สางแค้น 2 ปี คู่อริบุกยิง "บังแอร์" ดับคาโต๊ะข้าว ฉุนโดนตบเมื่อ 2 ปีที่แล้ว
สางแค้น 2 ปี คู่อริบุกยิง "บังแอร์" ดับคาวงข้าว เพื่อนร่วมวงเผยปมเหตุ คาดฉุนโดนตบเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ตำรวจเร่งล่ามือปืนมาดำเนินคดี
29 ก.ค.2567 เวลา 03.30 น. ร.ต.ท.วรัญชัย สุขยิ่ง รองสารวัตรสอบสวน สภ.คลองหลวง ได้รับแจ้ง มีเหตุยิงกันเสียชีวิต ที่เกิดเหตุบริเวณ หน้าร้านเย็นตาโฟ ในซอยเทพกุญชร 42 หมู่ 14 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี หลังรับแจ้ง จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ พร้องทั้งรีบรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมตำรวจชุดสืบสวน สภ.คลองหลวง เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน 1 แพทย์เวรนิติเวช รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ และ อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุอยู่หน้าร้านเย็นตาโฟ พบผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย ทราบชื่อ นายสุรัตน์ (สงวนนามสกุล) หรือบังแอร์ อายุ 40 ปี ที่อยู่ ม.13 ต.คลองสอง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี สภาพศพถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาด เข้าที่บริเวณปลายคาง 1 นัด นั่งอยู่บนโต๊ะม้าหินอ่อนซึ่งมีจานข้าววางอยู่ 2 ใบ หม้อร้อนใส่ต้ม 1 ใบ ขวดน้ำอัดลม 2 ขวด แก้ว 2 ใบ และคราบเลือดของผู้ตายไหลออกมาเป็นจำนวนมาก
จากการสอบถามนายดงเย็น (สงวนนามสกุล) อายุ 52 ปี บอกว่า ตนเดินมาหาผู้ตาย ซึ่งขณะนั้นนั่งกันอยู่ 3 คน ตนนั่งได้ครู่เดียว ไม่น่าเกิน 10 นาที ก็เกิดเหตุขึ้น เผยว่าตนรู้จักคนก่อเหตุเหตุ ชื่อว่านายป้อม ทั้งคู่เคยมีเรื่องกันมาก่อน ย้อนกลับไปเมื่อ 2-3 ปีก่อน ผู้ตายเคยไปตบผู้ก่อเหตุ ปมปัญหามาจากเรื่องผู้หญิง คนก่อเหตุขับรถช๊อปเปอร์มาดู และได้เข้ามาทักตนจากนั้นคนก่อเหตุก็ได้ไปสั่งข้าว แต่ทางร้านบอกว่าข้าวหมด ผู้ก่อเหตุเลยจะไปซื้อที่อื่น จากนั้นเขาก็ขับรถออกไปและก็กลับมา และลั่นไกใส่ผู้ตาย
นายวิชัย (สงวนนามสกุล) อายุ 32 ปี 1 ใน 3 ที่นั่งร่วมโต๊ะ ตอนนั้นนั่งอยู่กัน 3 คน ก่อนหน้านี้ ผู้ก่อเหตุมาซื้อข้าวที่ร้าน แต่ข้าวหมด คนยิงก็ขับรถออกไป สักพักหนึ่งเขากลับมาที่ร้าน จากนั้นก็เดินเข้ามาถามผู้ตายว่า แอร์มึงทำกูทำไม จากนั้นเขาก็ยิงใส่ผู้ตาย
นายวัชระพล (สงววนามสกุล) อายุ 37 ปี (เพื่อนผู้ตาย) บอกว่าตอนเกิดเหตุตนไม่อยู่ในเหตุการณ์ มีเพื่อนโทรบอกว่าแอร์ถูกยิง จึงได้มาดู ส่วนสาเหตุนั้นตนคิดว่าน่าจะมาจากเมื่อ 2 ปีที่แล้ว คนก่อเหตุชื่อป้อม ไปว่าแฟนของผู้ตาย และคนตายก็ตบผู้ก่อเหตุไป 1 ที จากนั้นก็ไม่ได้เจอกันอีกเลย ซึ่งคนตายมีอาชีพเลี้ยงไก่ชนอยู่ที่บ้าน
ด้านร.ต.ท.วรัญชัย สุขยิ่ง รองสารวัตรสอบสวนสภ.คลองหลวง หลังจากตรวจสอบที่เกิดเหตุจึงบันทึกภาพไว้เป็นหลักฐาน และได้ให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิปอเต็กตึ้ง นำผู้เสียชีวิตส่งนิติเวชโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ เฉลิมพระเกียรติ เพื่อตรวจสอบอีกครั้ง ส่วนผู้ก่อเหตุขณะนี้ได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน สภ.คลองหลวง ตรวจสอบกล้องวงปิด เส้นทางที่จะหลบหนีเพื่อนำตัวมาดำเนินคดีต่อไป