ข่าว

พี่สาว "รองหรั่ง" รับร่างน้องชาย ภูมิใจในตัวน้อง ทำหน้าที่เต็มภาคภูมิแล้ว

ครอบครัวเศร้า รับศพ "รองหรั่ง" พี่สาว เผย ภูมิใจในตัวน้องชาย ทำหน้าที่ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ได้เต็มภาคภูมิแล้ว ก่อนที่ ภรรยาและครอบครัว ได้เดินทางมาทำพิธี เชิญวิญญาน "รองหรั่ง" ที่บ้านเกิดเหตุ

จากกรณี นายบุญมา (สงวนนามสกุล) หรือ เฮียตุ้ง ผู้ก่อเหตุจับลูกสาววัย 15 ปี เป็นตัวประกัน ก่อนจะใช้อาวุธปืนไม่ทราบขนาดยิงใส่ "รองหรั่ง" พ.ต.ท.กิตติ์ชนม์ จันยะรมณ์ รอง ผกก.ป.สน.ท่าข้าม กระสุนเจาะหน้าอกเสียชีวิต และยังมี ด.ต.ไชยวัฒน์ อัตโสภณวัฒนา ผบ.หมู่ ป.สน.ท่าข้าม ได้รับบาดเจ็บ เนื่องจากถูกสะเก็ดกระสุนกระเด็นใส่ที่บริเวณนิ้วโป้งมือซ้าย ที่บริเวณหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ซอย 2 ถ.พระรามสอง แขวงและเขตบางบอน กรุงเทพมหานคร เมื่อเวลาประมาณ 21.45 น. วันที่ (20 ก.ค. 2567) กระทั่งรุ่งเช้า นายบุญมา เสียชีวิตในภายหลังเช่นกัน ตามที่เสนอข่าวให้ทราบนั้น

 

 

ล่าสุดเมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 22 ก.ค.ที่ตึกภาควิชานิติเวชศาสตร์ รพ.ศิริราช พล.ต.ต.ประสงค์ อานมณี ผบก.น.9 พ.ต.อ.ศุภวัช ปานแดง รอง ผบก.น.9, พ.ต.อ.อชิรวิทย์ ทองจันดี รอง ผบก.น.9, พ.ต.อ.เลิศศักดิ์ เขียมทรัพย์ ผกก.สน.ท่าข้าม และครอบครัว ของ พ.ต.ท.กิตติ์ชนม์ พี่สาวพร้อมภรรยา และลูกชาย และญาติพี่น้อง เดินทางนำเอกสารติดต่อเข้ารับศพ ของ "รองหรั่ง" ผู้เสียชีวิต โดยมีการใช้รถยนต์กระบะตำรวจในสังกัด บก.น.9 ทั้ง 10 สน. เพื่อมาตั้งขบวนนำร่างของ พ.ต.ท.กิตติ์ชนม์ ไปที่วัดยางสุทธาราม แขวงบ้านช่างหล่อ เขตบางกอกน้อย กทม. อย่างสมเกียรติ โดยบรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า

 

ด้าน พ.ต.ท.หญิง จิราวรรณ อายุ 61 ปี พี่สาวผู้ตาย กล่าวว่า ครอบครัวตนยากจนมาก่อน พ่อขับสามล้อส่งเสียลูกทั้ง 4 คน  เพราะพ่อของตนคิดว่าการเป็นตำรวจจะได้มีถูกใครรังเเก อยากให้ลูกเป็นตำรวจทั้งหมด แต่มีเพียงตนและน้องชายเป็นตำรวจกันอยู่แค่ 3 คน  ตนเสียใจมาก น้องตนเป็นคนดีไม่น่ามาจบชีวิตเช่นนี้ ที่ผ่านมาน้องตนทำเเต่งานเป็นรับในการ ปฏิบัติตลอดเวลาเวลาอยู่บ้านก็เปิดวิทยุวิทยุตำรวจฟังเหตุการณ์ตลอดเวลา

 

 

พ.ต.ท.หญิง จิราวรรณ

 

โดยแม่ตน เป็นผู้ป่วยติดเตียงแต่น้องชาย ก็มาดูแลแม่ไปด้วยพร้อม ฟังวิทยุตำรวจในการสังเกตการณ์เหตุการณ์ต่างๆ อยู่ตลอด แล้วก็ไม่ได้บอกผู้บังคับบัญชาว่าตนเองมีความจำเป็นที่ดูแลแม่ที่ป่วยติดเตียง  

