ข่าว

ยึดทรัพย์ "Turtle Farm" 116 ล้าน เฉลี่ยคืนผู้เสียหาย

ยึดทรัพย์ "Turtle Farm" 116 ล้าน เฉลี่ยคืนผู้เสียหาย

24 ก.ค. 2567

บช.สอท. ขยายผลคดี หลอกลงทุน "Turtle Farm" ฟาร์เห็ดลวงโลก ยึดทรัพย์ "116 ล้าน" เผย เตรียมเฉลี่ยคืนให้ผู้เสียหาย

24 ก.ค.2567 พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. นายกมลสิษฐ์ วงศ์ บุตรน้อย รองเลขาธิการ ปปง. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบัญชาการตำรวจปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) และ Mr.Bryan Anderson รองผู้ช่วยทูตประจำภูมิภาค สำนักงานสืบสวนความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิสหรัฐอเมริกา (HSI) ร่วมแถลงผลการปฏิบัติการยึดอายัดทรัพย์ขบวนการหลอกลงทุน Turtle Farm พร้อมส่งมอบทรัพย์สินกว่า 116 ล้านบาท เตรียมเข้าสู่กระบวนการเฉลี่ยคืนผู้เสียหาย ที่ อาคารสัมมนาและฝึกอบรม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (เมืองทองธานี)

ยึดทรัพย์ \"Turtle Farm\" 116 ล้าน เฉลี่ยคืนผู้เสียหาย

คดีนี้สืบเนื่องจากเมื่อช่วงเดือนพฤศจิกายน 2564 จนถึงเดือนกรกฎาคม 2565 ได้มี หจก.สถานีหลักสี่ ร่วมกับกลุ่มผู้ต้องหาที่ร่วมขบวนการรวมทั้งสิ้น 11 รายชักชวนประชาชนผ่านสื่อโซเชียลให้ร่วมลงทุนธุรกิจฟาร์มเห็ดในชื่อ "Turtle Farm"

 

โดยอ้างว่าเป็นการลงทุนเพาะเห็ด ปลูกพืชกระท่อม เลี้ยงผึ้ง รวมทั้งการลงทุนการเกษตรรูปแบบต่างๆ และอ้างว่าได้ผลกำไรตอบแทนในการลงทุนสูง โดยมีบริษัทหนึ่งรับหน้าที่ผลิตโฆษณาชวนเชื่อให้แก่กลุ่มผู้ต้องหา เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือต่อเหยื่อในการนำเงินมาลงทุน กระทั่งมีเหยื่อหลายรายหลงเชื่อโอนเงินลงทุน

 

 

จากนั้นกลุ่มผู้ต้องหาได้นำเงินที่ลงทุนดังกล่าวไป โดยไม่นำไปลงทุนฟาร์มตามที่โฆษณากล่าวอ้าง ผู้เสียหายจึงได้เข้าแจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้องในกระบวนการดังกล่าว

 

โดยจากข้อมูลพบว่า คดีนี้มีผู้เสียหายกว่า 1,885 ราย มูลค่าความเสียหายรวมกันกว่า 1,290 ล้านบาท

 

ต่อมา บช.สอท. ได้ตั้งชุดทำงานรับผิดชอบคดีดังกล่าว และได้ร่วมกันนำกำลังเข้าตรวจค้น Total Farm ณบ้านหลังหนึ่ง ในอำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร ซึ่งจดทะเบียนโดย หจก.สถานีหลักสี่ และ บจก.ไมน์นิ่ง มายน์ เอ็กซ์ และได้รวบรวมพยานหลักฐาน จนสามารถดำเนินคดีกับผู้ต้องหาได้จำนวน 11 ราย ในข้อหาฉ้อโกงประชาชน ,กู้ยืมเงินเพื่อฉ้อโกงประชาชน , และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ

 

