ข่าว

ไทม์ไลน์ ปมเหตุชายคลั่งพระราม 2 ลั่นไกใส่ ตร. ดับ ก่อนปลิดชีพตัวเอง

21 ก.ค. 2567

ไทม์ไลน์ ปมเหตุชายคลั่งพระราม 2 ลั่นไกใส่ ตร. ดับ 1 บาดเจ็บ 2 ราย เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกว่า 9 ชม. ก่อนปลิดชีพตัวเองช่วงรุ่งสาง

จากรณี พบศพชายคลุ้มคลั่ง คาดทำร้ายตัวเอง หลังก่อเหตุใช้ปืนยิง จนท.ตร. เสียชีวิตและบาดเจ็บ ภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ซ.2 ท่าข้าม กทม. โดย จนท.ใช้เวลาปิดล้อมทั้งคืนที่ผ่านมา และคนร้ายยิงปืนออกมาเป็นระยะ ก่อนเจ้าหน้าที่เปิดปฏิบัติการยิงแก๊สน้ำตาและบุกเข้าอาคารช่วงเช้ามืด (21 ก.ค.2567) ที่ผ่านมา ขณะที่เวลา 06.00 น. รับแจ้งจาก จนท.ปฏิบัติการพิเศษคอมมานโด/ อรินทราช ยืนยัน ผู้ก่อเหตุเสียชีวิต

ไทม์ไลน์ ปมเหตุชายคลั่งพระราม 2 ลั่นไกใส่ ตร. ดับ ก่อนปลิดชีพตัวเอง

พลตำรวจโท สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร.เปิดเผยว่า เบื้องต้น พบอาวุธปืนยังไม่ทราบขนาดอยู่ข้างร่างผู้ก่อเหตุ 1 กระบอก ส่วนเวลาที่เสียชีวิต รวมทั้งสาเหตุการเสียชีวิตยังต้องรอผลตรวจจากนิติเวช ส่วนเรื่องรายละเอียดต่างๆ อยู่ระหว่างการตรวจสอบจากกองพิสูจน์หลักฐาน ทั้งนี้ยืนยันว่าการปฏิบัติการดังกล่าวเป็นไปตามยุทธวิธี

 

 

 

ก่อนหน้านี้ เวลา 05.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประกาศผ่านเครื่องขยายเสียง ขอความร่วมมือกับประชาชนบริเวณข้างเคียงจุดที่เกิดเหตุ ไม่ให้ออกมาภายนอกเคหสถาน ในขณะที่การเจรจาเกลี้ยกล่อมได้ยุติลง เนื่องจากผู้ต้องหาไม่มีท่าทีจะยอมมอบตัว โดยสถานการณ์เป็นไปด้วยความตึงเครียด โดยคนร้ายได้ยิงปืนออกมา 1 นัดตอนเวลา 04.40 น.

ไทม์ไลน์ ปมเหตุชายคลั่งพระราม 2 ลั่นไกใส่ ตร. ดับ ก่อนปลิดชีพตัวเอง

จากนั้นเวลา 05.20 น. เจ้าหน้าที่เริ่มเปิดฉากยิงแก๊สน้ำตาเข้าไปในบ้านเกิดเหตุ 2 นัด เวลา 05.27 น. ยิงแก๊สน้ำตาอีก 3 นัด เวลา 05.28 น. เสียงปืนดังขึ้น 4 นัด เวลา 05.29 น. เจ้าหน้าที่ยิงอีก 4 นัด เวลา 05.35 น. เสียงปืนเจ้าหน้าที่ดังขึ้นอีก 2 นัด เวลา 05.38 เสียงปืนดังขึ้น 1 นัด ระเบิดเสียง 1 ครั้ง เวลา 05.40 น. เสียงปืนดังอีก 2 นัด เวลา 05.45 น. เสียงปืนดังขึ้นอีก 3 นัด เวลา 05.49 น. เสียงปืนดังขึ้นอีก 3 นัด

 

กระทั่งเวลา 05.51 น. เจ้าหน้าที่เรียกรถกู้ชีพเข้ามาประจำจุดเตรียมรอรับคนเจ็บส่ง รพ. โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจนำ "แนวกั้นของตำรวจห้ามผ่าน" มาขึงบริเวณโดยรอบจุดเกิดเหตุ เพื่อการสถานที่ไว้ให้เจ้าหน้าที่ตรวจพิสูจน์

