ข่าว

สตช. ชี้แจง "เสื้อเกราะ" ทำจากเส้นใย ไม่ใช่ไม้อัด ทดสอบยิง กระสุนไม่ทะลุ

สตช. แถลงดราม่า "เสื้อเกราะไม้อัด" ยืนยันทำจากเส้นใย พาชมทดสอบยิงจริง ไม่มีกระสุนทะลุ จัดซื้อ 34,000 บาท/ตัว ยืนยันคุณภาพตามมาตรฐาน NIJ ขอตำรวจเชื่อมั่นขณะสวมใส่ปฏิบัติหน้าที่

พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมกับ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ , พล.ต.ต.นิรันดร ศิริสังข์ไชย ผู้บังคับการกองสรรพาวุธ , พล.ต.ต.วาที อัศวุตมางกุร ผู้บังคับการพิสูจน์หลักฐานกลาง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง แถลงประเด็นดราม่า "เสื้อเกราะไม้อัด" ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ  

 

โดยผลการตรวจสอบเสื้อเกราะตัวตามภาพที่เป็นข่าว พบว่า มีหมายเลขซีเรียลนัมเบอร์ 8A154338 เป็นเกราะที่ตำรวจเคยใช้ในราชการ เป็นหนึ่งในเสื้อเกราะที่ได้สั่งซื้อเมื่อเดือนเม.ย. 2553 จำนวนทั้งสิ้น 650 ตัว (เป็นเสื้อเกราะพร้อมแผ่นเกราะแข็ง ระดับ 3 จำนวน 500 ตัว และเป็นเกราะอ่อน อีก 150 ตัว) ยืนยันทุกตัวมีมาตรฐานความปลอดภัยตามมาตรฐานของ NIJ (National Institute of Justice) ประเทศสหรัฐอเมริกาและวัสดุที่ใช้เป็นเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดในขณะนั้น ราคาในการจัดซื้อสอดคล้องกับงบประมาณที่มีอยู่ และมีอายุการใช้งาน 5 ปี  

ทดสอบยิงเสื้อเกราะ

พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ กล่าวว่า ปัจจุบันเสื้อเกราะดังกล่าวเลิกใช้งานแล้ว โดยหมดอายุการใช้งานมาเป็นระยะเวลา 8 ปีแล้ว โดยหมดอายุการใช้งานเมื่อปี 2559 และอยู่ในระหว่างขั้นตอนการจำหน่ายและทำลายตามระเบียบราชการ (ยุทธภัณฑ์ของทางราชการซึ่งหมดอายุการใช้งานแล้วจะต้องนำไปทำลายตามที่ระเบียบกำหนด)  

 

เพื่อเป็นการยืนยันถึงวัสดุและมาตรฐานของเสื้อเกราะข้างต้น ตร. ได้มอบหมายให้สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ (สพฐ.ตร.) นำเสื้อเกราะดังกล่าวไปตรวจทางเคมีในห้องปฏิบัติการ

 

พล.ต.ท.ไตรรงค์ เปิดเผยผลการตรวจสอบเป็นเส้นใย polyethylene เมื่อผ่านกระบวนการผลิตเทคนิคพิเศษทำให้เกิดความแข็งแรง และมีน้ำหนักเบา เมื่อมาใช้กันกระสุนคุณสมบัติของเส้นใยชนิดนี้ กระสุนจะถูกจับยึด ด้วยเส้นใย เส้นใยเหล่านี้จะดูดซับและกระจายพลังงานของหัวกระสุนปืน เป็นผลให้กระสุนนั้นบิดเบี้ยวหรือเสียรูปไปจนไม่สามารถทะลุเกาะได้

 

โดยนำมาทับเป็นชั้นๆ ในแต่ละชั้นใช้ตัวเชื่อมประสาน ซึ่งมีสเปคและคุณลักษณะถูกต้องตามสัญญาการจัดซื้อทุกประการ และเป็นไปตามมาตรฐาน NIJ รวมทั้งยังได้ทดสอบการยิงกระสุนจริงใส่เสื้อเกราะในล็อตเดียวกันที่ซื้อมาเมื่อ พ.ศ. 2553 อีกจำนวน 3 ตัว โดยใช้กระสุนขนาด 9 มม. , ขนาด .357 และ ขนาด .45 อย่างละ 3 นัด รวมจำนวน 9 นัด ผลปรากฏว่า เสื้อเกราะทั้ง 3 ตัวสามารถกันกระสุนได้ทั้งหมด ไม่มีกระสุนนัดใดทะลุเสื้อเกราะ

เส้นใย polyethylene ในเสื้อเกราะ

ผลทดสอบกันกระสุนได้จริง

 

