรัพย์จาก รปภ.หมู่บ้าน
ต่อมาตำรวจได้คุมตัวนายเอก มาสอบปากคำที่ห้องสอบสวน โดยนายเอกมีท่าทีสงบลง สามารถตอบคำถามนักข่าวได้ พร้อมกล่าวคำขอโทษประชาชน และยืนยันว่าจะปรับปรุงตัว ด้วยการไม่เสียงดัง ขอโทษที่ทำให้ชาวบ้านตกใจกลัวคำพูดของตนอาจจะรุนแรงไป จะไม่ขับรถเร็วในหมู่บ้าน และจะใช้คำพูดกับเพื่อนบ้านดีๆ ในอนาคตจะทำได้หรือไม่ยังไม่รับปาก แต่จะพยายาม
ซึ่งการออกมาโวยวายยอมรับว่าต้องการติเพื่อก่อ อยากให้นิติบุคคลของหมู่บ้านออกมาปรับปรุงการทำหน้าที่ ส่วนการจะสำนึกผิดหรือไม่ ยืนยันว่าไม่สำนึกผิด เพราะไม่ได้ทำผิดอะไร ส่วนการนอนห้องขังถือเป็นเรื่องธรรมดา ไม่กังวล ทำผิดก็ต้องรับผิด
ด้าน พ.ต.ท.อำนาจ ฉ่ำชะเอม รอง ผกก.สส.สน.ดอนเมือง หัวหน้าชุดตรวจค้นบ้านนายเอก กล่าวว่า จากการสอบปากคำนายเอก ยังให้การปฏิเสธ ซึ่งเป็นสิทธิ์ของผู้ต้องหาจะให้การอย่างไรก็ได้ และจากการตรวจค้นบ้านนายเอก พบสิ่งเทียมอาวุธปืน อยู่ระหว่างตรวจสอบว่าเป็นปืนจริงหรือไม่ นอกจากนี้บริเวณรั้วบ้านยังพบกระเป๋าของ รปภ.หมู่บ้าน ที่นายเอก ใช้อาวุธมีดยาวไปชิงทรัพย์เมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา เบื้องต้นตรวจปัสสาวะไม่พบสารเสพติด ส่วนการตรวจจิตเวชแพทย์วินิจฉัยว่า "ไม่มีอาการทางจิต"
สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ตำรวจจะนำตัวนายเอก ไปฝากขังที่ศาลอาญารัชดาวันพรุ่งนี้(21 ก.ค.) โดยในสำนวนตำรวจจะคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากพนักงานสอบสวนจะต้องบรรยายพฤติการณ์ และประวัติการกระทำความผิดของนายเอกที่พบว่ามีการกระทำความก่อนหน้านี้
โดยจะบรรยายในเรื่องของพฤติกรรมเพื่อให้ศาลพิจารณาเรื่องของความรุนแรงและมีผลกระทบกับประชาชนในวงกว้าง เชื่อว่าจะมีผลในการพิจารณาของศาลอย่างแน่นอน เพราะอัตราโทษของผู้ที่เคยกระทำความผิด หากพบว่ามีการประทำความผิดซ้ำ ศาลจะหยิบยกมาให้ความสำคัญในการพิจารณา
ส่วนการดำเนินการตามกฏหมายอาญาตามมาตรา 39 ห้ามเข้าเขตกำหนดหรือควบคุมตัวในกรณีจำเลยกระทำตัวเป็นอัตรายต่อสังคม และมาตรา 45 ศาลสั่งห้ามจำเลยเข้าเขตที่กำหนดไม่เกิน 5 ปี ทางตำรวจก็จะมีการบรรยายไปในสำนวน แต่จะมีการบังคับใช้หรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาล
สำหรับข้อหาอื่นๆ เจ้าหน้าที่ตำรวจจำเป็นต้องรวบรวมพยานหลักฐานอื่นๆ มาประกอบให้รอบด้านเพื่อความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย โดยตำรวจเข้าใจความรู้สึกและความเดือดร้อนของชาวบ้านเป็นอย่างดี แต่การดำเนินคดีจะต้องบึ้นอยู่กับกรอบของกฏหมาย ทั้งที่ตำรวจทุกนานอยากจะลุย แต่บางครั้งติดเรื่องข้อกฏหมายทำให้ไม่ทันใจชาวบ้าน ขอให้อดใจรอ
ส่วนการไลฟ์สดโชว์อาวุธปืนและก่อความเดือดร้อนรำคาญเดินไปมาในหมู่บ้านนั้น ขณะนี้ตำรวจได้รวบรวมหลักฐานไว้ทั้งหมดแล้วและจะต้องมีการถอดถ้อยคำจากคลิปวิดีโอไลฟ์สด เพื่อดูว่าเข้าข่ายว่าการกระทำผิดกฏหมายข้อใดบ้าง
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา ชิงทรัพย์โดยใช้อาวุธมีด ก่อนส่งตัวเข้าห้องขัง โดยำนักงานสอบสวนจะนำตัวไปฝากขังที่ศาลอาญารัชดาวันพรุ่งนี้ (21 ก.ค.) พร้อมทั้งคัดค้านการประกันตัว
เอก สายเต๊าะ ประวัติก่อคดีเพียบ
จากการตรวจสอบประวัตินายเอก พบว่าเคยถูกจับดำเนินคดีฐานฉ้อโกง เมื่อปี 2553 ท้องที่ สภ.คลองหลวง จำคุก 1 ปี 6 เดือน และคืนเงินให้ผู้เสียหาย จำนวน 3,050,000 บาท
คดีทำให้เสียทรัพย์ 2 คดี ท้องที่สน.ดอนเมือง และคดีมีอาวุธปืน โดยไม่ได้รับอนุญาต จากการเข้าตรวจค้นบ้านพัก, คดีถอยรถชนบ้านคู่กรณีและ มีการไลฟ์สดโชว์อาวุธปืนผ่านโซเชียล รวม 2 คดี เมื่อช่วงต้นเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา
สำหรับในปี 2567 ตั้งแต่เดือนมกราคม-ปัจจุบัน ถูกผู้เสียหายแจ้งความ ก่อความเดือดร้อนรำคาญ รวม 11 คดี จากผู้เสียหายเพียง 1 รายเท่านั้น ของ ท้องที่ สน.ดอนเมือง ถูกดำเนินคดีพกพาอาวุธมีด ฯ และจอดรถกีดขวางการจราจร ตาม พ.ร.บ.จราจร ที่นายเอก ขับรถจอดขวางหน้าหมู่บ้าน กระทั่งมาถูกจับกุมคดีชิงทรัพย์ รปภ.ในครั้งนี้