ข่าว

สรุปคดี "น้องตอง" ขี่ จยย. ล้มดับปริศนา แพทย์ชันสูตรเจอ "ไซยาไนด์"

สรุปคดี "น้องตอง" ขี่ จยย. ล้มดับปริศนา แพทย์ชันสูตรเจอ "ไซยาไนด์" ล่าสุดตำรวจจับหนุ่มคนสนิท หลังเสนอสิน 1 ล้าน ให้ทำเป็นคดีอุบัติเหตุ

7 ส.ค. 2567 ตำรวจภูธรจังหวัดลพบุรี จับกุมนายปฏิพัธน์ (สงวนนามสกุล) หรือ เบียร์ อายุ 25 ปี ในข้อหาติดสินบนตำรวจ และมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตอย่างปริศนาของ น.ส.ชลดา (สงวนนามสกุล) อายุ 25 ปี สาว LGBT ซึ่งขี่ จยย. เสียหลักล้ม แต่แพทย์กลับชันสูตรพบไซยาไนด์ ในกระเพาะอาหาร

 

ย้อนไทม์ไลน์ น้องตอง ดับปริศนา

 

"คมชัดลึกออนไลน์" ชวนย้อนอ่านจุดเริ่มต้นคดีนี้ เกิดขึ้นเที่ยงคืน วันที่ 2 ก.พ. 2567 น.ส.ชลดา ขี่จักรยานยนต์ล้มข้างทาง ริมถนนสาธารณะเส้นทางนิคม-บ้านดงน้อย ต.กกโก อ.เมือง จ.ลพบุรี ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลพระนารายณ์มหาราช จ.ลพบุรี แพทย์ตรวจรักษาพบบาดแผลฉีกขาดที่หางตาขวา ใบหน้าขวาถลอก ซึ่งไม่ใช่อาการบาดเจ็บรุนแรง

สำหรับจุดเกิดเหตุเป็นถนนชนบทคอนกรีต ขนาด 2 เลน สวนกันได้ ความกว้างประมาณ 4 เมตร ไม่มีขรุขระ หรือลูกระนาด ที่อาจเป็นเหตุให้ผู้ตายขับรถเสียหลัก และพุ่งลงข้างทาง

 

สรุปคดี \"น้องตอง\" ขี่ จยย. ล้มดับปริศนา แพทย์ชันสูตรเจอ \"ไซยาไนด์\"

น.ส.ชลดา พักรักษาตัวอยูู่ที่โรงพยาบาล ก่อนจะมีอาการทรุดหนัก และเสียชีวิตในเวลา 04.27 น. ของวันที่ 3 ก.พ. 2567 แพทย์ได้เห็นถึงความผิดปกติการเสียชีวิต จึงตัดสินใจส่งผ่าพิสูจน์ ต่อมาวันที่ 9 เม.ย. ครอบครัวได้รับรายงานผลตรวจชันสูตรศพ ระบุการตรวจทางนิติพิษวิทยาจากเลือด และกระเพาะอาหาร พบยาในกลุ่มยาพิษ ได้แก่ "ไซยาไนด์"

มีประเด็นพิรุธหลังการเสียชีวิตของ น.ส.ชลดา พบว่าเมื่อ 1 ก.พ. 2567 ผู้ตายได้ทำประกันชีวิตผ่านช่องทางออนไลน์ มีวงเงินสูงสุด 1.5 ล้านบาท โดยระบุผู้รับผลประโยชน์ คือ นายปฏิพัธน์ ซึ่งเป็นเพื่อนของ น.ส.ชลดา

ข้อมูลเบื้องต้น นายปฏิพัธน์ ได้แจ้งกับทางประกันว่า เป็นแฟนของ น.ส.ชลดา ทั้งสองอาศัยอยู่บ้านหลังเดียวกัน และพบว่าชื่อของ น.ส.ชลดา ได้โอนย้ายเข้ามาที่บ้านของนายปฏิพัธน์ เมื่อกลางเดือน ม.ค. 2567

 

สรุปคดี \"น้องตอง\" ขี่ จยย. ล้มดับปริศนา แพทย์ชันสูตรเจอ \"ไซยาไนด์\"

 

สัปเหร่อ พบพิรุธ ก่อนเผาไม่เปิดโลง

 

ผู้สื่อข่าวไปพูดคุยกับพระลูกวัดป่าหวายทุ่ง ให้ข้อมูลว่า ช่วงที่ญาติมาติดต่อจัดงานศพ ได้ติดต่อผ่านสัปเหร่อมา มีญาติมาร่วมงานไม่เยอะ จัดสวดอภิธรรม 2 คืน วันที่ 3 ก็ทำการฌาปนกิจศพ ตามประเพณี นอกจากนี้ยังเห็นเพื่อนผู้ตายที่มีลักษณะคล้ายกับสาวประเภทสอง คอยเป็นแม่งานจัดการทุกอย่าง

