ฝากขัง 4 เจ้าหนี้โหด รุมตืบยายวัย 72 ปีน่วม ค้านประกันตัวหวั่นยุ่งเกี่ยวพยาน
ฝากขัง 4 เจ้าหนี้โหด รุมตืบยายวัย 72 ปีน่วม อ่วมหนัก 6 ข้อหา ค้านประกันตัวหวั่นยุ่งเกี่ยวกับพยานหลักฐาน ด้านผู้ต้องหาลั่นให้การในชั้นศาลเท่านั้น
จากกรณี คุณยายวัย 72 ปี ถูกแก๊งเงินกู้ดอกโหดทำร้าย หลังตามทวงเงินลูกหนีอีกรายไม่ได้ จนเส้นเลือดในตาแตก ก่อนหลบหนีไป ล่าสุดผู้ก่อเหตุทั้ง 4 ได้เข้ามอบตัว ตำรวจแจ้ง 6 ข้อหา พร้อมคัดค้านประกันตัว ส่งฝากขังศาลอาญา
28 ก.ค.2567 เวลา 10.00 น.ที่ สน.โชคขัย พลตำรวจตรี ธนันท์ธร รัตนสิทธิภาคย์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 4 (ผบก.น.4) เปิดเผยว่า หลังจากที่ผู้เสียหายไปร้องขอความช่วยเหลือกับเพจสายไหมต้องรอด ฝ่ายสืบสวนและฝ่ายสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานและข้อมูล จนสามารถพิสูจน์ทราบอัตลักษณ์บุคคลทั้ง 4 คน ได้แก่
- นายโสภณ หรือ อ๊อฟ อายุ 27 ปี
- นายเคนวิทย์ หรือ เคน อายุ 32 ปี
- นายนัฐวุฒิ หรือ ไอซ์ อายุ 27 ปี
- นายศิริศร หรือ โบ้ อายุ 25 ปี
จากนั้นพนักงานสอบสวนได้ประสาน และกดดันไปทางญาติของผู้ต้องหา จนทำให้ผู้ต้องหาเดินทางเข้ามามอบตัวเมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา
โดยจากการสอบปากคำ ผู้ต้องหาทั้ง 4 คนอ้างว่า เพิ่งจะทำร้ายร่างกายคุณยายเป็นครั้งแรก เนื่องจากรู้สึกไม่พอใจที่คุณยายจ่ายหนี้ไม่ตรงตามเวลาที่นัดหมาย เบื้องต้นพนักงานสอบสวนแจ้ง 6 ข้อกล่าวหากับนายอ๊อฟ และนายเคน คือ
- ร่วมกันประกอบธุรกิจให้บริการสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับโดยไม่ได้รับอนุญาต
- ร่วมกันให้บุคคลอื่นกู้ยืมเงินอันมีลักษณะเป็นการเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนดไว้
- ร่วมกันกระทำการทวงถามหนี้ ในลักษณะข่มขู่ การใช้ความรุนแรง หรือการกระทำอื่นใดที่ทำให้เกิดความเสียหายแก่ร่างกาย ชื่อเสียง หรือทรัพย์สินของลูกหนี้หรือผู้อื่น
- ร่วมกันทวงถามหนี้กับบุคคลอื่นซึ่งมิใช่ลูกหนี้
- ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ
- ร่วมกันทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัว หรือความตกใจ โดยการขู่เข็ญ
โดยนายอ๊อฟ ผู้ต้องหาที่ 1 ให้การรับสารภาพตามข้อกล่าวหา แต่ให้การปฏิเสธในข้อหาร่วมกันทวงถามหนี้กับบุคคลอื่นซึ่งไม่ใช่ลูกหนี้ โดยอ้างว่าคุณยายเป็นลูกหนี้ของตน ส่วนนายเคน ผู้ต้องหาที่ 2 ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา
สำหรับนายเคน ผู้ต้องหาคนที่ 2 เคยถูกดำเนินคดีในลักษณะการทวงหนี้โดยใช้ความรุนแรง เมื่อปี 2561 ในพื้นที่ สน.ฉลองกรุง ปี 2566 ในพื้นที่ สน.จรเข้น้อย และ สน.ทุ่งสองห้อง
ส่วนนายไอซ์ และนายโบ้ ผู้ต้องหาที่ 3 และ 4 ตามลำดับ ถูกแจ้ง 4 ข้อกล่าวหา คือ
- ร่วมกันกระทำการทวงถามหนี้ ในลักษณะข่มขู่ การใช้ความรุนแรง หรือการกระทำอื่นใดที่ทำให้เกิดความเสียหายแก่ร่างกาย ชื่อเสียง หรือทรัพย์สินของลูกหนี้หรือผู้อื่น
- ร่วมกันทวงถามหนี้กับบุคคลอื่นซึ่งมิใช่ลูกหนี้
- ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ
- ร่วมกันทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัว หรือความตกใจ โดยการขู่เข็ญ โดยผู้ต้องหาที่ 3 และที่ 4 ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
นอกจากนี้ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 4 ยังบอกอีกว่า จากข้อมูลที่มีอยู่ขณะนี้ ทราบตัวแล้วว่าเจ้าของเครือข่ายปล่อยเงินกู้นอกระบบ ที่แท้จริงเป็นใคร โดยบุคคลดังกล่าว เป็นคนที่มีหมายจับของ สน.มีนบุรี ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดี
ส่วนเรื่องที่สังคมมองว่า ตำรวจทำงานล่าช้า ยืนยันว่าเป็นการเข้าใจผิด เพราะหลังจากที่ยายมาแจ้งความเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวนได้ให้คุณยายไปทำการตรวจร่างกาย เพื่อนำความเห็นจากแพทย์มาประกอบสำนวนในคดี และได้นัดหมายคุณยายมาสอบปากคำในวันที่ 26 กรกฎาคม แต่ทางคุณยายผู้เสียหายอาจจะยังไม่ทราบ จึงมองว่าคดีไม่มีความคืบหน้า จนต้องไปร้องขอความช่วยเหลือกับเพจสายไหมต้องรอด
ต่อมาในเวลาไล่เลียกัน พนักงานสอบสวนได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ไปขออำนาจศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ฝากขังในผัดแรก โดยท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนได้คัดค้านการประกันตัว เนื่องจากผู้ต้องหามีพฤติกรรมใช้ความรุนแรง และเกรงว่าผู้ต้องหาจะมายุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน หากได้รับการประกันตัวชั่วคราว
โดยผู้สื่อข่าวได้พยายามสอบถามนายเคน ถึงข้อเท็จจริงต่างๆ แต่นายเคนก็ตอบเพียงแค่ว่า ตนจะไปให้การในชั้นศาลฯ เท่านั้น ส่วนผู้ต้องหาอีก 3 คนไม่ได้ตอบคำถามใดๆ กับสื่อมวลชน