เพื่อนบ้านฉุน ไม่ไปขายน้ำกระท่อมให้ บุกยำเด็ก 14 ถึงในบ้าน
เพื่อนบ้านฉุน เด็ก 14 ลบเพื่อนในเฟซบุ๊ก ขนพวกบุกยำถึงในบ้าน น้าสุดทนเผยปมก่อเหตุอุกอาจ ก่อนหน้านี้เคยบุกตบพี่สาว 2 ครั้ง
23 ก.ค.2567 จากกรณี น้าสาวรายหนึ่ง มาขอให้ "กัน จอมพลัง" ช่วยหลานสาว อายุ 14 ปี ถูกเพื่อนบ้านบุกมาตบถึงในบ้าน เหตุไม่พอใจที่หลานสาวลบเพื่อนในเฟซบุ๊กเพื่อนบ้าน เนื่องจากเพื่อนบ้านชอบส่งข้อความมาคุกคาม ข่มขู่ พี่สาวผ่านหลานสาวอยู่บ่อยครั้ง
ก่อนหน้าเคยบุกมาทำร้ายพี่สาวถึง 2 ครั้ง เหตุไม่พอใจที่พี่สาวไม่ไปช่วยขายน้ำกระท่อม และ บุกเข้าบ้านมาตบหลานสาวคาชุดนักเรียน และ ขู่จะทำร้ายทั้งครอบครัว ทางน้าจึงอยากให้ "กัน จอมพลัง" ช่วย เนื่องจากผู้ก่อเหตุเปิดร้านน้ำกระท่อม มีพักพวกเป็นเด็กวัยรุ่นเยอะ มีการโพสต์ข่มขู่ตลอดเวลา ซึ่งเหตุการณนี้เกิดขึ้นในพื้นที่ สภ.บางพลี
ล่าสุดเมื่อเวลา 10.20 น. วันที่ 23 ก.ค. 2567 ที่ สภ.บางพลี จ.สมุทรปราการ กัน จอมพลัง หรือ นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ พาทางฝั่งผู้เสียหาย เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ไพโรจน์ เพ็ชรพลอย ผกก.สภ.บางพลี เพื่อขอให้ช่วยเหลือและดำเนินการในเรื่องคดี
กัน เผยว่า วันนี้ผมพาน้องมาพบ ท่าน ผกก. อย่างคลิปที่เราเห็น มีอดีตเพื่อนบ้านบุกเข้ามาในบ้าน เข้ามาหาน้อง และ ตบน้องหลายทีแบบไม่ยั้งเลย ผมก็ถามว่าเพราะอะไร ซึ่งจากคลิปจะได้ยินว่า อันเฟรนด์ มาตบเพาะว่า อันเฟรนด์ เลิกเป็นเพื่อนในเฟซบุ๊กกัน ผมว่ามันเป็นเรื่องไร้สาระ ผมก็เลยถามน้องว่า อันเฟรนด์ เขาเพราะอะไร น้องบอกว่า เพื่อนบ้านคนนี้ชอบส่งข้อความมาด่าแม่เขา ด่าเขา
แล้วก่อนหน้านี้ก็เคยมาตบแม่เขาถึงในบ้านสองครั้งแล้ว ซึ่งสาเหตุที่มาตบก็คือ จะให้แม่เขามานั่งขายน้ำกระท่อมให้ แต่ไม่แม่น้องไม่ไปเพราะกลัวเดือดร้อนและมีปัญหา เขาจึงไม่พอใจ ตบแม่แล้วยังตบลูกด้วย ผมเลยประสาน ผกก.สภ.บางพลี ท่านก็ได้รับเรื่องแล้ว ซึ่งทางครอบครัวน้อง ก็ได้แจ้งความไว้เมื่อวันที่ 18 ก.ค. ทาง ผกก ก็รับเรื่องจะช่วยเหลืออย่างเต็มที่
