ข่าว

พี่สาวเมีย เล่านาที น้องเขยวางยาใส่น้ำแดงให้หลานกิน หลักฐานมัดแน่น

ตำรวจ แจ้งข้อหา พยายามฆ่า พ่อวางยาลูก แม้ปฏิเสธ แต่หลักฐานมัดแน่น ด้าน พี่สาวเมีย เล่า น้องเขยอัดคลิปหลานกินยาฆ่าแมลง ก่อนจะอ้วกและคล้ายหมดสติ

จากกรณีนายสมยศ (สงวนนามสกุล) อายุ 36 ปี น้อยใจนางสาวปิยวรรณ (สงวนนามสกุล) อายุ26ปี ภรรยา โดยนำยาฆ่าแมลงใส่น้ำอัดลมสีแดงให้ลูก 2 คน ภายในหอพัก อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ก่อนจะมีญาติของเมีย เข้ามาช่วยเหลือไว้ได้ทัน 

 

ล่าสุด พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ มิตรปราสาท ผกก.สภ.คลองหลวง กล่าวว่า เบื้องต้นได้สอบสวนเด็กทั้งสองคนไว้ก่อนแล้ว รวมถึงผู้ก่อเหตุก็ให้การปฏิเสธ ซึ่งเค้าบอกว่าเค้าไม่ได้วางยา เค้าได้เอายาวางไว้ในตู้เย็น ในลักษณะใส่ไปในอาหาร แล้วลูกหยิบมาดื่มเอง แต่ทางเจ้าเจ้าหน้าที่ตำรวจก็มีพยานหลักฐาน และการสอบปากคำพยานและข้อมูลหลายอย่าง เชื่อว่าผู้ต้องหามีเจตนาที่จะกระทำความผิดจริง เบื้องต้นแจ้งข้อหา พยายามฆ่าไว้ก่อน เพราะว่ายาฆ่าแมลง ถ้ากินเข้าไปก็จะทำให้เสียชีวิตได้ 

 

ส่วนเรื่องของที่ทางผู้ต้องหาอ้างว่า นำยาฆ่าแมลงไปไว้ในตู้เย็น ตรงนี้ก็เป็นข้อต่อสู้ของทางตัวผู้ต้องหา แต่ตำรวจมีพยานและหลักฐานที่สามารถเชื่อได้ว่า เค้าได้ก่อเหตุจริง 

 

อาการของผู้ก่อเหตุ ก็รับประทานยาเข้าไปเช่นกัน มีปัญหาเรื่องสุขภาพและพอก็ที่จะให้การบ้าง แต่ว่าอาการก็ยังไม่ดีขึ้นเท่าไหร่ โดยเจ้าที่ตำรวจยังไม่ได้คุยรายละเอียดตรงนี้ เบื้องต้นก็จะมีการดำเนินการตรวจสอบสุขภาพจิตและตรวจหาสารเสพติดในร่างกายตามขั้นตอนของกฎหมาย เพราะในตอนนั้นเขาก็มีความรู้สึกผิดชอบชั่วดีอยู่หรือทำด้วยอารมณ์ก็ตาม ตอนนั้นเค้าก็รู้ตัวดีอยู่ ส่วนประวัติ อาชญากรรม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวอยู่ระหว่างตรวจสอบอยู่ เจ้าหน้าที่ตำรวจมีพยานที่สอบปากคำไปแล้วจำนวนหนึ่งและพยานสำคัญที่มาให้ปากคำเพิ่มเติมเมื่อเช้า

พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ มิตรปราสาท

 

ทั้งนี้เมื่อช่วงเช้า นางสาวปิยวรรณ ภรรยาผู้ก่อเหตุและแม่ของเด็ก เข้าพบตำรวจ รวมถึงนางสาวกชมน อายุ 28 ปี พี่สาวของนางสาวปิยวรรณ เล่าว่า ฝ่ายชายติดต่อมาหาตนเองประมาณ 12.15 น. ของเมื่อวาน โดยซื้อยามาแล้ว กำลังจะเอายาให้ลูกกิน เริ่มจากคนเล็กก่อนแล้วจะให้คนโตกินแล้วเค้าก็จะกินตาม พอป้าเปิดดูข้อความ ก็เลยให้ญาติที่อยู่กรุงเทพรีบไปแจ้งความที่ สภ.คลองหลวง แล้วเดินทางไปช่วยหลาน เพราะตอนนั้นตนเองอยู่ที่สุไหงโกลก หลังจากที่ตนเองดูคลิปแล้ว อีกฝ่ายไม่มีการตอบกลับ ได้ส่งคลิปเพิ่มเติมมาว่า เอายาให้ลูกคนเล็กกินแล้วนะ ซึ่งป้าก็ได้เปิดดูแต่ก็ไม่ได้ตอบอะไรเพราะจะรีบประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้เข้าไปช่วยเหลือหลานก่อน

 

