เลื่อนนัดสั่งคดี "เจ๋ง ดอกจิก-ศรีสุวรรณ" คดีเรียกรับสินบนอธิบดีกรมการข้าว

กรณีที่นายยศวริศ ชูกล่อม หรือ เจ๋ง ดอกจิก อดีตข้าราชการเมือง ประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเเละ นายศรีสุวรรณ จรรยา นักร้องเรียนชื่อดัง กับพวก รวม 5 คน ถูกดำเนินคดีเรียกรับผลประโยชน์อธิบดีกรมการข้าวแลกกับการไม่ส่งเรื่องร้องเรียน

 

อัยการสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต 3 นัดฟังคำสั่งคดีที่พนักงานสอบสวน กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบเป็นผู้ยื่นฟ้องและล่าสุดพนักงานอัยการเลื่อนนัดเป็นวันที่ 28 ส.ค.

นายศรีสุวรรณ เปิดเผยว่า ตนไม่ทราบว่าโดนข้อหาอะไรบ้าง เพราะเท่าที่ติดตามจากสื่อมวลชนทราบว่าถูกแจ้ง 6 ข้อหา แต่ที่รับทราบจากพนักงานสอบสวนมีเพียงแค่ 4 ข้อหา แต่ได้รับรายงานว่ามีการเลื่อนฟังคำสั่งคดี เนื่องจากพนักงานสอบสวน เพิ่งส่งสำนวนมาที่อัยการเมื่อไม่นานมานี้ ทำให้พนักงานอัยการ พิจารณา สำนวนไม่แล้วเสร็จ แต่วันนี้ตัวเองและภรรยาในฐานะ ผู้ต้องหาก็ต้องเดินทางมารายงานตัวตามนัด 

 

หลังจากนี้เตรียมยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรม เนื่องจากมั่นใจ มีพยานหลักฐานยืนยันได้ว่า เป็นผู้บริสุทธิ์ ยืนยันที่ผ่านมาไม่ได้มีการหารือกับกลุ่มผู้ต้องหาคนอื่น โดยเฉพาะนายเจ๋งดอกจิกที่เจอกันเพียงครั้งเดียว กระทั่งมาเจอกันในวันนี้ ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 6 เดือน 

นายศรีสุวรรณ ยอมรับจะต้องมีการทบทวนบทบาทหน้าที่เกี่ยวกับการร้องเรียน แต่ที่ผ่านมาตัวเองยังคงเดินหน้าช่วยเหลือประชาชน เพราะยังมีชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน และยังติดตามเรื่องที่ตัวเองร้องเรียนไปแล้วก่อนหน้านี้เพราะบางเรื่องเกิดการตรวจสอบ จนประสบความสำเร็จ ดังนั้นหลังจากที่ตัวเองถูกดำเนินคดี จึงต้องระมัดระวังตัวมากขึ้น เพราะส่วนตัวมองว่า เป็นผลมาจากการที่ตัวเองเดินสายร้องเรียน เกี่ยวกับประเด็นทางการเมือง

 

ด้านนายเจ๋งดอกจิก กล่าวว่า ตนได้รับข้อมูลว่าถูกดำเนินคดี 6 ข้อหา ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ให้ทนายความส่วนตัว ไปยื่นเรื่องร้องขอความเป็นธรรมกับพนักงานอัยการแล้ว แต่หากพนักงานอัยการมีคำสั่งเลื่อนก็มองว่าเป็นผลดีกับตัวเองและพวก เนื่องจากจะทำให้พนักงานอัยการมีเวลาพิจารณาสำนวนมากขึ้น ยังยืนยัน เป็นผู้บริสุทธิ์และมั่นใจในพยานหลักฐาน ที่จะนำไปใช้ต่อสู้ชั้นศาล 

 

ส่วนนายศรีสุวรรณนั้น ตนเองไม่มีอะไรจะต้องเคลียร์ใจกันเป็นการส่วนตัว 

 

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายศรีสุวรรณและนายเจ๋งดอกจิก มีการจับมือ ให้กำลังใจกัน ก่อนจะเข้าพบพนักงานอัยการ และเร็วๆนี้คาดว่า จะมีการเเถลงข้อเท็จจริงที่เป็นข่าวใหญ่ให้ประชาชนติดตาม

 

ขณะที่นายประยุทธ เพชรคุณ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่า รับทราบจากนายรชต พนมวัน อัยการพิเศษฝ่ายคดีปราบปราบการทุจริต ซึ่งเป็นหัวหน้าพนักงานอัยการรับผิดชอบคดีนี้ แจ้งว่า คดียังอยู่ระหว่างการพิจารณาสำนวนยังไม่แล้วเสร็จและกลุ่มผู้ต้องหาไม่มีพฤติการณ์หลบหนี จึงให้ไปฟังคำสั่ง ในวันที่ 28 สิงหาคม 2567 เวลา 9.00 น. รวมถึงนายสุรพันธ์ กิจพ่อค้า อธิบดีอัยการสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริตขอไม่ฝากขังผู้ต้องหาทั้งหมด เเละปล่อยชั่วคราวไป โดยอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต มีคำสั่งอนุญาตไม่ฝากขังให้ปล่อยตัวชั่วคราวและให้มาพบพนักงานอัยการตามกำหนด ในวันที่ 28 สิงหาคม 2567 

 

 

สำหรับคดีนี้อธิบดีกรมการข้าว แจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษ ต่อพนักงานสอบสวนกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ ปปป. ให้ดำเนินคดีนายเจ๋งดอกจิกและนายศรีสุวรรณกับพวก มีพฤติการณ์เรียกรับเงิน เพื่อแลกกับการไม่ร้องเรียนเรื่องทุจริต ขณะนั้นผู้ต้องหาทุกคนได้รับการปล่อยชั่วคราวในชั้นสอบสวน 

 

โดยพนักงานสอบสวนนำตัวผู้ต้องหาพร้อมสำนวนความเห็นมาส่งยังพนักงานอัยการ ซึ่งพอรับสำนวนไว้อัยการก็อนุญาตให้ประกันตัวต่อ

 

เเต่การปล่อยชั่วคราวตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 113 ระยะเวลาที่พนักงานสอบสวนอนุญาตให้ประกันจะต้องไม่เกิน 6 เดือนนับตั้งเเต่วันถูกจับ ซึ่งกฎหมายบอกว่า ถ้าเกิน คือ ครบวันที่ 26 ก.ค.นี้ อัยการยังไม่มีคำสั่ง หรือสั่งไม่การจะปล่อยชั่วคราวต่อไปจะต้องได้รับอนุญาตจากอธิบดีอัยการสำนักงานปราบปรามการทุจริตฯ หรือไม่เช่นนั้นจะต้องนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดไปยื่นคำร้องฝากขังต่อศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 87 ซึ่งขึ้นอยู่กับดุลพินิจอัยการว่

าจะใช้วิธีใด