วันนี้เดี๋ยวจะลงจุดขายน้ำกระท่อมด้วย ถ้าส่วนตัวผม ถ้าเขาใช้ชีวิตปกติ มันก็เป็นเรื่องเล็กน้อย เพราะบ้านเราเปิดไฟเขียวให้ตรงนี้เอง แต่ไม่ใช่เขาไม่ขายให้ คุณก็จะไปบุกบ้านตบเขา ตบลูกเขา บ้านเมืองมีกฎหมาย เขามีสิทธิ์อะไร เขาอาจเคยช่วยเหลือกันบ้าง แต่ก็ไม่ได้มีสิทธิ์จะมาเดินมาตบลูกเขาในบ้าน แล้วคนที่ถ่ายคลิปก็เป็นญาติกับน้อง หลานตัวเองถูกตบแล้วยังมาเผยแพร่ประจานอีก เข้ามาตบแม่พาเพื่อนมาถ่ายคลิปด้วย และตบเสร็จก็บอกน้องว่า ให้ไปบอกแม่มึงด้วยว่าตบลูกมึงแล้ว
คลิปก็ไม่ใช่เจ้าของบ้านนะที่ถ่าย เพื่อนเป็นคนถ่ายแล้วไปส่งคลิปโชว์ประจาน มันไม่โอเค ในส่วนหนี้สินผมเองยังไม่ทราบ แต่ในส่วนขายน้ำกระท่อมมันตรงกัน และอย่างแชทที่เราเห็น ผมดูแล้ว เขาคิดว่าเห็นพวกเยอะและไม่เกรงกลัวอะไรเลย
น้าสาว เล่าว่า ก่อนหน้าเขาก็ข่มขู่ เขาบอกว่ากูตบลูกมึงแล้วนะ น้องเขากลัว ส่วนเรื่องหนี้สินไม่เคยมีติดค้างกัน บางทีเขาก็มาด่าหน้าบ้าน แต่ทางเราไม่มีอะไร เรารู้จักกับเขามานานแล้ว แต่เขาย้ายออกไปอยู่ข้างนอก พี่สาวเราเคยไปพักอาศัยอยู่แต่ไม่นาน แต่เขาก็เคยไปช่วยขายน้ำกระท่อม เขาให้วันละ 300 บาท แต่พอหลังๆ ไม่ได้ไป เขาก็มาข่มขู่ว่าทำไมมึงไม่มา เดี๋ยวกูจะไปตามล่ามึงนะ พี่สาวเขาก็กลัว
หลังจากที่เขามาตบหน้าหลานเราก็ไม่ได้คุกคามอะไรอีก เราก็ยังเจอเขาอยู่ กลัวว่าเขาจะลอบทำร้ายอะไรอีก อยากฝากบอกเขาว่า ทำไมต้องมาทำร้ายน้องด้วย ก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน
พ.ต.อ.ไพโรจน์ เพ็ชรพลอย ผกก.สภ.บางพลี เปิดเผยว่า พ่อเด็กและเด็กมาแจ้งความที่โรงพัก ทางร้อยเวรก็ได้ซักถามรายละเอียดทั้งหมด จนทราบว่าผู้ก่อเหตุคือใคร และตรวจสอบทะเบียนราษฎร์ ปรินท์ภาพของผู้ก่อเหตุ เพื่อให้ผู้เสียหายชี้ยืนยันว่าใช่คนนี้ไหม และจะต้องมีการนัดสหวิชาชีพเพื่อสอบปากคำ
กระทั่งนัดวิชาชีพแล้ว ทางพ่อเด็กซึ่งคาดว่าจะเสียเวลาหรือไม่สะดวก ทางพ่อเลยบอกว่าไม่ติดใจ จึงมีการยุติอยู่แค่นั้น แต่ภายหลังทางแม่ซึ่งทำงานอยู่ชลบุรี มาทราบว่าลูกสาวอายุ 14 ปี มาถูกตบทำร้ายร่างกาย จึงไปแจ้งทางคุณกัน จอมพลังให้ช่วยเหลือ และมายัง สภ.บางพลี