โดยคลิปที่ส่งมาเป็นคลิปที่หลังจากกินยาแล้ว น้องผู้ชายกำลังอ้วก แล้วก็เหมือนจะหมดสติ คลิปที่เค้าส่งมามีทั้งหมดสามคลิปกับอีกหนึ่งรูป แล้วก็ได้มีการวิดีโอคอลไปหาพ่อที่จังหวัดโคราช โดยเอาผ้าปูที่นอนห่อตัวแล้วก็เอายากรอกกับน้ำแดง 

 

นางสาวปิยวรรณ (คนซ้าย) นางสาวกชมน (คนขวา)

 

นางสาวกชมน กล่าวต่อว่า ตอนแรกที่เห็นคลิปรู้สึกตกใจทำอะไรไม่ถูก แต่ก็พยายามที่จะหาช่วยหลานให้ได้เร็วที่สุด ก็จะมีแฟนกับพี่สาวแฟนที่ช่วยแจ้งตำรวจแลพพากันไปช่วยในระยะเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็สามารถช่วยออกมาได้ 

 

สาเหตุที่ฝ่ายชายทำแบบนี้ เพราะ น้องสาวตนเองนั้นขอเลิกกับผู้ชาย เพราะฝ่ายชายไม่ทำงานและงี่เง่าไม่ยอมโตเป็นผู้ใหญ่ พอน้องสาวไปทำงานก็หาเรื่องทะเลาะอยู่ตลอดเวลา แล้วก็จะให้กลับมาอยู่ด้วยกัน ซึ่งน้องสาวก็บ่ายเบี่ยงมาโดยตลอดว่า ถ้ากลับมาอยู่ด้วยกันแล้วจะกินอะไร 

 

ซึ่งฝ่ายชายเคยไปทำงานที่ประเทศเกาหลี หลังจากกลับก็มาค้าขายของได้สักพัก ก็บอกว่าปวดหลังไม่สามารถขายได้ น้องสาวก็ต้องทำคนเดียว แล้วก็ส่งเงินให้ตลอด ส่วนที่เค้าบอกว่าน้องสาวไม่เคย ส่งเงินให้เลย เป็นไปไม่ได้ เพราะว่าน้องสาวทำงานคนเดียว ถ้าเค้าไม่มีเงินแล้วเค้าจะดำรงชีวิตได้อย่างไร ไหนจะค่าเช่าห้องค่าใช้จ่ายต่างๆแล้วก็ค่างวดรถอีก 2,000 บาท 

 

ส่วนสาเหตุที่น้องสาวอยากเลิก เพราะทนพฤติกรรมของฝ่ายชายไม่ไหว เป็นคนชอบเอาแต่ใจตัวเอง และไม่ค่อยเป็นผู้นำเท่าไหร่ ถ้าเข้าไปที่ห้อง ก็จะเห็นว่าบ้านรกไม่ได้มีการทำความสะอาดและฝ่ายชายมักชอบเล่นแต่เกม ยอมรับว่า ก่อนหน้านี้ฝ่ายชายมีพฤติกรรมที่จะพาหลานไปฆ่าตัวตายมาแล้วถึงสองครั้ง ครั้งแรกพาไปที่สะพาน พระราม 9 ได้มีการไลฟ์สดอยู่บนสะพานพร้อมกับหลานทั้งสองคน แต่ก็ไม่ได้กระโดด ครั้งที่2 ไปที่เขาใหญ่ แต่เจ้าหน้าที่อุทยานไม่ได้ให้ขึ้นไป ก่อนจะมาก่อเหตุในครั้งนี้ได้สำเร็จ 

 

นางกิ่งแก้ว

 

ส่วนนางกิ่งแก้ว (สงวนนามสกุล) อายุ45ปี ยายของเด็ก บอกว่า เมื่อวานนี้ลูกเขยคนที่ก่อเหตุวีดีโอคลอไปหาตาของเด็ก และบอกว่าตอนนี้ได้ฆ่าหลานแล้ว จากนั้นเขาก็ให้ตาดูภาพและยังบอกอีกว่า เขาจะฆ่าตัวตายตาม จากนั้นก็เงียบไป ซึ่งทางตนเองก็โทรแจ้งตำรวจ191 และทาง191ก็ให้เบอร์สภ.คลองหลวงมา ตนจึงโทรศัพท์หาลูกเขยอีกคนหนึ่งให้มาดู 

 

ซึ่งลูกสาวตนเองที่ไปทำงานก็ไปๆมาๆ และวันที่ 25 สิงหาคม เป็นวันเกิดลูกสาวเขาก็จะกลับมา แต่ทางฝ่ายชายข่มขู่ลูกสาวตนเองมาตลอด และเมื่อไม่นานมานี้ฝ่ายชายจะพาลูกไปโดดหน้าผาแต่ทางอุทยานเขาไม่ให้เข้าก่อน

 

แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวยอดนิยม