พบแล้วร่าง 2 "ผู้สูญหาย" เหตุ"เรือล่ม" ก่อนร่างลูกเรือจะลอยหายอีก!
พบแล้วร่าง2"ผู้สูญหาย" เหตุ"เรือล่ม" ปากอ่าวใกล้ลานหินชมพู ก่อนร่างลูกเรือจะลอยหายอีก! เมียใจสลายนั่งจุดธูปขอให้เจอร่างผัวอีกครั้ง
จากกรณีเรือนักตกปลาอับปาง กู้ภัยเร่งค้นหาผู้รอดชีวิต หลังเกิดเหตุเรือล่มบริเวณปากอ่าวใกล้ลานหินชมพู โดยศูนย์วิทยุกู้ภัยสว่างกตัญญูธรรมสถานจันทบุรีได้รับแจ้งในช่วงเมื่อคืนวันที่ 4 สิงหาคม 67 ที่ผ่านมาเวลาประมาณ 19.00 น.ได้เกิดเหตุเรือสปีดโบ๊ท ขนาด 14 ฟุต ล่มบริเวณปะการังเทียม ใกล้เคียงลานหินสีชมพู จึงได้มีการวางแผนการค้นหา
จากการสอบถามญาติของผู้สูญหายทราบว่าผู้สูญหายมี 2 รายคือ นายสมจิตร หรือป๋าทุย (เจ้าของเรือ) อายุ 65 และนายประสูติ อายุ 55 ปี
ต่อมาช่วงเช้า วันที่ 5 ส.ค. ทางทีมเรือและชุดประดาน้ำของสมาคมสว่างกตัญญูธรรมสถานจังหวัดจันทบุรีได้นำเรือออกค้นหา ยังจุดเกิดเหตุเพื่อค้นหา นอกจากนี้ยังมีชาวบ้าน และสปีดโบ๊ทของนายเฉลิมพล ศักดิ์คำ อดีตนายกเทศมนตรีเมืองท่าช้าง สนับสนุน ในการค้นหาครั้งนี้ด้วย ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง สามารถกู้ซากเรือที่จมอยู่ขึ้นมาได้ แต่การตรวจสอบภายในเรือไม่พบคนขับและลูกเรือ จึงได้ลากเข้าฝั่ง ต่อมาทางทีมเรือได้แบ่งกำลัง ปูพรมค้นหา ระหว่างเกาะนมสาวและ ลานหินสีชมพู ซึ่งเป็นจุดที่พบเรือลำดังกล่าวครั้งแรก
ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ประสานไปยังกรมเจ้าท่า เจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำ ศูนย์ศรชล และผู้ว่าราชการจังหวัดจังหวัดจันทบุรี โดยนายมนต์สิทธิ์ไพศาลธนวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี ได้มีการปรึกษาและได้สั่งการร้องขอให้หมวดการบิน31 กองทัพเรือขอ เครื่องบินลาดตระเวนตรวจสอบร่วมอีกหนึ่งวิธี
ล่าสุด 6 ส.ค.2567 เมื่อเวลา 13:30 น. ที่ผ่านมาได้รับรายงานจากทางวิทยุสื่อสาร (มดดำ) ซึ่งเป็นวิทยุสื่อสารทางทะเล จากชาวประมงว่า พบศพผู้เสียชีวิตลอยอยู่กลางทะเล พิกัดห่างจากริมฝั่งประมาณ 9 ไมล์ทะเล ช่วงประมาณหน้าหาดเจ้าหลาว อำเภอท่าใหม่
โดยขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่จากศรชล.จังหวัดจันทบุรี เจ้าท่าภูมิภาคสาขาจันทบุรี ตำรวจน้ำ เรือกู้ภัยฯ อยู่ระหว่างเดินทางไปยังจุดที่ได้รับแจ้งจากทางชาวประมง
สภาพอากาศในวันนี้ มีคลื่นลมเล็กน้อย เรือลาดตระเวนขนาดเล็กไม่สามารถออกเดินทางไปค้นหาได้ ต้องใช้เรือที่มีขนาดใหญ่ ของทางเจ้า และ ศรชล.เท่านั้น