ส่วนใบแพทย์ที่ยังไม่ได้ส่งไป เพราะทางน้องไม่ได้ไปโรงพยาบาล แต่มีการถามน้องว่ามีการถ่ายรูปบาดแผลไหม น้องบอกไม่ได้ถ่าย มาดูบาดแผลตอนนี้ก็เริ่มจางหายไปแล้ว มีเพียงคลิปที่ทางฝั่งผู้ก่อเหตุนั้นได้ถ่ายไว้ ซึ่งมันใช้เป็นหลักฐานในการดำเนินคดีได้ ส่วนตอนนี้เท่าที่ทราบ มีฝ่ายก่อเหตุคือผู้หญิงหนึ่งคน และผู้หญิงถ่ายคลิปอีกหนึ่งคน
เบื้องต้นเป็นการร่วมกันบุกรุกเคหะสถาน แต่เนื่องจากเวลาเกิดเหตุคือช่วงเจ็ดโมงเช้า จึงเป็นการร่วมกันบุกรุก แต่ในเรื่องทำร้ายร่างกาย ก็มีอัตราโทษปรับ แต่โทษจำคุกคือร่วมกันบุกรุก ซึ่งเหตุมันเกิดเมื่อวันที่ 16 ก.ค. 2567 ที่ผ่านมา แต่วันนี้วันที่ 23 ก.ค.2567 ก็คงต้องออกหมายเรียกมาก่อน ถ้าเขาไม่มาก็จะต้องออกหมายจับ
ตอนนี้นอกจากมีสายตรวจอยู่ในพื้นที่ โรงพักเราก็ทำชุมชนยั่งยืนแถวบางปลาใกล้ๆโรงเรียนของน้องอยู่แล้ว พร้อมปกป้องน้องได้ แต่ถ้าจะไม่ให้มารบกวนน้องเลยก็คงต้องถูกจับกุม ซึ่งก็ได้ตรวจสอบแล้ว เขาไม่มีหมายจับในคดีอื่น แต่ก็เคยต้องโทษเมื่อหลายปีก่อนในคดียาเสพติดอยู่
ส่วนเรื่องที่เขามีการโพสต์ จะไปตรวจสอบดูว่ามีไหม และเข้าขาย พรบ.คอมพ์ฯ หรือไม่ ก็คงเป็นไปขั้นตอนตามกฎหมาย ส่วนประเด็นนำกระท่อมยังไม่ชัดเจนเรื่องนี้ ซึ่งทางแม่ของน้องจะเดินทางมาให้ปากคำเพิ่มในช่วงบ่าย ก็จะต้องรอความชัดเจนจากแม่อีก
แต่ในส่วนการดำเนินการ ร้อยเวรจะสอบปากคำเด็กในเบื้องต้นพร้อมสหวิชาชีพ ขอให้มั่นใจว่า ถ้าสอบสวนเสร็จสิ้นแล้ว และจะมีการจับกุมก็จะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง
ในเรื่องการขายน้ำกระท่อม ก็มีการกวาดล้างไป ก่อนหน้านี้ที่กฎหมายยังออกมาไม่ชัดเจนพอได้ทราบมาว่ามีบางพื้นที่ มีเด็กนักเรียนมีการดื่มน้ำกระท่อม จนเสียการเรียน ซึ่งหลังจากที่ผมย้ายมาดำรงตำแหน่งที่นี่ ก็ได้สั่งการกับลูกน้องว่า น้ำกระท่อมจะต้องไม่มีในพื้นที่ พอวันนี้ได้รับรู้ข้อมูลจากน้องผู้เสียหาย เราจึงมีการไปตรวจสอบ ไม่มีการขายน้ำกระท่อม แต่ถ้ามีเราก็จับแน่นอน