ชาวบ้าน อาลัย 1 ชีวิต สมน้ำหน้า หม่อมหัวร้อน ดับ ลั่น ดีใจ หมู่บ้านจะได้เจริญ
ชาวบ้านอาลัย 1 ชีวิต สังเวย หม่อมหัวร้อน แม่ยาย เล่านาทีร้องขอชีวิต แต่ไม่เป็นผล ลั่น สมน้ำหน้า หม่อม เสียชีวิต หมู่บ้านจะได้เจริญ
5 ส.ค. 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า กรณีหนุ่มใหญ่อ้างตัวเป็น หม่อมหลวง เมาแล้วทะเลาะกับเพื่อนบ้าน จนบานปลายมีเหตุยิงกันขึ้น ศพแรกคือ นายอุทัย (เพื่อนบ้าน) อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตในสภาพสวมกางเกงยีนขายาว ไม่สวมเสื้อ มีแผลถูกยิงเข้าบริเวณดวงตาข้างขวาทะลุออกหลัง 1 นัด
ห่างออกไปราว 15 เมตร พบศพชายอ้างเป็น หม่อมหลวงวันชัย อายุ 59 ปี นอนจมกองเลือดอยู่บนพื้นถนน สภาพสวมเสื้อคอปกสีแดง กางเกงยีนขายาว มีแผลถูกยิงเข้าบริเวณขมับข้างขวา 1 นัด ใกล้ตัวผู้ตายพบปืนสั้นชนิดลูกโม่ ขนาด.38 จำนวน 1 กระบอก เหตุเกิดเมื่อเย็นวานนี้ 4 ก.ค.เวลาประมาณ 16.00 น. ในพื้นที่บ้านกลาง ม.8 ต.ชัยพร อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ ซึ่งเช้าวันนี้ลูกชายของผู้ตายทั้ง 3 คน ร่วมกับชาวบ้านก็ทำความสะอาดบริเวณจุดเกิดเหตุนำทรายมากลบรอยเลือดและล้างทำความสะอาดพร้อมใช้น้ำมันลาดจุดไฟเผาคราบเลือดลดกลิ่นคาวคละคลุ้ง
นายสิทธิพงษ์ วงศรีชา อายุ 56 ปี อดีตผู้ใหญ่บ้าน กล่าวว่า ผู้ก่อเหตุและผู้ตายเคยมีเรื่องบาดหมางกันมาก่อน แต่นานหลายปีแล้ว เรื่องน่าจะจบแต่ไม่จบ เนื่องจากผู้ก่อเหตุไม่ยอมปล่อยวาง ผู้ก่อเหตุมาอาศัยอยู่กับภรรยาทั้งแต่ปี 2545 มักเป็นคนใจร้อน ไม่ยอมคน อ้างเป็นหม่อมหลวงรู้จักคนใหญ่คนโต แรกๆ ก็ช่วยมีส่วนร่วมกับชาวบ้านตลอด หลังมีความคิดไม่ถูกกับผู้นำชุมชน ทะเลาะเบาะแวงกับชาวบ้านไปทั่ว อยากมีอภิสิทธิอยู่เหนือคนอื่น ขมขู่จะยิงกับคนที่มีเรื่องด้วยประจำ วันเกิดเหตุก็มีการสังสรรค์กันที่บ้านของผู้ก่อเหตุ ก่อนจะทะเลาะกับผู้ตาย
ยายฉันอจิต อายุ 74 ปี แม่ยายของผู้ตาย (ชาวบ้าน) เล่าทั้งน้ำตาขณะนั่งรับประทานอาหารเช้า บอกว่า ชาวบ้านกลางสมน้ำหน้าที่มันตาย เพราะมันขมขู่ชาวบ้านไว้หมด ถ้าใครยุ่งกับกูกูจะฆ่าให้หมดทุกคน เวลาเมาก็ถือปืนออกมาถ้าดวลกับชาวบ้าน กับผู้นำชุมชน เวลาผ่านหน้าบ้านก็จะด่าอีเ-ย อีสั-ว์ แม้แต่ผู้หญิงมันก็ไม่เว้น ถ้าไม่ตายบ้านกลางไม่เจริญ ตายไปชาวบ้านก็ดีใจ หมู่บ้านจะได้สูงขึ้น หลังเกิดเหตุยิงลูกเขย มันก็เดินวนรอบไม่ให้ใครเข้าไปใกล้ แม้กระทั่งผู้ใหญ่บ้าน พร้อมขู่ใครเข้ามามึ-ตาย ลูกเขยยกมือไหว้ขอโทษขอชีวิต ผมขอโทษ มันก็ไม่ฟัง ยังยิงมัน หลานชาย 3 คนยังเรียนอยู่ใครจะมาเลี้ยง ยอมยกมือขอชีวิตแล้วยังต้องฆ่ากันอีก
นายดำรงค์ อายุ 50 ปี ผู้เหตุการณ์ เล่าว่า ได้ยินเสียงทะเลาะกันก็เลยออกมาดู โดย ลุงศาล อีกคนก็วิ่งเข้าไปห้ามและแยกออกจากกัน ซึ่งก็แยกย้ายกันแล้ว นายอุทัย ผู้ตายกำลังเดินกลับมาบ้าน หม่อมหลวงผู้ก่อเหตุก็วิ่งไปเอาปืนมายิงนายอุทัย
ยายที่เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ผู้ตายยกมือขอโทษว่าผมผิดไปแล้วผมขอโทษ ผู้ก่อเหตุก็ไท่ฟังยิงเข้าเบ้าตาเลย ตัวเองก็รีบไปแจ้งผู้ใหญ่บ้าน พอมาก็ไม่มีใครกล้าเข้าไปเพราะผู้ก่อเหตุถือปืนลูกซองอยู่ ไม่ให้ไปยุ่งกับศพเลย ส่วนปืน .38 ก็เหน็บอยู่เอวตลอด จากนั้นก็มีตำรวจมาเกลี่ยกล่อม
ช่วงนั้นตำรวจจาก สภ.เมืองบึงกาฬ มาถึงที่เกิดเหตุ ผู้ก่อเหตุก็ยกปืนยิงขมับตัวเองทันที ส่วนชาวบ้านที่รู้ข่าวต่างก็พูดเสียงเดียวกันว่า ดีใจที่หม่อมหลวงวันชัย ที่เปรียบเสมือนขาใหญ่ในหมู่บ้านเลือกจบชีวิตตัวเองหนีความผิด
ด้าน ร.ต.อ.รัฐพล เดชนรสิงห์ รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองบึงกาฬ กล่าวว่า ศพบุคคลทั้งสองหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจและพิสูจน์หลักฐานชันสูตรแล้ว จะเก็บศพไว้ที่โรงพยาบาลบึงกาฬก่อน ต้องรอคิวและพรุ่งนี้ถึงจะส่งไปผ่าพิสูจน์และหัวกระสุนออก ที่สถาบันนิติเวชขอนแก่น ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างเรียกญาติผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ฝ่าย และชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ มาสอบปากคำเพิ่มเติม เพื่อหาสาเหตุหรือแรงจูงใจที่หม่อมหลวงวันชัย ก่อเหตุสลดในครั้งนี้