แม่ร้องเพจดัง ลูกชาย ถูกอุ้มรุมซ้อม ข่มขู่คุกคามต่อเนื่อง เย้ยกฎหมาย | คมชัดลึก

จากกรณีที่เพจ เพชรพูดแล้วทำ รับเรื่องร้องเรียนแม่ผู้เสียหายจาก อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ส่งข้อมูลมาร้องขอความช่วยเหลือ เนื่องจาก ลูกชาย ถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ อุ้มไปซ้อมและถ่ายคลิปลงสื่อ โซเชียล โดยในคลิปเป็นภาพวัยรุ่นชายสองคน ถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ซ้อม มีการทำร้ายร่างกาย ทั้งถีบ เข้าที่บริเวณลำตัว ใบหน้า เตะ และมีการใช้ไม้คมแฝก ตีไปที่ตามตัว และบริเวณอื่นๆ จนทำให้หนึ่งในวัยรุ่นสองคนนั้นต้องเข้าไปรักษาตัวในโรงพยาบาล เนื่องจากกระดูกปลายนิ้วแตก หลังจากนั้นก็มีการ ข่มขู่ คุกคามต่อเนื่อง เย้ยกฏหมาย ทางฝั่งผู้เสียหายเกรงกลัว หวั่นในความไม่ปลอดภัยไม่กล้าออกนอกบ้าน ไม่กล้าไปแจ้งความ ร้องขอให้ช่วยเหลือเพื่อขอความเป็นธรรม ให้กับลูกตน

 

 

ล่าสุด เจ้าของเพจ "เพชรพูดแล้วทำ" พร้อมกำลัง จนท.ตำรวจชุดสืบสวนภ.จว.ราชบุรี และชุดสืบสวน สภ.บ้านโป่ง เดินทางไปยังบ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ ม.7 ต.เบิกไพร อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ซึ่งเป็นบ้านผู้เสียหาย เพื่อรับ นายศรายุทธ (สงวนนามสกุล) ผู้เสียหาย และ แม่ผู้เสียหาย ชาว ต.เบิกไพร อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี เพื่อมาแจ้งความจับแก็งอิทธิพล อุ้มไปซ้อม ถ่ายคลิปประจานลงโซเชียล ถูกคุกคามต่อเนื่อง ยิงบ้านจนได้รับความเสียหาย และพูดข่มขู่ไม่มีใครทำอะไรได้ 

 

โดย จนท.ตำรวจ ได้ไปค้นบ้านที่เกิดเหตุ ซึ่งทางเจ้าของบ้านไม่อนุญาตให้สื่อเข้าไปบันทึกภาพหรือวีดีโอที่ไปตรวจค้นบ้าน และได้นำตัว 3 ผู้ต้องหา มาสอบสวนที่ สภ.บ้านโป่ง หลังจากนั้นได้นำตัว 3 ผู้ต้องหาลงมาจากห้องสืบสวน โดย 1 ในผู้ก่อเหตุมีสีหน้าขึงขังบอกว่าทำจริงเพราะเขาทำผิดจริง แต่ต้องขอโทษสังคมด้วยที่ทำรุนแรงไป ส่วนอีก 2 คนคือหลานของตน ส่วนตัวไม่เคยรู้จักกับตำรวจ ไม่ได้มีอิทธิพลใดๆ จนท.เขากวาดล้างกัน ตนอยู่ไม่ได้หรอก ซึ่งตนทำอาชีพฟาร์มไก่ชน 

 

ขณะที่ผู้ก่อเหตุอีก 1 ราย เดินออกมาด้วยสีหน้าขึงขังพูดเสียดังฟังชัด บอกว่าถ้าเด็กมันผิดจริง ไม่ทำผิดเขาไม่ทำหรอก เคยว่ากล่าวตักเตือนเป็นสิบรอบแล้วแต่เด็กมันติดยา มันไม่เชื่อ 

 

 

 

โดยผู้เสียหายบอกว่า ตนทำงานรับจ้างกับกลุ่มผู้ก่อเหตุทำงานกว่า 1 ปีแล้ว มีหน้าที่ทำทุกอย่างเขาใช้ให้ไปทำอะไรก็ทำ ได้เงินค่าจ้างวันละ 300 กว่าบาท วันที่เกิดเหตุคือวันที่ 23 ก.ค. ที่ผ่านมา ตนมีปัญหาเรื่องนำเงินของลูกค้าเงินกู้ไปใช้ แล้วจ่ายเงินล่าช้าไปจำนวน 200 บาท จึงโดนทำร้ายร่างกายตามในคลิปจนตนทนไม่ไหว แม่จึงโทรไปลาออกให้เมื่อวันที่ 27 ก.ค. แต่ทางผู้ก่อเหตุก็ส่งคนมาคุกคาม มาขู่ ฝากบอกคนอื่นมาบอกว่าให้ครอบครัวตนขับรถให้ระวังให้ดีๆ จนตนอยู่บ้านไม่ได้

 

แม่ทนไม่ไหวจึงร้องเรียนเพจและสื่อให้ช่วย ตนโดนกระทำแบบนี้มาหลายครั้ง เช่น มาสาย เก็บเงินไม่ได้ เก็บเงินขาดจะโดนหมด สาเหตุที่ไม่กล้าเข้ามาแจ้งความเพราะเกรงกลัวอิทธิพล เขาเป็นคนใหญ่โตกว้างขวางใน อ.บ้านโป่ง เพื่อนคนอื่นก็โดน แต่เขาเป็นญาติกัน 

 