โดยนายมนต์สิทธิ์ ไพศาลธนวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี ได้มอบหมายให้ นาวาเอกโกวิท สิงห์ทอง รองผู้อำนวยการ ศรชล.จังหวัดจันทบุรี เป็นผู้อำนวยการศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางทะเลชั่วคราว บริเวณสะพานปากน้ำแขมหนู อำเภอท่าใหม่
และได้มีการบูรณาการร่วมกันกับเจ้าหน้าที่หลายฝ่าย โดยใช้เครื่องบินชี้เป้า ของกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด บินลาดตระเวน อากาศยานไร้คนขับขององค์การบริหารส่วนจังหวัดจันทบุรี เรือของ ศรชล เรือสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาจันทบุรี เรือตำรวจน้ำ ร่วมกับเรือของชาวบ้าน ลาดตระเวนเพื่อค้นหาผู้สูญหาย ตั้งแต่ช่วงสายที่ผ่านมา
จนกระทั่งล่าสุดเมื่อเวลา 13:30 น. ได้รับรายงานทางวิทยุเรือ (วิทยุมดดำ) ว่าพบผู้เสียชีวิตลอยน้ำ ห่างจากฝั่งไปประมาณ 9 ไมล์ทะเล พิกัดด้านหน้าของชายหาดเจ้าหลาว อำเภอท่าใหม่ จึงได้จัดเรือเดินทางไปตรวจสอบอย่างที่เกิดเหตุทันที คาดว่าน่าจะเป็นลูกเรือ ที่ชื่อ นายประสูติ อายุ 54ปี หรือนายน้อง
ต่อมา 14.25น. ได้รับแจ้งพบศพลอยน้ำอยู่พิกัดไม่ไกลกันมากนัก อีกหนึ่งราย ลักษณะสวมเสื้อชูชีพสีส้มคือ นายสมจิต อายุ 66ปี หรือนายทุย เจ้าของเรือ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเดินทาง ไปรับขึ้นเรือเพื่อนำกลับเข้าฝั่ง
เวลา15.30น. ได้รับการยืนยันจากเรือว่าศพที่พบครั้งแรกไม่มีชูชีพ ได้ลอยหายไป เนื่องจากคนที่พบครั้งแรกไม่ได้เฝ้าไว้ให้ ต้องทำการขับเรือค้นหาอีกครั้ง
ด้าน นางสำรวย หรือ ป้าแต๋ว อายุ 63ปี ภรรยาของนายสมจิต เจ้าของเรือ เล่าว่าสามีของตนเอง ไม่ได้ออกทะเลมานาน เนื่องจากนำเรือไปซ่อม ก่อนหน้านี้หลังจากซ่อมเรือเสร็จนัดกับเพื่อน ว่าจะนำเรือออกไปทดลองเครื่อง จนประสบอุบัติเหตุคาดว่าเชือกสมอเรืออาจจะหล่นจากเรือ แล้วเชือกไปพันกับใบจักรของเครื่องยนต์ ทำให้เรือเกิดการกระชากและหมุน และสมอเรือไปเกี่ยวกับหินปะการัง อาจเป็นเหตุให้ทั้งคู่โดนกระแทกและบาดเจ็บตกจากเรือ จนกระทั่งพบกลายเป็นศพลอยน้ำ "เสียใจมาก เฝ้ารอมาแต่วันแรกที่หาย ถึงแม้ว่าจะเจอร่างที่ไร้วิญญาณแต่ก็ดีใจที่ได้พบสามี"
ด้าน นาง สกาวรัตน์ อายุ 48ปี เป็นภรรยาของ นายประสูติ (ลูกเรือ) คอยจุดธูป เรียกวิญญาณของสามี เนื่องจากได้รับรายงานว่าพบร่างของสามีตนเองแล้วรออยู่กลางทะเล แต่ขณะนี้ได้ลอยหายไป ตนเองจึงจุดธูปเพื่อเรียกดวงวิญญาณของสามีให้ทีมค้นหาสามารถหาพบได้โดยเร็ว