ชายวิปริต จับลูกมัด ยาพิษกรอกปาก ประชดเมีย
แม่ใจสลาย ร้องกัน จอมพลังช่วยลูกทั้งสอง หลังสามีถ่ายคลิป จับลูกมัดยาพิษกรอกปาก ประชด เผยเคยวิดีโอคอลขู่จะพาลูกไปกระโดดสะพาน
6 ส.ค. 2567 นางสาวปิยวรรณ อายุ 26 ปี แม่ของเด็กหญิง อายุ 9 ขวบ และ เด็กชายอายุ 7 ขวบ พร้อมด้วย นางสาว กชมน อายุ 28 ปี ผู้เป็นป้า เดินทางมาจากจังหวัดนราธิวาส หลังสามีพยายามฆ่าลูกทั้งสองคน เพื่อต่อรองให้ภรรยากลับไปคืนดีด้วย โดยถ่ายคลิปตอนที่เด็กๆทรมาน ส่งให้ทางญาติของฝ่ายหญิงดู เกิดเหตุที่หอพัก แห่งหนึ่งย่านอำเภอคลองหลวงจังหวัดปทุมธานีเมื่อวันอาทิตย์ที่ 4ส.ค.ที่ผ่านมา
นางสาวปิยวรรณ อายุ 26 ปี แม่ของเด็กและอดีตภรรยาของผู้ก่อเหตุเปิดเผยว่า ตนเองได้คบหากับสามี มาร่วม 10 ปี แต่ไม่ได้มีการจดทะเบียนสมรส หรือแต่งงานกัน แรกๆที่คบหากันเป็นคนดี ดูแลเอาใจใส่ สามีไม่ดื่มเหล้า สูบบุหรี่ ไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด แต่จะมีปัญหาทางด้านอารมณ์ โมโหร้าย ก็จะมีปัญหาทะเลาะกันเรื่อยมา ตนเองมีลูกกับสามี 2 คน ผู้หญิง 1 คน ผู้ชาย 1 คน พักหลังสามีเริ่มมีอาการหึงหวงตน ทำร้ายร่างกายตนเอง ถึงขั้นปางตาย แต่ตนไม่ได้แจ้งความไว้ และยังทำร้ายกายแม่ของตนด้วย และยังไม่ทำงานหาเลี้ยงครอบครัว ติดเกมส์คอมพิวเตอร์ และขอเงินตนเองใช้
ซึ่งทำให้สถานะการเงินแย่ลง เนื่องจากตนเองต้องหาเลี้ยงครอบครัวเพียงลำพัง จึงตัดสินใจแยกกันอยู่ และขอให้แม่เป็นคนเลี้ยงลูก โดยสามีบอกว่าจะเป็นคนเอาลูกทั้งสองคนไปด้วย ให้เหตุผลว่าเขาเป็นพ่อ เอาลูกไปเลี้ยงเองดีกว่า ตนจึงยอมแยกกันอยู่ หลังแยกกันได้ 3 เดือน สามีพยายามตามง้อขอคืนดีด้วย
โดยสามีจะวิดีโอคอลมาขอคืนดีบ่อยครั้ง พอตนเองไม่ยอม ก็ขู่ว่าจะทำร้ายลูก ขู่จะฆ่าตัวตายและจะฆ่าลูกด้วย และยังเคยวีดีโอคอลมาให้ตนดูโดยขณะที่กำลังพาเด็กๆไปกระโดดสะพาน พระราม 9 และสามียังเคยสั่งยาไซยาไนท์จากออนไลน์ มาผสมน้ำอัดลมให้ลูกกินแต่โชคดี เป็นไซยาไนท์ปลอม ลูกๆจึงรอดตาย
ล่าสุดสามียังไม่ลดความพยายาม ได้ซื้อยาฆ่าแมลงมาผสมกับอาหารและน้ำอัดลมบังคับให้กิน แต่เด็กไม่กิน เลยจับเด็กบีบคอเหวี่ยงฟาดไปมา เอาผ้าปูที่นอนพันเหลือแต่หัวแล้วจับกรอกปาก จนลูกๆทั้งสองคนดิ้นทุรนทุราย อาเจียน หมดสติ นอนหายใจรวยริน หลังก่อเหตุสามีได้มีการวีดีโอคอลไปหาพ่อของตน แล้วบอกว่าเด็กๆเสียชีวิตแล้ว ยังไม่พอมีการถ่ายคลิปตอนที่เด็กๆทรมาน ส่งมาให้ครอบครัวของตนดู
ตนทนไม่ไหวพยายามบอกกับสามีว่า "ถ้าอยากตาย ก็ตายไปคนเดียว" อย่าเอาลูกไปเกี่ยวข้องด้วย แต่สามีก็ไม่ยอมทุกครั้งที่ตนเองตามไปเพื่อที่จะเอาลูกคืน แต่สามีก็จะพาลูกหลบหนี ไปนอนโรงแรมบ้าง หนีไปอยู่ที่อื่นบ้าง ทำให้ตนไม่สามารถตามตัวลูกได้ ตอนนี้ลูกสาวยังคงอาการหนัก รักษาตัวอยู่ห้องไอซียู ส่วนลูกชายออกจาโรงพยาบาลวันนี้
มีรายงานว่าใน วันเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อม เจ้าหน้าที่พัฒนาสังคม เข้าไปให้ความช่วยเหลือไว้ทัน ผู้เป็นพ่อคือนายสมยศ อายุ 36 ปี นอนอยู่ในห้องน้ำ เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูนำส่งโรงพยาบาลภัทรธนบุรี ส่วนเด็กชายอายุ 7 ขวบมีสติดีเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูนำส่งโรงพยาบาลประชาธิปัตย์ และเด็กหญิงอายุ 9 ขวบ หมดสติเจ้าหน้าที่นำลงมาด้านล่างและส่งโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ เฉลิมพระเกียตริ ภายในห้องพบน้ำอัดลมสีแดงวางอยู่กลางห้อง ข้าวของกระจัดกระจายและซองยาฆ่าแมลงยี่ห้อเมโทมิล 97% ถูกฉีกที่ปากซองแล้ววางอยู่ 1 ซอง
