ต้นอ้อ เป็นหนึ่ง บุกช่วยเด็ก13 ถูกแม่ใช้ส่งยา
"ต้นอ้อ เป็นหนึ่ง" ตำรวจสภ.พนมสารคาม และบ้านพักเด็กจ.ฉะเชิงเทรา บุกช่วยเด็ก 13 ปี ถูกแม่ใช้ส่งยาเสพติด ให้พระ ไม่ได้ไปเรียน
25 ก.ค.2567 มูลนิธิเป็นหนึ่ง พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พนมสารคาม และบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดฉะเชิงเทรา ลงพื้นที่ไปยัง หมู่บ้านบ้านต้นนา หมู่. 10 ตำบลหนองยาว อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา หลังมีข้อมูลจากพลเมืองดีแจ้งว่าพบเห็นครอบครัวหนึ่งที่อาศัยอยู่ร่วมกัน 4 คน มีแม่ และลูกอีก 3 คน
มีพฤติการณ์ขายยาเสพติด โดยใช้เด็กอายุราว 13 ปี ซึ่งเป็นลูกชายคนโต เป็นคนส่งยาให้กับพระรูปหนึ่ง ที่เคยมีความสัมพันธ์กับแม่ของเด็กมาก่อน อีกทั้งยังทราบว่าเด็กทั้ง 3 คน ไม่ได้ไปเรียนหนังสือมาหลายวันแล้ว ชาวบ้านที่พบเห็นต่างรู้สึกสงสาร และห่วงอนาคตของเด็ก จึงร้องไปยังมูลนิธิเป็นหนึ่ง เข้าช่วยเหลือ
เมื่อไปถึงพบแม่ของเด็กและพี่เลี้ยงเด็กอยู่ในอาการตกใจ ก่อนปฏิเสธไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดมาก่อน พร้อมกับยินดีให้้จ้าหน้าที่ตำรวจตรวจค้นยาเสพติดภายในบ้าน ส่วนเรื่องที่ลูกชายอายุ 13 ปีไม่ได้เรียนหนังสือนั้น เป็นเพราะตัวเด็กมีอาการทางสมอง เรียนรู้ช้า เวลาไปเรียนก็มักจะถูกกลุ่มเพื่อนล้อเลียนอยู่เป็นประจำ จึงตัดสินใจให้พักการเรียนมาช่วยงานที่บ้าน ขณะที่ลูกอีก 2 คนยังคงไปเรียนหนังสือตามปกติ
ซึ่งหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจค้นภายในบ้านไม่พบยาเสพติดซุกซ่อนอยู่ พบเพียงเศษกระดาษฟอยล์ที่ตกหล่นอยู่ตามพื้นบ้าน ก่อนจะนำตัวแม่เด็กและพี่เลี้ยงไปตรวจปัสสาวะ ซึ่งผลออกมาพบว่าตัวพี่เลี้ยงเด็กมีสารเสพติดอยู่ในร่างกาย และยอมรับว่าเพิ่งเสพมาได้ประมาณ 2-3 วัน ก่อนจะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวขึ้นรถไปโรงพักเพื่อดำเนินคดีและขยายผลต่อไป
ด้านชาวบ้านในพื้นที่ เล่าว่า ในทุกๆ วันจะมีวัยรุ่นขี่รถจักรยานยนต์ยนแวะเวียนมาจอดอยู่ที่บ้านหลังนี้เป็นประจำ ซึ่งหลายคนก็พอจะรู้ว่ามาทำอะไรแต่ไม่อยากเข้าไปยุ่ง เพราะกลัวอันตราย อีกทั้งยังเคยเห็นเด็กชายอายุ 13 ปี ไปเดินส่งยาอยู่ 2-3 ครั้ง โดยตัวเด็กก็เป็นคนพูดเองว่าแม่ใช้ให้มาส่งยาได้เงินครั้งละ 1,000 บาทผู้ใหญ่บ้านก็เคยมาเตือนหลายครั้งแล้ว แต่แม่เด็กไม่ฟัง หลายคนเห็นแล้วก็รู้สึกสงสาร แต่ก็ไม่รู้จะช่วยเหลืออย่างไร
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดฉะเชิงเทรา จะให้แม่ของเด็กทำบันทึกข้อตกลงในการดูแล และให้เด็กไปเรียนหนังสือตามปกติ โดยจะมีเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่มาตรวจเยี่ยมสภาพความเป็นอยู่ของครอบครัวนี้ต่อเนื่องหลังจากนี้ แต่ยังคงให้โอกาสแม่เด็กในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการเลี้ยงดู และหากพบว่ามีการทำผิดเงื่อนไขข้อตกลงกัน ก็จะต้องดำเนินการส่งเด็กมาไว้ที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดฉะเชิงเทราต่อไป
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจค้นเพื่อหาตัวพระรูปที่เด็กนำยาเสพติดไปส่งให้ เมื่อพบตัวได้ทำการตรวจปัสสาวะเพื่อหาสารเสพติดปรากฏว่าพบสารเสพติดจริง
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ควบคุมตัวเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป