กัน จอมพลัง บุกช่วยเหลือลูกจ้าง ถูกนายจ้างโหดเฆี่ยนตี-ทารุณกรรมเยี่ยงทาส
ลูกจ้างถูกนายจ้างเฆี่ยนตีและทารุณกรรมเยี่ยงทาสตลอด 1-2 ปี แผลเต็มตัว จนก้นเป็นแผลหวะและเป็นหนอง เหตุทำยอดขายเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือนไม่ได้
กัน จอมพลัง ลงพื้นที่ช่วยเหลือลูกจ้าง หลังได้รับการร้องเรียนว่า ถูกนายจ้างกระทำทารุณด้วยการเฆี่ยนตี และทำร้ายร่างกายอีกหลายอย่าง จนทำให้เกิดบาดแผลฉกรรจ์หลายแห่ง โดยเฉพาะก้นเป็นแผลหวะและเป็นหนอง นอกจากนี้ยังพบบาดแผลร่องรอยการถูกเฆี่ยนตีที่บริเวณขาทั้งสองข้าง และแผลที่บริเวณศีรษะ รวมไปถึงถูกเตะจนฟันหลุดหนึ่งซี่
จากนั้นพานายก้อง (สงวนนามสกุล) อายุ 38 ปี ผู้เสียหายชาวจังหวัดน่าน เข้าพบกับ พ.ต.อ.ภัทราวุธ สีหะ ผกก สภ.โนนไทย เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสำรวจบาดแผลร่องรอยการถูกทำร้ายร่างกาย เพื่อเก็บภาพไว้เป็นหลักฐาน และเตรียมแจ้งความเอาผิดกับนายจ้าง
กัน จอมพลัง เปิดเผยว่า กรณีนี้ได้รับการร้องเรียนจากพลเมืองดีขอให้เข้ามาช่วยเหลือนายก้อง เนื่องจากถูกนายจ้างทำร้ายร่างกายหลายแห่ง โดยเฉพาะที่บริเวณก้นที่ถูกตีด้วยสายแก๊ส จนเป็นแผลฟกช้ำเป็นหนอง จนเนื้อบางส่วนหลุดออกมา ซึ่งเป็นการทารุณกรรมที่โหดร้ายมาก
ส่วนเหตุผลที่ทางนายจ้างได้ทำร้ายร่างกายนายก้อง คือ นายก้องไม่สามารถทำยอดขายเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือนได้ จึงถูกทำร้ายร่างกาย พร้อมกับสั่งลงโทษนานาชนิด ทั้งการปั่นจิ้งหรีด แทงปลาหมอ รวมถึง สั่งลุกนั่ง โดยบางครั้งจะถูกเฆี่ยนตี นับ 1,000 ครั้ง ที่หนักสุดก็คือ การช็อตไฟฟ้าที่บริเวณท้อง ลามไปถึงอวัยวะเพศ โดยนายจ้างพูดกับนายก้องว่า คนอย่างมึงไม่ต้องสืบพันธุ์อีกต่อไป นายก้องเคยถูกทำร้ายจนสลบ แต่ทางนายจ้างเอาน้ำมาราดให้ฟื้นขึ้นมา และทำร้ายร่างกายอย่างต่อเนื่องอีก นอกจากตัวนายจ้างที่เป็นผู้ชายแล้ว ยังมีนายจ้างที่เป็นผู้หญิงก็ร่วมลงมือทำร้ายร่างกายด้วยเช่นกัน
ขณะที่ นายก้อง เล่าว่า ตนและนายจ้างรู้จักกันที่ จ.เชียงใหม่ โดยพื้นเพเป็นคนจังหวัดนั้น ก่อนที่จะถูกชักชวนมาทำงานด้วยกันที่จ.นครราชสีมา ซึ่งในช่วงแรกก็ไม่มีปัญหา ยังได้รับเงินเดือนเป็นปกติ แต่ในช่วงหนึ่งถึงสองปีมานี้ ตนไม่ได้รับค่าจ้างเงินเดือนเลยแม้แต่บาทเดียว พร้อมกับถูกยึดบัตรเอทีเอ็มเอาไว้ โดยนายจ้างให้เหตุผลว่า กลัวจะนำไปใช้สุรุ่ยสุร่าย ยังหาเรื่องหักเงินเดือนของตน และก็เริ่มลงมือทำร้ายร่างกาย