แต่ที่น่าแปลกคือหลังเผาศพแล้ว ได้ฝากเถ้ากระดูกไว้ที่วัด 7 วัน เนื่องจากยังไม่มีเวลานำไปลอยอังคาร จนกระทั่งครบ 100 วัน เพื่อนสาวประเภทสอง ก็มาทำบุญให้ตามประเพณี แต่ยังคงฝากกระดูกไว้ที่วัดก่อน จนกระทั่งมีนักข่าวมาสอบถามถึงที่เก็บรักษากระดูก อาจจะเกี่ยวข้องกับคดีฆาตกรรม

ด้าน สัปเหร่อ อายุ 82 ปี ให้ข้อมูลว่า เรื่องดังกล่าวค่อนข้างนานแล้ว จำได้ว่าช่วงที่ติดต่อประสานมาขอให้ทำศพ น.ส.ชลดา ทางญาติแจ้งว่าเสียชีวิต เพราะอุบัติเหตุ โดยมีการห่อผ้าขาวมาทั้งร่าง ตั้งสวดเพียง 2 คืน ก่อนจะเผา ช่วงก่อนจะนำศพเข้าเตาเผา ความจริงต้องมีการเปิดโลงก่อน แต่ทางญาติแจ้งว่า ไม่อยากให้เปิด เนื่องจากสภาพหน้าของ น.ส.ตอง มีการเย็บมากกว่า 100 เข็ม ตนจึงไม่เห็น ทำให้ไม่ทราบว่า ศพดำคล้ายกับคนถูกว่ายาพิษหรือไม่

 

สรุปคดี \"น้องตอง\" ขี่ จยย. ล้มดับปริศนา แพทย์ชันสูตรเจอ \"ไซยาไนด์\"

 

พ่อคนตาย แจงโพสต์ถามใครฆ่าลูก เพื่อสื่อไปถึงคนร้าย


พ่อ น.ส.ชลดา ให้ข้อมูลว่า เรื่องคดีขอให้เป็นหน้าที่ของตำรวจสืบสวนหาข้อเท็จจริง ซึ่งส่วนตัว ก็ตั้งข้อสงสัยว่าเพราะเหตุใด สารไซยาไนด์ ถึงเข้าไปอยู่ในร่างของลูกสาวได้ และตนก็ยังไม่สามารถชี้ชัดได้ว่า สาเหตุที่ลูกสาวเสียชีวิตนั้น เป็นเรื่องของอุบัติเหตุ หรือฆาตกรรม แต่หากเป็นฆาตกรรม อยากให้ตำรวจจับกุมคนที่ฆ่าลูกสาวมาดำเนินคดี เพราะอยากรู้สาเหตุที่คนร้ายมาทำกับลูกสาวนั้น มีแรงจูงใจจากอะไร

ส่วนประเด็นที่ตนเคยโพสต์เฟซบุ๊กติดแฮชแท็กว่า "มึงฆ่าลูกกูทำไม" และ "ใครฆ่าชลดา" ประเด็นนี้ พ่อของผู้ตาย บอกว่า เป็นการโพสต์ลักษณะหว่านแหตั้งคำถาม เพื่อสื่อไปถึงคนทำร้ายลูกของตน หากเขารู้อยู่แก่ใจก็คงรู้สึกสะเทือน และร้อนรน

 

 

พี่สาวคนสนิท เชื่อ นาย บ. มีส่วนรู้เห็น

 

ด้าน น.ส.แนน (นามสมมติ) พี่สาวคนสนิท น.ส.ชลดา เชื่อตั้งแต่แรกว่าการเสียชีวิตของ น.ส.ชลดา มีเงื่อนงำอย่างแน่นอน เพราะหลังน้องเสียชีวิตได้เพียง 1 วัน ตนไปหานาย บ. ที่บ้าน เพื่อสอบถามว่า เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นอย่างไร แต่ นาย บ. กลับพาไปคุยในมุมลับตาคน พร้อมบอกว่า ตอนนี้รู้สึกกลัว และกังวลเป็นอย่างมาก เนื่องจาก น.ส.ชลดา ตายแบบผิดธรรมชาติ เพราะผิวไม่ได้ซีด เหมือนกับศพคนอื่น แต่ศพของน้องมีสีดำคล้ำมาก ที่สำคัญนาย บ. ยังบอก ว่า กลัวหมอจะชันสูตรไปพบสารอะไรบางอย่าง