 

น้องตนเคยรับตำแหน่งมาหมดแล้วตั้งแต่เจ้าหน้าที่จราจรยัน รองผู้กำกับฝ่ายปราบปราม ผ่านมาหมด จนเหลือเพียงแค่ปีสุดท้ายก่อนการเกษียณ แต่เมื่อเกิดความสูญเสียแล้วตนก็คิดว่าน้องชายตนทำหน้าที่ได้ดีที่สุดแล้ว "น้องทำหน้าที่ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ได้เต็มภาคภูมิแล้ว ถึงจะไปเกิดชาติภพไหนจะไม่อายใครในอาชีพที่ผ่านมา" พ.ต.ท.หญิง กล่าว 

 

 

รับศพรองหรั่ง

 

 

เหตุการณ์ดังกล่าว ไม่มีใครผิดหรือถูกเป็นสิ่งที่ทุกคนไม่ได้คาดคิด ลูกของผู้ก่อเหตุก็ไม่ได้มีความผิดอะไร ตำรวจที่เสียชีวิตก็ไม่ได้มีความผิดเช่นเดียวกัน เป็นเหมือนโชคชะตา หลังจากนี้ครอบครัวตนคงต้องทำใจและไม่มีความโกรธแค้นใดๆ เพราะเหตุการณ์ดังกล่าวทุกฝ่ายมีความสูญเสียเกิดขึ้น

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ครอบครัวเข้ารับร่างของ "รองหรั่ง" ได้มีการจุดธูปบอกกล่าวดวงวิญญาณของผู้เสียชีวิต โดยเจ้าหน้าที่นำผ้าขาวมาคลุมร่างของ พ.ต.ท.กิตติ์ชนม์ แบบมิดชิดก่อนนำขึ้นรถตู้สีขาว โดยมีรถ ผบก.น.9 นำขบวนตามด้วยรถตำรวจทั้ง 10 สน.

 

 

เคลื่อนร่าง

 

 

มีรายงานข่าวแจ้งว่า ทางผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์ติดต่อหาญาติของ เฮียตุ้ง ผู้ก่อเหตุและผู้เสียชีวิต เพื่อสอบถามว่าจะเข้ามารับศพเมื่อไหร่และวันไหน โดยทางญาติไม่ตอบคำถาม เนื่องจากไม่อยากให้เป็นข่าว ซึ่งร่างของเสี่ยตุ๊ง และรองหรั่ง อยู่โรงพยาบาลเดียวกันด้วย

 

 

อัญเชิญดวงวิญญาณ

 

 

ต่อมาเมื่อเวลา 12.00 น. พ.ต.ท.หญิง ชนม์ณกานต์ จันยะรมณ์ รอง ผกก.กองอัตรากำลัง สนง.กำลังพล และ ร.ต.ท.วันรัฐธ์ จันยะรมณ์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.สำโรงใต้ จ.สมุทรปราการ ภรรยาและลูกพร้อมครอบครัวของ พ.ต.ท.กิตติ์ชนม์ จันยรมณ์ หรือ "รองหรั่ง" เดินทางไปยังบ้านที่เกิดเหตุ ที่ พ.ต.ท.กิตติ์ชนม์ ถูกยิงเสียชีวิต โดยนิมนต์ พระสงฆ์ จากวัดยางสุทธาราม จำนวน 1 รูป เพื่อมาทำพิธีอัญเชิญวิญญาณ 

 

โดยทางครอบครัวได้นำโต๊ะมาตั้งหน้าบ้านจุดเกิดเหตุ พร้อมกับวางรูปภาพผู้ตาย มาตั้งบนโต๊ะ พร้อมกับอาหาร เครื่องเซ่นไหว้ อาทิ น้ำเขียว 1 ขวด, ก๋วยเตี๋ยว 1 ชาม, ข้าวเหนียวสังขยา, น้ำเปล่า 1 ขวด ตะเกียง และกระถางธูป เพื่อเชิญวิญญาณ จากนั้นได้ออกจากจุดเกิดเหตุ และไปยังวัดยางสุทธาราม เพื่อรออัญเชิญน้ำหลวงอาบศพพระราชทาน ในเวลา 16.00 น.

 

 

อัญเชิญดวงวิญญาณ