นางสาวปิยวรรณ เชื่อว่าสามีไม่ต้องการจะฆ่าตัวตายเพราะกินยาฆ่าแมลงแค่เพียงไม่มาก แต่ทำไปเพื่อต้องการเอาชนะและประชดเพียงเท่านั้น ไม่ได้คำนึงและสงสารลูกแต่อย่างใดตนเจ็บปวดหัวใจเป็นอย่างมาก ทนพฤติกรรมของสามีไม่ไหว และยังกังวลเรื่องคดีกลัวผู้ก่อเหตุจะไม่ได้รับโทษ เพราะอ้างว่าไม่ได้เป็นคนทำ ผสมไว้จริง แต่เด็กหยิบทานเอง วันนี้จึงเดินทางจากนราธิวาสขอร้องให้ คุณกัน จอมพลังช่วยเหลือ
"ไม่คิดเลยว่าจะทำร้ายลูกได้ลงคอแบบนี้ สงสารลูกมาก เพราะลูกผู้หญิงเสียงไม่มีเลย เพราะโดนบีบคอด้วย คอมีรอยเขียวช้ำ เพราะน้องพยายามร้องขอชีวิต คือยิงร้องเขายิ่งทำ ลูกชายเป็นคนบอก" นางสาวปิยวรรณ กล่าว
ด้านคุณกัน จอมพลัง กล่าวเพิ่มเติมว่า วันนี้พาแม่และป้าของเด็กทั้งสอง เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ มิตรปราสาท ผกก.สภ.คลองหลวง เกี่ยวกับความคืบหน้าของคดี กรณีนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจและพัฒนาสังคมได้ให้ความช่วยเหลือไว้แล้ว แต่ทางครอบครัวเป็นกังวลใจทางเรื่องของคดีความเพราะผู้เป็นพ่ออ้างว่า เด็กๆ หยิบน้ำมาดื่มเอง และยังข่มขู่ภรรยาว่า ถ้าจะให้เลิกกัน คือต้องตายเท่านั้น ต้องมีใครคนใดคนหนึ่งตาย ถึงจะเลิกกันได้ และทางภรรยายังกลัวว่า หากสามีได้รับโทษแล้ว ถ้าออกมาจากคุกจะกลับมาทำร้ายหรือฆ่าภรรยาอีก "ซึ่งผมบอกเลยว่าไม่รักใครเลยสำหรับพ่อ ไม่ได้รักภรรยา และรักลูกจริง เพราะถ้ารักจริงๆจะไม่ทำแบบนี้เลย เห็นแก่ตัว"
คุณกัน จอมพลังกล่าวเพิ่มเติมว่า พ่อไม่ให้เด็กไปเรียน ขังน้องอยู่ในห้องเป็นเดือนๆ ซึ่งหลังจากที่ทาง พม. ได้เข้าไปคุยก็พบว่าน้องมีพัฒนาการที่ช้า ซึ่งสิ่งที่ทำอยู่ถามเลยว่าเพื่อใคร เพื่อตัวเองหรือเพื่อครอบครัว ทางครอบครัวไม่ได้นิ่งเฉยพยายามจะเอาน้องออกจากพ่อแล้วแต่พ่อก็พาหนีไปนอนตามโรงเเรมต่างๆ แต่ก็ไม่ได้ตัวซักที จนมาเกิดเหตุการณ์แบบนี้ แต่ก็ยังโชคดีที่เข้าไปช่วยเหลือได้ทัน
ด้าน พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ มิตรปราสาท ผกก.สภ.คลองหลวง กล่าวว่า ในเบื้องต้น จะได้ให้เบอร์ติดต่อให้กับทางคุณแม่ หากมีอะไรที่คิดว่าไม่ปลอดภัย ทางตำรวจจะส่งเจ้าหน้าที่ ไปช่วยเหลือทันที และในเรื่องเรื่องของคดี เมื่อวานนี้ทางคุณพ่อก็ให้การปฏิเสธแล้วก็ให้การภาคเสธ บางส่วน
ซึ่งเค้าบอกว่าเค้าไม่ได้วางยา เค้าได้ เอายาวางไว้ในตู้เย็นลูกหยิบมาดื่มเอง แต่ทางเจ้าเจ้าหน้าที่ตำรวจก็มีพยานหลักฐาน และการสอบปากคำพยานและข้อมูลหลายหลายอย่างก็เชื่อว่าผู้ต้องหาได้เจตนาที่จะกระทำความผิดจริง เบื้องต้นแล้วแจ้งข้อหาในเรื่องของข้อหา พยามฆ่า ไว้ก่อน เพราะว่ายาฆ่าแมลงซึ่งถ้ากินเข้าไปก็จะทำให้เสียชีวิตได้ ในส่วนเรื่องของที่ทางผู้ต้องหาอ้างว่านำยาฆ่าแมลงไปไว้ในตู้เย็นตรงนี้มันก็เป็นข้อต่อสู้ของทางตัวผู้ต้องหา เพราะเป็นข้อต่อสู้ได้ แต่เราก็มีพยานและหลักฐานที่สามารถเชื่อได้ว่าเขาได้ก่อเหตุจริง