โอละพ่อ น้องโม เปิดปากกุเรื่องลักพาตัว เรียกเงิน 4 หมื่น หวังเอาเงินใช้หนี้
พ่อ "น้องโม" สาวกุเรื่อง ยกมือไหว้ขอโทษสังคม หลังลูกสาวสร้างเรื่องถูกคนร้ายพากักขังเรียกค่าไถ่ 40,000 บาท หวังได้เงินไปใช้หนี้ จนสร้างความเดือดร้อน พร้อมยันครอบครัวไม่มีส่วนรู้เห็น
จากกรณี พ่อได้เข้าแจ้งความ หลัง น.ส.กิตติภรณ์ (สงวนนามสกุล) หรือ น้องโม ลูกสาวหายตัวไปจากบ้าน ก่อนที่จะมารู้ข่าวว่า ลูกสาวลักพาตัวไปกักขังไว้ โดยให้โอนเงินไปให้ จำนวน 40,000 บาท และปล่อยตัว ล่าสุดกลายเป็นเรื่องโอ้ละพ่อ หลอกลวงครอบครัวสารภาพสร้างเรื่องขึ้นมา เพื่อที่จะนำเงินไปใช้หนี้
7 ส.ค. 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ทำการสืบสวนสอบสวน จนกระทั่งเวลา 22.00 น. ของวันที่ 6 ส.ค.2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบทราบว่า น.ส.โม ได้พักอาศัยอยู่ที่กระท่อมไม่มีเลขที่ ภายในหมู่บ้านใหม่บัวบาน ต.กู่ทอง อ.เชียงยืน จ.มหาสารคาม จึงเดินทางไปตรวจสอบ เมื่อไปถึงพบ น.ส.โม อยู่ที่กระท่อมหลังดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจึงได้เข้าไปแสดงตัว และนำตัว น.ส.โม กลับมาที่ สภ.เมืองขอนแก่น
จากการสอบถาม น.ส.โม ยอมรับสารภาพว่า ตนเองได้สร้างเรื่องขึ้นมา เพื่อที่จะนำเงินไปใช้หนี้ โดยได้ทำการโพสต์ข้อความในลักษณะหลอกลวงว่าตนถูกลักพาตัวไปแล้วเรียกค่าไถ่ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการตรวจสอบโทรศัพท์มือถือ ซึ่งเป็นของ น.ส.โม พบว่ามีรูปถ่ายที่ น.ส.โม ใช้โพสต์ข้อความหลอกลวง
เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจยึดโทรศัพท์ดังกล่าว พร้อมทั้งแจ้งข้อหาเบื้องต้นให้แก่ น.ส.โม ทราบว่าจะต้องถูกจับในข้อหา “นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อประชาชน” นำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
โดยวันนี้ ( 7 ส.ค. 2567 ) นายกิตติมา (สงวนนามสกุล) อายุ 51 ปี และ นายพัฒนพงศ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 23 ปี พ่อและสามีของ น.ส.กิตติภรณ์ หรือ “โม” อายุ 21 ปี หญิงสาวชาว จ.ขอนแก่น เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติม
นายกิตติมา พ่อ น.ส.โม กล่าวหลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตามตัวลูกสาวกลับมาได้ ว่า ส่วนหนึ่งก็โล่งใจที่ลูกสาวยังมีชีวิตอยู่ แต่ก็ผิดหวัง กับการกระทำของลูก และจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในฐานะที่ พ่อ ต้องกราบขออภัยเจ้าหน้าที่ตำรวจ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งประชาชนที่ทราบข่าว และเป็นห่วงในช่วงที่ลูกสาวได้หายออกไปจากบ้าน ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นตนเองและคนในครอบครัว ไม่มีใครรู้ว่า น้องโม ลูกสาว จะก่อเหตุสร้างสถานการณ์นี้ขึ้นมาแบบนี้
ส่วนเรื่องหนี้สินของ น้องโม ตน ก็ยังไม่ทราบว่าน้องโมเป็นหนี้อะไร หากได้พบหน้า น้องโม ตนเองก็จะได้สอบถาม และสั่งสอนลูกไม่ให้ทำแบบนี้อีก ในส่วนคดีความที่ลูกสาวถูกแจ้งข้อหาก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร เพราะหากต้องยื่นประกันตัว ทางครอบครัวก็ยังนึกไม่ออก เพราะฐานะทางครอบครัวก็ไม่ได้ร่ำรวย ก็คงต้องรอดู หลังจากเข้าพบพนักงาน