เย้ยกฎหมาย คนร้ายอุ้มสาวเรียกค่าไถ่ 40,000 หากไม่มีเงินให้ รอรับร่างได้เลย
เย้ยกฎหมาย แก๊งคนร้ายอุ้มสาวเรียกค่าไถ่ 40,000 อ้างเหยื่อติดสินบน ขู่ห้ามแจ้งความ หากไม่มีเงินให้รอรับร่างได้เลย
พ่อชาวจังหวัดขอนแก่น วอนช่วยลูกสาว หลังถูกคนร้ายอุ้มไปเรียกค่าไถ่ 40,000 บาท ตั้งแต่วันที่ 3 ส.ค. 2567 ที่ผ่านมา โดยแก๊งคนร้ายอ้างว่า ลูกสาวติดเงินสินบนของแก๊งคนร้าย ให้เวลา 5 วัน หากทางญาติไม่ติดต่อไปเ ตรียมรับร่างของลูกสาวได้เลย ขณะที่สามีและยายวอนคนร้ายปล่อยตัว เพราะผู้ที่ถูกอุ้มไปเรียกค่าไถ่ ยังมีลูกน้อยวัย 9 เดือนที่ยังรอแม่กลับบ้าน
6 ส.ค. 2567 มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์ขอความช่วยเหลือ ลงในกลุ่ม “ขอนแก่นร้องเรียนอะไรบอกไว้ที่นี่” โดยเป็นภาพของหญิงสาวรายหนึ่ง และภาพข้อความสตอรี่ในเฟซบุ๊กชื่อ “มะ” รายละเอียดระบุว่า “ปล่อยตัวมัน 40,000 บาท 092389XXXX กูให้เวลามึง 5 วัน แล้วกูจะปล่อยให้เป็นอิสระค่ะ….โม”
“ติดต่อมาแล้วจะปล่อยไปนะครับผม,จำไว้นะครับตราบใดที่ยังติดสินบนผมอยู่ ผมไม่ปล่อยไปง่าย ๆ ครับ จนกว่าจะมีญาติโกโหติกาติดต่อผมเข้ามา ผมไม่ทำอะไรครับ ข้าวน้ำผมไม่ให้อดครับ ผมให้เวลา 5 วัน วันนี้วันที่ 3 เหลือเวลาอีก 2 วัน ถ้าไม่มีการเจราจากับผม หรือเมียผม ผมไม่ปล่อยครับ พรุ่งนี้ตอนเที่ยง ถ้าไม่มีใครติดต่อมาก็ไม่ปล่อยนะคะ”
โดยสาวเจ้าของโพสต์ ที่ขอความช่วยเหลือ ระบุข้อความว่า “ขออนุญาตใช้พื้นที่นี้ตามหาเพื่อนค่ะ โมโดนจับตัวไปและโดนขังไว้ตั้งแต่วันที่ 03/08/67 ประมาณช่วงบ่าย และมีการอัปเดตลงสตอรี่เฟซบุ๊กช่วง 01.00 น. ของเมื่อคืน เขาใช้คำว่าติดสินบน (แต่ไม่ได้ติดหนี้นะคะ) รายละเอียดเป็นยังไงยังไม่ทราบค่ะ เพราะติดต่อเพื่อนไม่ได้เลย
มีการทิ้งเบอร์โทรไว้ และบอกว่าถ้าไม่มีญาติพี่น้องโทรไปเจรจา จะไม่มีการปล่อยตัวใด ๆ แต่พอโทรไปกลับเป็นเบอร์ใครก็ไม่รู้ ตอนนี้เป็นห่วงเพื่อนมาก ถ้าใครพบเห็นรบกวนติดต่อที่เฟซบุ๊ก ศิริวรรณ (พร้อมทิ้งเบอร์ติดต่อ) ด้วยนะคะ ตอนนี้ทางญาติมีการเข้าแจ้งความเรียบร้อยแล้วค่ะ ฝากแชร์ด้วยนะคะ” หลังจากที่เรื่องนี้ถูกโพสต์ลงในกลุ่ม ได้มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็น และแชร์ต่อเรื่องราวออกไปเป็นจำนวนมาก
ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านของผู้เสียหายในพื้นที่ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น (ขอสงวนที่อยู่เพื่อความปลอดภัย) โดยได้พบกับนายกิตติมา (สงวนนามสกุล) อายุ 51 ปี นายพัฒนพงศ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 23 ปี นางปุ่น (สงวนนามสกุล) อายุ 80 ปี และน้องเอวา วัย 9 เดือน
ซึ่งทั้ง 4 คน เป็นพ่อ สามี ย่า และลูกสาว ของ น.ส.กิตติภรณ์ (สงวนนามสกุล) หรือ “โม” อายุ 21 ปี ผู้ที่ถูกคนร้ายนำตัวไปกักขังเพื่อเรียกค่าไถ่ โดยทางครอบครัวได้นำเอกสาร สำเนาการแจ้งความที่ สภ.เมืองขอนแก่น และหลักฐานการสนทนากับกลุ่มคนร้าย ทางแอปพลิเคชั่นไลน์ รวมทั้งแชทเฟซบุ๊กมาให้ผู้สื่อข่าวดู หลังจากที่ทางครอบครัวต่างกินไม่ได้ นอนไม่หลับ เพราะเป็นห่วงน้องโม ที่หายตัวไปตั้งแต่ช่วงเย็นของวันที่ 3 ส.ค.ที่ผ่านมา
