จับแล้ว! ชายคลั่ง ควงมีด แทงชาวบ้านเจ็บ ประวัติโฉด 2 คดี ทั้งค้าและเสพ
จับแล้ว ชายคลั่ง ควงมีด แทงคนที่เข้าไปช่วยจับกุมบาดเจ็บ 1 ราย ตำรวจแจงสาเหตุไม่ใช้ปืนไฟฟ้า เพราะประเมินสถานการณ์อยู่
30 ก.ค. 2567 นายวีระศักดิ์ ศาลาวงศ์ อายุ 41 ปี อาสามูลนิธิร่วมกตัญญู รหัสประเวศ 26 ได้รับแจ้งทางโทรศัพท์ให้ไปรับผู้ป่วยชายรายหนึ่งมีอาการป่วยจากการเสพยาสเติด เพื่อไปรักษาตัวที่ รพ.ธัญบุรี ที่แคมป์บ้านพักคนงานก่อสร้าง บริเวณมอเตอร์เวย์ กรุงเทพฯ - ชลบุรี กม.0-1
โดยในระหว่างที่ นายวีระศักดิ์ เข้าไปรับตัวชายคนดังกล่าว ทราบชื่อต่อมาว่า นายนิติทัช มณีสาย อายุ 27 ปี มีอาการพูดจาไม่รู้เรื่อง จึงโทรศัพท์ประสาน พ.ต.ต.ธีรพงษ์ สุจินพรัหม สวป.สน.ประเวศ ให้ช่วยนำกำลังตำรวจมาเกลี้ยกล่อมนายนิติทัชให้ขึ้นรถ แต่ระหว่างกำลังโทรศัพท์อยู่นั้น นายนิติทัชเกิดคุ้มคลั่ง เอามีดมาฟันเข้าฟันนายวีระศักดิ์ โชคดีที่นายวีระศักดิ์วิ่งหลบหนีทัน
จากนั้นนายนิติทัชวิ่งถือมีด 2 เล่ม ออกไปบนถนนมอเตอร์เวย์ วิ่งข้ามฝั่งไปมา โดยระหว่างที่ พ.ต.ต.ธีรพงษ์ กับพวก เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายป้องกันและปราบปราม สน.ประเวศ นำเหล็กง่ามเพื่อควบคุมตัว มีคนงานโรงงานรับซื้อของเก่าพยายามจะช่วยจับกุม ทำให้นายนิติทัชแทงเข้าที่หลังเป็นแผลประมาณ 2 เซ็นติเมตร ก่อนวิ่งเข้าไปหลบในบ้านพัก แคมป์คนงานก่อสร้าง
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
ทาง พ.ต.ต.ธีรพงษ์ ใช้วิธีการเจรจาเกลี้ยกล่อม กระทั่งนายนิติทัชยอมออกมาจากบ้านพักให้ตำรวจเข้าไปควบคุมตัวไว้ได้แต่โดยดี จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำตัวชายคุ้มคลั่งควบคุมไว้ที่ห้องขัง สน.ประเวศ เพื่อรอให้สงบสติอารมณ์ และจึงทำการสอบสวน เพื่อดำเนินการส่งตัวไปรักษาต่อไป
ต่อมา พ.ต.อ.สุรพงษ์ พุฒขาว ผกก.สน.ประเวศ ให้ข้อมูลว่า สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ รับแจ้งจากแม่ผู้ก่อเหตุว่าจะต้องไปรับลูกชายเพื่อไปส่งที่โรงพยาบาล เมื่อไปถึงบ้านผู้ก่อเหตุ แรกเริ่มยังสามารถพูดคุยกับลูกชายได้ตามปกติ แต่เมื่อกำลังจะขึ้นรถ ลูกชายกลับมีอาการคล้ายคนเสียสติ จู่ ๆ ได้คว้ามีดทำครัวมา 2 เล่ม วิ่งเข้าหาเจ้าที่กู้ภัยที่กำลังจะพาไปส่งโรงพยาบาล ทำให้เจ้าหน้าที่แตกตื่นรีบวิ่งออกมา ก่อนที่จะประสานกับตำรวจ ให้เข้ามาระงับเหตุ แต่ผู้ก่อเหตุมีอาการคลุ้มคลั่งอย่างรุนแรง ถือมีดแกว่งไปแกว่งมา ก่อนจะวิ่งฝ่าตำรวจ แล้วข้ามถนนใหญ่ 8 เลนจราจร
ส่วนที่มีประเด็นในโลกโซเชียลว่า ทำไมตำรวจถึงไม่ใช้ปืนไฟฟ้าในการเข้าระงับเหตุ ซึ่งในตอนนั้นตนและเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังประเมินสถานการณ์อยู่ ยืนยันว่ามีปืนไฟฟ้าอยู่ที่ตัวและพร้อมใช้งาน แต่ผู้ก่อเหตุได้วิ่งเข้าไปในแคมป์คนงานก่อสร้างเพื่อทิ้งอาวุธจากนั้นก็ออกมาตัวเปล่า ตำรวจเห็นว่าคนก่อเหตุไม่มีอาวุธแล้วจึงได้เข้าจับกุมอย่างรวดเร็ว
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่น ซึ่งเป็นเหตุซึ่งหน้าที่สามารถแจ้งข้อกล่าวหาได้เลยส่วนประเด็น เรื่องสารเสพติดนั้นขณะนี้ อยู่ระหว่างส่งตรวจสารเสพติดในร่างกาย ยืนยันหากพบจะแจ้งข้อหาเพิ่มเติม
สำหรับผู้ก่อเหตุคนนี้เคยถูกจับกุม ในข้อหาครอบครองยาเสพติดเพื่อจำหน่ายและเสพยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 ในพื้นที่สภ.เขมราฐ จ.อุบลราชธานี เมื่อปี 2556 ก่อนจะมาถูกจับครั้งหนึ่งในปี 2559 ในข้อหาและพื้นที่เดียวกัน