ด้านแม่ผู้เสียหายบอกว่า ตนไม่เคยรู้เลยว่าลูกเคยโดนแบบนี้ มารู้อีกทีตอนที่ลูกรักษาตัวแล้วต้องผ่าตัดที่ รพ. ทำไมต้องทำรุนแรงกันขนาดนี้แค่เงิน 200 บาท เท่านั้น ขนาดยังรักษาตัวไม่หายก็ยังเรียกไปทำงาน ซึ่งตนไม่ให้ไปเพราะสงสารลูก และโทรไปลาออกให้ลูกชาย แต่ทางผู้ก่อเหตุยังส่งคนมาตามให้ลูกไปทำงานและพูดจาขมขู่ต่างๆ นานา จนเธอกลัวไปหมด ลูกชายก็อยู่บ้านไม่ได้ ต้องพึ่งสื่อให้ช่วยไม่งั้นก็ไม่ปลอดภัย 

 

 

 

 

ด้าน พ.ต.อ.นฤดม มารศรี รองผบก.ภ.จว.ราชบุรี กล่าวว่า ความคืบหน้าของคดีเบื้องต้น ทางผู้เสียหายได้เข้ามาแจ้งความและให้ข้อมูลกับทางจนท.ตำรวจ โดยมาทั้งผู้เสียหาย คือ บุคคลที่อยู่ในคลิปและแม่ผู้เสียหายด้วย และเก็บรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อจะดำเนินคดีทุกข้อกล่าวหา เบื้องต้นตามในคลิปคดีทำร้ายร่างกาย แต่ต้องดูจากการตรวจร่างกายของแพทย์และใบรับรองแพทย์ อาจจะต้องมีการสอบแพทย์เพิ่มเติมถึงความรุนแรงของการบาดเจ็บ ตามในคลิปมีผู้ก่อเหตุ 2 คน และผู้บาดเจ็บ 2 คน เบื้องต้นมีผู้ก่อเหตุมา 1 คน ส่วนปมเหตุเบื้องต้นน่าจะเป็นเรื่องของการไม้คืนเงิน ในประเด็นของการออกเงินกู้ 

 

จากการสอบปากคำผู้เสียหายทราบว่าเคยทำงานกับกลุ่มนี้ แต่เรื่องการออกเงินกู้ต้องขอสอบปากคำให้ละเอียดก่อน ถ้าสอบแล้วมีการออกเงินกู้ผิดกฏหมายจริงก็ต้องดำเนินคดีตามกฏหมาย ไม่มีการละเว้น ประเด็นที่เป็นแก็งที่มีอิทธิพล ไม่มีไม่เคยได้ยินชื่อนี้ เรื่องการขมขู่ทาง ผบช.ภาค 7 และ ผบช.ภ.จว.ราชบุรี ได้กำชับเน้นเรื่องนี้มา โดยสั่งให้ จนท.ตำรวจ เข้าไปดูแลความปลอดภัย และสั่งให้ติดตั้งกล้องวงจรปิดที่บ้านผู้เสียหาย และบริเวณจุดใกล้เคียง ในส่วนของผู้ก่อเหตุถ้ายังไม่มาก็จะมีการออกหมายจับ 

 

 

 

 

สำหรับผู้เสียหายรายใดเคยถูกกระทำกับผู้ก่อเหตุรายนี้สามารถเข้ามาแจ้งความเพิ่มเติมได้ที่สภ.บ้านโป่งได้ ขณะที่เจ้าของเพจ "เพชรพูดแล้วทำ" กล่าวว่า วันนี้พาผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความหลังจากโดนกลุ่มผู้ก่อเหตุอุ้มไปซ้อม แล้วถ่ายคลิป และมีการขมขู่ และคุกคามตามที่ได้รับข้อมูลมา เบื้องต้นได้ประสานกับทางผบช.ภาค 7 และทางจนท.ตำรวจสภ.บ้านโป่งดำเนินการ ในประเด็นของเงินกู้ถ้าตรวจสอบแล้วมีการทำจริงอาจจะมีการประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแลต่อไป 

 

ขณะที่ พ.ต.อ.วิสุทธิ์ เสือรอด รอง ผบก.ภ.จว.สมุทรสงคราม รรท.ผกก.สภ.บ้านโป่ง กล่าวว่าจากการค้นบ้านผู้ต้องหาพบเพียงปืนบีบีกัน แต่ไม่พบสิ่งของผิดกฏหมายแต่อย่างใด รวมถึงไม้คมแฝกที่ใช้ก่อเหตุ 

 

จากการสอบปากคำเบื้องต้นได้ตั้งไว้ 3 ข้อหา ทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ประกอบธุรกิจเงินกู้ และเก็บดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฏหมายกำหนด ทั้ง 3 คนให้การรับสารภาพ ในข้อหาทำร้ายร่างกาย ซึ่งในวันนี้จะทำการสอบปากคำและตั้งข้อหา และฝากขังที่ศาล แต่เนื่องด้วยในวันนี้ศาลปิดทำการแล้ว จึงต้องนัดหมายให้ผู้ต้องหามาที่ สภ.บ้านโป่ง ในช่วงเช้า เพื่อนำตัวส่งศาลดำเนินการตามกฏหมายต่อไป เนื่องด้วยผู้ต้องหาไม่มีพฤติกรรมหลบหนีและไม่มีการออกหมายจับตามกฏหมาย จนท.ตำรวจ จึงไม่สามารถควบคุมตัวไว้ได้

 

 

โดย : สุจินต์ นฤภัย