จากนั้นได้ขยายผลนำกำลังเข้าตรวจค้นบ้านหลังหนึ่ง ย่านถนนรามอินทรา-นวมินทร์ และบริษัทรับผลิตสื่อโฆษณา ให้กับกระบวนการดังกล่าวในพื้นที่ แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กทม. จับกลุ่มผู้ต้องหาได้อีก 3 ราย ในข้อหาฟอกเงิน รวมคดีนี้มีผู้ต้องหาทั้งสิ้น 14 ราย

 

วันที่ 21 ธันวาคม 2565 สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินได้มีคำสั่งยึดทรัพย์ครั้งที่ 1 รวมจำนวน 21 รายการมูลค่ากว่า 12 ล้านบาท วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2566 ได้มีคำสั่งยึดทรัพย์ครั้งที่ 2 จำนวน 3 รายการ มูลค่ากว่า 5 ล้านกว่าบาท พร้อมดอกผล

 

วันที่ 14 มีนาคม 2561 ได้มีคำสั่งยึดทรัพย์ครั้งที่ 3 จำนวน 4 รายการรวมมูลค่ากว่า 1.2 ล้านบาท พร้อมดอกผล ต่อมา 21 ธันวาคม 2566 ศาลจังหวัดสกลนครได้มีคำพิพากษา ให้จำเลย 11 รายแรก ในความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน และความผิดตามพรบ.คอมพิวเตอร์ โดยตัดสินให้จำคุกกระทงละ 5 ปี ซึ่งคดีนี้มีผู้เสียหาย 1,117 คน รวมความผิด 1,117 กระทงโทษจำคุก 5,585 ปี แต่ตามกฎหมายจำคุกได้ไม่เกิน 20 ปี และยังพิพากษาให้จำเลยคืนเงินค่าเสียหายให้กับผู้เสียหายรายละ 550,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 614,350,000 บาท 

ในส่วนคดีความผิดฐานฟอกเงิน พนักงานสอบสวนได้สรุปความเห็นสั่งฟ้อง หจก.หลักสี่ บจก.ไมน์นิ่ง มายน์ เอ็กซ์ และกรรมการอีก 3 คน รวมถึง บริษัท พี เอ็น มาร์เก็ตติ้ง ออนไลน์ จำกัดซึ่งเป็นบริษัทที่รับผลิตสื่อโฆษณา และผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องรวมทั้งสิ้น 8 ราย เสนอพนักงานอัยการ

 

จากนั้นเมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2561 สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ได้มีคำสั่งคณะกรรมการธุรกรรม เรื่องการยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดไว้ชั่วคราว(เพิ่มเติม) หจก.สถานีหลักสี่ และพวก จำนวน 30 รายการรวมราคาประเมินมูลค่ากว่า 116 ล้านบาท ซึ่งหากรวมทรัพย์สินที่ยึดและอายัดจำนวน 4 ครั้ง รวมราคาประเมินจำนวนทั้งสิ้นกว่า 139 ล้านบาท

 

ล่าสุดช่วงเช้ามืดวันที่ 24 กรกฎาคม 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการ ปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 3 (บช.สอท.3) ได้สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์ร่วมกับเจ้าหน้าที่ปปง. เข้าตรวจยึดบ้านหรูพร้อมที่ดินและคอนโดในพื้นที่กรุงเทพฯ จำนวน 2 แห่ง แห่งแรก บ้านหรูหลังหนึ่ง ในซอยพระยาสุเรนทร์ 40 ถนนรามอินทรา-นวมินทร์แห่งที่ 2 ห้องชุดชั้น 8 คอนโดแห่งหนึ่ง ย่านเขตบึงกุ่ม สามารถตรวจยึดและอายัดทรัพย์สินจากการกระทำผิดของกระบวนการหลอกลงทุน Total ฟาร์มครั้งที่ 4 ได้มูลค่ากว่า 116 ล้านบาทให้แก่ปปงเพื่อเข้าสู่กระบวนการตามกฎหมายและนำทรัพย์สินทั้งหมดเฉลี่ยคืนให้แก่ผู้เสียหายที่โดนหลอกลวงต่อไป