อีกทั้งยังเชื่อว่าการทำประกันชีวิตก่อนน้องจะเสียชีวิต ต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากล เพราะน้องไม่ได้มีความคิดจะทำประกันชีวิตแน่นอน แค่เงินที่จะใช้ในแต่ละเดือน รวมถึงเงินจะจ่ายค่าหอพักยังจะไม่พออยู่แล้ว

น.ส.แนน (นามสมมติ) บอกอีกว่า สงสัยนาย บ. เป็นอย่างมาก เพราะมีพิรุธหลายอย่างตั้งแต่วันเกิดอุบัติเหตุ ว่าเพราะอะไรนาย บ. ถึงเดินทางไปที่เกิดเหตุได้เร็วขนาดนั้น พอจี้ถามนาย บ.ก็บอกว่า ที่เดินทางไปถึงเร็ว เพราะโทรหาน้องหลังจากที่น้อง ขี่ จยย. ออกไปจากบ้าน แล้วมีคนรับสาย ซึ่งคาดว่าเป็นเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ แต่จากการติดตามข่าวยังไม่เคยเห็นเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ คนไหน ออกมาพูดว่าเป็นคนรับโทรศัพท์ของน้อง แล้วบอกกับนาย บ. ว่าน้องประสบอุบัติเหตุ

น.ส.แนน กล่าวอีกว่า สาเหตุที่เข้ามาให้การกับตำรวจ เพราะตั้งใจอยากช่วยน้อง อยากให้ดวงวิญญาณของน้องไปสู่สุคติ ขณะเดียวกันตอนนี้ยังไม่มีใครทราบว่า ลูกชาย 2 ขวบ ของน้องไปอยู่ที่ไหนกับใคร ซึ่งก่อนหน้านี้ ตนพยายามสอบกับนาย บ. แต่กลับบ่ายเบี่ยงมาตลอด และยังบอกอีกว่าครอบครัวน้องเรียกเงิน 2 ล้าน ซึ่งนาย บ. ไม่ได้ให้รายละเอียดว่าเป็นเงินค่าอะไร

 

จับ "เบียร์" หนุ่มคนสนิท "น้องตอง" พยายามติดสินบนตำรวจ

 

 

7 ส.ค. 2567 ตำรวจภูธรจังหวัดลพบุรี เข้าจับกุมนายปฏิพัธน์ หรือเบียร์ ฐานติดสินบนเจ้าพนักงาน เบื้องต้นผู้ต้องหาไม่ยอมให้การใดๆ ทั้งประเด็นไซยาไนด์ และการเสียชีวิตของ น.ส.ชลดา ก่อนถูกคุมตัวมาทำบันทึกจับกุมที่ สภ.พยุหะคีรี โดย นายปฏิพัธน์ โทรศัพท์แจ้งว่า ไม่ต้องมาประกันตัว

สำหรับหมายจับข้อหาติดสินบนเจ้าพนักงานนั้น สืบเนื่องจากกรณี น.ส.ชลดา เสียชีวิต นายปฏิพัธน์เป็นคนเดินเรื่องทุกอย่างแทนครอบครัว และได้โทรศัพท์ประสานกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองลพบุรี พร้อมเสนอเงินจำนวน 2 แสนบาท เพื่อให้ทำคดีการเสียชีวิตของ น.ส.ชลดา เป็นคดีอุบัติเหตุ ต่อมาเมื่อปรากฏเป็นข่าวจะติดต่อเพิ่มข้อเสนอให้เป็น 1 ล้านบาท พนักงานสอบสวนจึงนำเรื่องนี้ ไปรายงานผู้บังคับบัญชา และนำไปสู่การขอศาลออกหมายจับ

 

สรุปคดี \"น้องตอง\" ขี่ จยย. ล้มดับปริศนา แพทย์ชันสูตรเจอ \"ไซยาไนด์\"
 

รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับคดีติดสินบนเจ้าพนักงานสอบสวน อาจมีความเชื่อมโยงการเสียชีวิตของ น.ส.ชลดา ซึ่งประเด็นนี้ตำรวจได้เก็บบันทึกเอาไว้ในสำนวนการสอบสวน หลังจากนี้ฝ่ายสืบสวน จะเร่งขยายผลหาพยานหลักฐาน เพื่อหาความเชื่อมโยงกรณีการพบ "ไซยาไนด์" ในร่างกายของผู้ตายต่อไป

อย่างไรก็ตามจากการสอบปากคำผู้เกี่ยวข้อง ตำรวจให้ข้อมูลว่าเป็นการสอบถามประเด็นเรื่องกรมธรรม์ประกันชีวิต ที่ น.ส.ชลดา ทำไว้ว่ามีทั้งหมดกี่ฉบับ เพราะตำรวจมีหลักฐานชัดเจนเพียง 2 ฉบับ แต่จากแนวทางการสืบสวนทราบว่ายังมีกรมธรรม์อีกหลายฉบับ