ขณะที่ พ.ต.อ.วีระยุทธ หิรัญ รองผู้บังคับการกองสรรพาวุธ กล่าวว่า หลังเกิดประเด็นในสังคมทางกองสรรพาวุธ ได้ไปตรวจสอบในส่วนของการจัดซื้อจัดจ้างเสื้อเกราะ ซึ่งวิธีการจัดซื้อจัดจ้าง คือ ให้ผู้เสนอราคานำแผ่นเกราะมาเสนอพร้อมยื่นราคา จากนั้นจะมีการทดสอบประสิทธิภาพการป้องกันโดยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเป็นผู้ยิงทดสอบ 

 

จนเมื่อผ่านเกณฑ์ไปแล้วผู้ที่เสนอราคาผ่านจะต้องถูกสุ่มตรวจวัสดุของเกราะอีกครั้งหนึ่งแบบมีหลักการจากหน่วยงานกลาง เพื่อพิจารณาเรื่องเส้นใยวัสดุที่จะต้องมีความแข็งแรงปลอดภัยสูงสุด สรุปได้ราคาจัดซื้อ ชุดดังกล่าวที่ราคา 34,000 บาทต่อตัว 

 

พ.ต.อ.วีระยุทธ ยืนยันว่า การจัดซื้อจัดจ้างเกราะเป็นไปโดยโปร่งใสตามขั้นตอนตรวจสอบได้ ยุทธภัณฑ์นี้มีประสิทธิภาพป้องกันได้ถึงระดับ ปืนซุ่มยิง หรือที่รู้จัก ปืน M16 ปืนอาก้า ปืนอาวุธสงคราม 

 

 

ทั้งนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีนโยบายในการจัดหาเสื้อเกราะกันกระสุนสำหรับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้เป็นไปตามคุณภาพและมาตรฐานสากล โดยเฉพาะอย่างยิ่งมาตรฐาน NIJ ในการจัดหาเสื้อเกราะแต่ละครั้งนั้น ผู้ประกอบการที่เป็นคู่สัญญาจะต้องสามารถบอกแหล่งที่มาของแผ่นเกราะว่าผลิตที่ใด เมื่อใด และเป็นไปตามมาตรฐาน NIJ ที่กำหนด ในการตรวจรับก็จะมีการยิงทดสอบด้วยกระสุนปืนในระยะห่างตามมาตราฐานและอายุการใช้งานของเสื้อเกราะอยู่ที่ 5 ปี แต่ไม่ได้หมายความว่าเมื่อเกิน 5 ปีแล้ว จะไม่สามารถกันกระสุนได้เลย เพียงแต่ประสิทธิภาพอาจลดลง 

 

ขณะเดียวกันก็พบว่า มีบางประเทศหรือผู้ผลิตที่กำหนด Lifespan ของเสื้อเกราะไว้มากกว่า 5 ปี นอกจากนั้น ในการจัดหาเสื้อเกราะ ยังได้กำหนดการประกันคุณภาพเสื้อเกราะ รวมทั้งประกันชีวิตและประกันการบาดเจ็บของผู้สวมใส่ไว้ตามระยะเวลาข้างต้นด้วย หากได้รับบาดเจ็บเป็นเงิน 500,000 บาท หรือเสียชีวิต เป็นเงิน 1,000,000 บาท 

ตรวจสอบเสื้อเกราะกันกระสุน

หลังจากนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้กำหนดแผนการจัดหาเพิ่มเติมหรือการจัดหาเพื่อทดแทนของเก่าอย่างต่อเนื่อง การจัดหาครั้งล่าสุด เมื่อ พ.ศ. 2566 จำนวน 3,200 ตัว เป็นเสื้อเกราะอ่อนป้องกันกระสุนพร้อมแผ่นเกราะแข็ง ระดับ 3 และ ระดับ 4 สามารถป้องกันกระสุนปืนได้ตามมาตรฐาน NIJ ได้แก่ กระสุนปืนพก ขนาด 9 มม. , .45 , .357 แม็กนั่ม นอกจากนั้น ตร.ได้ทำแผนการจัดหาในอนาคตเพื่อให้ครอบคลุมในการปฏิบัติงานของตำรวจทุกนายระหว่าง ปี 2567 - 2571 อีกปีละประมาณ 13,000 ตัว ซึ่งตามแผนการจัดหานี้ จะทำให้ผู้ปฏิบัติงานมีเสื้อเกราะใช้งานอย่างทั่วถึง  

 

สำนักงานตำรวจแห่งชาติยืนยันว่า ดำเนินการจัดหาชุดเกราะกันกระสุนโดยยึดมาตรฐานสากลและคำนึงถึงความคล่องตัวสะดวกสบายของผู้ใช้งานตามภารกิจเป็นสำคัญ จึงขอแจ้งให้ข้าราชการตำรวจเชื่อมั่น และโปรดสวมใส่เสื้อเกราะกันกระสุนในการปฏิบัติหน้าที่ทุกครั้ง เพื่อสร้างความปลอดภัยและป้องกันมิให้มีการสูญเสียจากการปฏิบัติงาน

 

สตช.แถลงชี้แจงประเด็นเสื้อเกราะไม้อัด