ซึ่งตนเคยคิดจะหนีหลายครั้ง แต่ตนรู้สึกเป็นห่วงคนที่อยู่ทางบ้าน เพราะนายจ้างได้ขู่เอาไว้ว่า หากตนคิดจะหนีไป จะไปยึดบ้านยึดที่ดิน ก็กลัวครอบครัวจะได้รับความเดือดร้อน จึงจำเป็นต้องทนเรื่อยมา
จากนั้น กัน จอมพลัง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โนนไทย เดินทางไปยังบ้านตั้งอยู่ที่บ้านโคกสวาย หมู่ที่ 4 ตำบลสายออ อำเภอโนนไทย ไม่พบวี่แววของนายจ้าง
ส่วนบ้านดังกล่าว เป็นบ้านปูนชั้นเดียว เปิดเป็นร้านตัวแทนจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือน พร้อมกับมีรถมือสองติดป้ายราคาขายเอาไว้หน้าบ้าน พื้นที่ระหว่างหน้าบ้านไปจนถึงตัวบ้าน พบเต็นท์อยู่หนึ่งหลัง ซึ่งนายก้อง ผู้เสียหาย ใช้เป็นที่พักอาศัย รวมไปถึงที่นอน
หลังจากนั้น ผู้สื่อข่าวได้พบกับป้าเต๊ะ อายุ 68 ปี อาศัยอยู่ด้านหลังบ้านของนายโจ๊กที่เป็นนายจ้าง ซึ่งได้ให้การปฏิเสธว่า ไม่รู้ไม่เห็นเรื่องราวการทำร้ายร่างกายของนายก้อง ส่วนตัวก็รู้จักกับนายก้องที่เป็นลูกจ้างด้วย เคยพูดจาทักทายกันเวลาเห็นหน้า แต่ตอนนั้นไม่ทราบว่า นายโจ๊กได้ทำร้ายร่างกายนายก้อง ซึ่งตนก็ไม่เคยรู้ว่า นายกล้องถูกทำร้าย เพราะปกตินายก้องเจอหน้ากับตนนั้น ก็ทักทายกันเป็นปกติ ไม่ได้พูดอะไรที่เกี่ยวข้องกับการถูกทำร้ายร่างกายเลย
จากนั้น ผู้สื่อข่าวได้สอบถามกับนายบูม (สงวนนามสกุล) ชาวบ้านที่อยู่ในบริเวณนั้น ทราบว่า นายก้องถูกทำร้ายร่างกายอยู่เป็นประจำเกือบทุกวัน แต่ก็ช่วยอะไรไม่ได้ เนื่องจากเกรงกลัวอิทธิพลของนายจ้าง แต่ก็ได้ถ่ายคลิปวิดีโอขณะนายก้องถูกทำร้ายร่างกายเอาไว้ ซึ่งนายก้อง มีชีวิตความเป็นอยู่ค่อนข้างจะลำบาก
นอกจากถูกทำร้ายแล้วยังถูกบังคับให้นอนในเต็นท์นอกบ้าน พร้อมกับให้กินข้าวแค่เพียงวันละมื้อ มีอยู่วันหนึ่งนายก้องเดินออกมาเพื่อขอข้าวกิน ตนกับเพื่อนจึงได้ให้นายก้องกินข้าว เนื่องจากสงสาร หลังจากนั้น นาก้องก็เคยเดินมาปรึกษาเกี่ยวกับเรื่องที่นายก้องถูกนายจ้างทำร้ายร่างกาย พร้อมกับโชว์บาดแผลให้ดู ซึ่งตนได้ถ่ายรูปเก็บไว้เป็นหลักฐาน เตรียมนำไปแจ้งกับเพจกันจอมพลัง
จากนั้นตำรวจจึงได้นำตัวนายก้อง ไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลโนนไทย เพื่อนำผลการตรวจมาประกอบเป็นหลักฐานการแจ้งความเอาผิดกับนายจ้างต่อไป