ไทม์ไลน์ ปมเหตุชายคลั่งพระราม 2 ลั่นไกใส่ ตร. ดับ ก่อนปลิดชีพตัวเอง

แต่หลังจากนั้น ได้ประสานให้ทางรถกู้ภัยออกจากจุดเกิดเหตุ โดยมีรายงานเบื้องต้นว่า พบศพผู้เสียชีวิตอยู่บริเวณใต้บันไดชั้นลอย ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้ประสานแพทย์นิติเวช โรงพยาบาลศิริราช และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน เข้ามาตรวจสอบผู้เสียชีวิตต่อไป  เจ้าหน้าที่ได้ประกาศผ่านเครื่องขยายเสียงว่าให้ประชาชนทั่วไปสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ

 

ไทม์ไลน์ ปมเหตุชายคลั่งพระราม 2 ลั่นไกใส่ ตร. ดับ ก่อนปลิดชีพตัวเอง

ย้อนไทม์ไลน์

ทั้งนี้ จุดเริ่มเหตุการณ์ เกิดขึ้น เมื่อเวลา 21.45 น. ของวันที่ 20 ก.ค.2567  พ.ต.ท.กิตติ์ชนม์ จันยะรมณ์ รองผกก.ป.สน.ท่าข้าม และ ด.ต.ไชยวัฒน์ อัตโสภณวัฒนา ผบ.หมู่ป.สน.ท่าข้าม ได้รับแจ้งเหตุทะเลาะวิวาท ภายในครอบครัวโดยมีอาวุธปืน เหตุเกิดที่บ้านหลังหนึ่ง ภายในหมู่บ้านดีแห่งหนึ่ง ซอย 2 ถนนพระรามสอง แขวงและเขตบางบอน กทม. จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ

 

ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์ 1 คูหาสูง 3 ชั้น โดยขณะเข้าไประงับเหตุที่บริเวณหน้าบ้าน ปรากฏว่าคนร้าย ชื่อนายบุญมา (สงวนนามสกุล) อายุ 49 ปี ในเบื้องต้นทราบว่า เป็นบิดาได้ทะเลาะกับลูกภายในบ้าน ได้ใช้ปืนยิง พ.ต.ท.กิตติ์ชนม์ ที่พยายามเข้าไปเจรจา แต่กลับถูกฝ่ายบิดายิงสวนด้วยอาวุธปืนเข้าที่บริเวณหน้าอกขวา 1 นัด , หน้าอกซ้าย 1 นัด และง่ามนิ้วมือซ้าย 1 นัด ขณะที่ ด.ต.ไชยวัฒน์ ได้รับบาดเจ็บเช่นกัน

ไทม์ไลน์ ปมเหตุชายคลั่งพระราม 2 ลั่นไกใส่ ตร. ดับ ก่อนปลิดชีพตัวเอง

 โดยเจ้าหน้าที่อาสากู้ภัยรีบนำตัว พ.ต.ท.กิตติ์ชนม์ และ ด.ต.ไชยวัฒน์ ส่งโรงพยาบาลสหวิทยาการมะลิ แต่ปรากฏว่า พ.ต.ท.กิตติ์ชนม์ อาการสาหัสและเสียชีวิตในเวลาต่อมา ทั้งนี้จากเหตุการณ์ดังกล่าวยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 1 ราย คือ น.ส.สาธิกา อายุ 15 ปี ลูกสาวของผู้ก่อเหตุ ถูกอาวุธปืนตบได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย

 

ต่อมาหลังเกิดเหตุ พล.ต.อ.สำราญ นวลมา ผู้ช่วยผบ.ตร. พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผบช.น. พล.ต.ต.พงศ์อานันต์ คล้ายคลึง รองผบช.น. พล.ต.ต ประสงค์ อานมณี ผบก.น.9 พร้อมด้วย พ.ต.อ.เลิศศักดิ์ เขียมทรัพย์ ผกก.สน.ท่าข้าม ลงพื้นที่

ไทม์ไลน์ ปมเหตุชายคลั่งพระราม 2 ลั่นไกใส่ ตร. ดับ ก่อนปลิดชีพตัวเอง

จากนั้นประสานกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยอรินทราช 26 เข้าปฏิบัติหน้าที่บริเวณบ้านหลังเกิดเหตุ โดยมีการประกาศให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องภายในบ้าน ออกมาจากตัวบ้านให้หมด พร้อมกันไม่ให้พูดที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปอยู่ใกล้บริเวณจุดเกิดเหตุ โดยเจ้าหน้าที่หน่วยอรินทราช 26 ยังอยู่ระหว่างการปิดล้อม พร้อมใช้เครื่องขยายเสียงเกลี้ยกล่อมให้ผู้ก่อเหตุยอมมอบตัว แต่กลับมีเสียปืนดังขึ้นจากในอาคารเป็นระยะๆ

 

จากการสอบถาม นายสุวิทย์ โพธิสุข อาสาสมัคร อปพร.เขตบางบอน ที่เข้ามาเป็นทีมระงับเหตุเปิดเผยว่า หลังได้รับแจ้งเหตุได้มาตรวจสอบตามพิกัด พบตำรวจนอนหมดสติจมกองเลือดอยู่หน้าบ้าน ขณะที่ภายในบ้าน พบลูกสาวของผู้ก่อเหตุถูกพ่อใช้อาวุธปืนไม่ทราบขนาดตบเข้าไปที่บริเวณใบหน้า เจ้าหน้าที่จึงช่วยเหลือสมาชิกในครอบครัวจำนวน 4 คน ออกมาจากบ้านพักหลังดังกล่าว

 

โดยลูกสาวให้ข้อมูลว่า พ่อมีอาวุธปืนจำนวน 4 กระบอก คือ ขนาด.38 , ขนาด 9 มม. , ขนาด 11 มม. และปืนลูกซอง พร้อมเครื่องกระสุนปืนจำนวนหนึ่งไว้ในครอบครอง

 

ทั้งนี้ ทราบว่า เมื่อ 1 เดือนที่ผ่านมา มีทีมอาสากู้ภัยได้รับแจ้งเหตุจากตำรวจว่า ต้องการสนับสนุนรถพยาบาลไปส่งผู้ก่อเหตุ มีอาการป่วยจิตเวชไปรักษา แต่เมื่อมาถึงบ้านหลังดังกล่าว กลับถูกผู้ก่อเหตุ ข่มขู่ว่าจะใช้อาวุธปืนทำร้ายมาแล้ว มีข้อมูลว่า ผู้ก่อเหตุขาดยา และไม่ได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่องมานาน 1 ปี

 

มีรายงานว่า สำหรับพ.ต.ท.กิตติ์ชนม์ เจ้าหน้าที่ตำรวจผู้เสียชีวิต เพิ่งออกตรวจเวรที่วัดบัวผัน เมื่อได้รับแจ้งเหตุดังกล่าว จึงรีบเข้าระงับเหตุในทันที โดย พ.ต.ท.กิตติ์ชนม์ อายุ 59 ปี จะเกษียณอายุราชการในปี 2568  แต่มาถูกคนร้ายยิงเสียชีวิตเสียก่อน

 

ต่อมาเวลา 02.00 น. วันที่ 21 ก.ค. พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. เปิดเผยว่า ตำรวจอยู่ระหว่างการเจรจากับผู้ก่อเหตุ เบื้องต้นผู้ก่อเหตุที่อยู่บริเวณชั้นลอยของบ้าน ยังไม่มีท่าทีสงบ และใช้ปืนยิงสวนตำรวจเป็นระยะ แต่ตำรวจที่คุมสถานการณ์อยู่โดยรอบบ้านไม่ได้ยิงตอบโต้ เพราะเกรงประชาชนละแวกข้างเคียงจะถูกลูกหลง

 

เบื้องต้น ขอประเมินสถานการณ์เป็นระยะ จากยุทธวิธีเบาไปหาหนัก และปฏิบัติการอย่างรอบคอบที่สุด ส่วนการเยียวยา ครอบครัว พ.ต.ท.กิตติ์ชนม์ ยืนยัน จะดูแลเต็มที่  จากข้อมูลที่มีทราบว่า ผู้ก่อเหตุชอบสะสมปืน และเคยฝึกฝนยิงปืน โดยปืนทั้งหมด เป็นปืนที่ถูกต้องตามกฎหมาย ส่วนเรื่องผู้ก่อเหตุ มีอาการป่วยทางจิตหรือไม่ ขอตรวจสอบก่อน

 

เวลา 03.00 น. เจ้าหน้าที่หน่วยเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด หรืออีโอดี ส่งเจ้า EOD ROBOT ไปสังเกตุการณ์ตามพื้นที่บริเวณโดยรอบของบ้าน หลังจุดเกิดเหตุ เพื่อประเมินสถานการณ์ โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฎิบัติการณ์คอยกระจายกำลังตามจุดต่างๆ เพื่อกระชับพื้นที่ และเฝ้าระวังเต็มพื้นที่ บริเวณโดยรอบ

 

อีกทั้งยังใช้ธรรมะผ่านเครื่องขยายเสียงคอยเกลี้ยกล่อม ให้ตัวผู้ก่อเหตุใจเย็นวางปืนลง และเดินเข้ามอบตัวกับทางเจ้าหน้าที่ แต่เจ้าตัวยังเก็บตัวเงียบในบ้าน