นายกิตติมา (สงวนนามสกุล) อายุ 51 ปี พ่อของน้องโม เล่าว่า ก่อนที่ลูกสาวจะหายตัวไปนั้น ในช่วง 13.000 น. ของวันที่ 3 ส.ค. 2567 ที่ผ่านมา ได้บอกพ่อ ย่า และสามีว่า จะไปเอายาที่ รพ.ขอนแก่น มาให้น้องเอวา ลูกสาววัย 9 เดือนเศษ โดยได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อ Honda PCX สีเทาดำ ที่เพิ่งซื้อมาได้ไม่ถึง 1 เดือน ออกไปจากบ้าน
จนกระทั่งเวลา 18.00 น. ผู้เป็นย่าบอกตนเองว่า โทรตามโมให้หน่อย เพราะออกไปนานแล้วก็ยังไม่กลับมา ตนจึงโทรหาน้องโมทางเฟซบุ๊ก ก็โทรไม่ติด ต่อมาก็มีโทรศัพท์โทรเข้ามาที่เบอร์ของพ่อ โดยปลายสาย คือ น้องโม ได้โทรมาบอกพ่อว่า ตอนนี้ยังอยู่ที่โรงพยาบาล แต่โทรศัพท์ของตนเองหาย จึงขอยืมโทรศัพท์เพื่อนโทรมาบอก ตอนนี้กำลังให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตามหาโทรศัพท์ให้อยู่
กระทั่ง พระอาทิตย์ตกดิน น้องโมก็ยังไม่กลับเข้าบ้านและติดต่อไม่ได้ทุกช่องทาง จนวันที่ 5 ส.ค. 2567 ช่วงเที่ยง ได้มีข้อความแชทจากน้องโม ลูกสาวของตนทักแชทเข้ามาบอกว่า “พ่อช่วยด้วย” ตนจึงทักกลับไปว่า “เป็นหยัง” (เป็นอะไร) หลังจากที่ตนทักกลับไป ก็มีข้อความทักถามตนเองกลับมาทำนองว่า ใช่พ่อของน้องโมหรือไม่? พร้อมกับพิมพ์ข้อความแจ้งให้ทราบว่า น้องโมได้ติดสินบนเป็นเงิน 40,000 บาท ชดใช้มาแล้ว 10,000 บาท
ตอนนี้กลุ่มตัวเอง ได้พาน้องโมมาควบคุมไว้ในพื้นที่ จ.ร้อยเอ็ด แต่ไม่ได้ทำร้าย มีข้าวมีน้ำให้กิน และรถจักรยานยนต์ของน้องโม ก็อยู่กับกลุ่มพวกตน ก่อนที่กลุ่มคนร้ายจะบอกพ่อว่า วันนี้ช่วง 6 โมงเย็นให้ติดต่อมา หากไม่ติดต่อมาก็เตรียมรับร่างน้องโมได้เลย
ซึ่งหลังจากที่ตนเองอ่านข้อความแล้ว คนที่ใช้เฟซบุ๊กน้องโมแชทมาคุย ก็ได้ยกเลิกข้อความนั้นไปทั้งหมด เพื่อทำลายหลักฐาน ต่อมาในวันเดียวกันเวลาประมาณเกือบ 18.00 น. ลูกสาวก็โทรมาทางแชทพร้อมกับร้องไห้ว่า “ถ้าพ่อไปแจ้งความ เขาจะไม่ปล่อยตัว” ตนเองจึงได้บอกกลับไปว่า จะไปกลัวทำไม ก่อนปลายสายจะตัดไป
นายกิตติมา เล่าต่อว่า หลังจากที่น้องโมหายตัวไป ทางเพื่อนๆ ที่อยู่ในเฟซบุ๊กก็ได้ช่วยกันประกาศตามหา โดยมีเพื่อนของน้องโมคนหนึ่งได้แชทคุยกับผู้หญิงรายหนึ่ง ที่เป็นกลุ่มของคนร้ายที่พาตัวน้องโมไป โดยบอกว่า น้องโมติดเงินสินบนเขาอยู่ ซึ่งในเรื่องนี้ตนเองก็ไม่ทราบว่าเป็นค่าสินบนอะไร โดยรู้แต่เพียงว่าเมื่อ 2 ปีที่แล้ว น้องโมได้ทำงานเป็นแอดมินให้กับเพจเฟซบุ๊กเพจหนึ่ง ซึ่งตนก็ไม่ทราบรายละเอียด
และรู้จากกลุ่มคนร้ายที่บอกเพียงว่า น้องโม ติดสินบนเมื่อ 2 ปีก่อน กลุ่มคนร้ายพยายามติดตามทวงถามแล้ว แต่น้องโม ไม่ยอมเจรจา และก่อนที่จะเกิดเหตุน้องโมก็ไม่เคยเล่าว่ามีปัญหาขัดแย้งกับใครให้ฟัง ตอนนี้ตนเองห่วงความปลอดภัยของลูกสาวเป็นอย่างมาก จึงขอวอนไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ช่วยพาตัวลูกสาวกลับมาด้วย