ข่าว

น้องชาย "เสี่ยโป้" ลั่นพี่ชายรู้ถูกใบสั่งจากใคร แต่ไม่พูด

น้องชาย "เสี่ยโป้" ลั่นพี่ชายรู้ถูกใบสั่งจากใคร แต่ไม่พูด

31 ก.ค. 2567

"เสี่ยบุ๊ค" น้องชาย "เสี่ยโป้" เชื่อ พี่ชายรู้ใครสั่งลอบทำร้าย แต่ไม่พูด เผยได้คุยเมื่อเช้า สัมผัสได้ยังกังวล แต่ไม่แสดงออก

นายเขมทัต ชัชอานนท์ หรือ "เสี่ยบุ๊ค" อายุ 29 ปี น้องชายของนายเสี่ยโป้ อานนท์ เปิดเผยถึงกรณีพี่ชายอ้างถูกทำร้ายร่างกายและลอบฆ่าในเรือนจำบางขวาง ว่า เหตุการณ์เกิดตั้งแต่ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ปี 2567 ขณะนั้น พี่ชายเล่าว่ามีกลุ่มนักโทษเดินกันมา 8-9 คน แต่เพื่อนของพี่ชายเห็นจึงเข้าช่วยได้ทัน  

 

หลังจากเกิดเหตุก็ไม่ได้มีการเค้นสอบต่อ ทราบเพียงแค่ว่ามีการสั่งย้าย นายภิญโญ (สงวนนามสกุล) ผู้ก่อเหตุที่จะใช้เหล็กคล้ายกรรไกรแทงเสี่ยโป้ ไปอยู่ที่เรือนจำอื่นเท่านั้น ไม่ได้มีการดำเนินการอย่างอื่นเพิ่มเติม

โดยตนเองเพิ่งทราบเมื่อ 2 เดือนก่อน ตั้งแต่กุมภาพันธ์จนถึงปัจจุบันนี้ พี่ชายก็ไม่เคยถูกทำร้ายร่างกายอีก ซึ่งตอนนั้นคุณพ่อก็เป็นคนเข้าไปพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ภายในเรือนจำแต่เรื่องรายละเอียดตนไม่ทราบว่ามีการดำเนินการอย่างไรบ้าง แต่ยอมรับว่าตอนนี้ตนและครอบครัวต่างก็เป็นกังวลและปลอดภัยของพี่ชายมาก 

 

เสี่ยบุ๊คน้องชายเสี่ยโป้

โดยเมื่อช่วงเช้าคุยผ่านระบบวิดีโอคอล เพราะตอนนี้ตนเองอยู่ต่างจังหวัดใกล้กับชายแดน จากการพูดคุย เสี่ยโป้พยายามพูดให้ตนและครอบครัวสบายใจขึ้น แต่ตนก็มองออกว่าพี่ชายกำลังวิตกกังวล เเละเป็นกังวลกลัวว่า คุณพ่อจะอาการทรุดเนื่องจากปัจจุบันนี้คุณพ่อป่วยโรคมะเร็งระยะที่ 4 ส่วนประเด็นเรื่อง จะขอทำเรื่องให้พี่ชายย้ายเรือนจำหรือไม่นั้นในวันนี้ยังมีการพูดคุยกับพี่ชายในเรื่องนี้

เสี่ยโป้เล่าให้ตนฟังว่า ตั้งแต่อยู่ในเรือนจำบางขวางมาเกือบ 1 ปีไม่เคยมีปัญหากับใคร เคยมีเรื่องทะเลาะวิวาทแค่ที่เรือนจำคลองเปรมเท่านั้น ก่อนจะย้ายมาเรือนจำบางขวาง และไม่รู้กับนายภิญโญ (สงวนนามสกุล)มาก่อน 

 

นายบุ๊ค กล่าวต่อว่า ตนและพี่ชายเชื่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอาจเป็นเพราะโดนใบสั่งมาอีกที แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าใครสั่งหรือเป็นเพราะสาเหตุอะไร เเต่ตนคาดว่า พี่ชายน่าจะรู้ แต่ไม่ได้บอก 

 

ส่วนประเด็น พี่ชายไอเป็นเลือด เจ้าหน้าที่เรือนจำ มีการถ่ายรูปภาพเลือดไว้เป็นหลักฐาน ยืนยัน ไม่ได้เกิดจากการทานแตงโมเเล้วอาเจียน แต่เป็นเพราะก่อนที่พี่ชายจะเข้าไปอยู่ในเรือนจำมีอาการป่วยเรื่องหลอดลมตีบอยู่ก่อนแล้ว แต่ ปัจจุบันนี้พี่ชายได้ทำการรักษาจนหายดีแล้ว โดยมีใบรับรองแพทย์จากโรงพยาบาลพระนั่งเกล้า