"ฝ่ายมนุษยธรรมฯ (SGCU)" ฝ่ายส่งเสริมมนุษยธรรมสากล องค์การบริหารสโมสรนิสิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย Department of Humanitarian and Human Rights Affairs of SGCU โพสต์ข้อความได้จัดกิจกรรม "แฟลชม็อบ" ร่วมแสดง จุดยืนไม่เห็นด้วยกับกรณีศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุบพรรคก้าวไกล และตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรคก้าวไกล 10 ปี ส่งผลให้มี สส. 6 คน ต้องหลุดจากการทำหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร
โดยมีประชาชนจำนวนมากเข้าร่วมกิจกรรมที่ sky walk แยกปทุมวัน ซึ่งมีการวางแผ่นผ้าสีขาวความยาวประมาณ 2 เมตร มีข้อความตัวใหญ่กำกับว่า คุณรู้สึกอย่างไรที่พรรคก้าวไกลถูกยุบ ประชาชนจำนวนหนึ่งได้เขียนความรู้สึกลงไป เช่น กลัวจนต้องรีบยุบเลยดิว๊าย~~, 14ล้านเสียงของประชาชนมันไม่มีค่าเลยใช่ไหม?, ยุบพรรค=ประหารการเมือง ภูมิใจไหมกับการทำลายอนาคตและความหวังของปชช. เป็นต้น
ขณะที่นายอภิสิทธิ์ ฉวานนท์ นิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ชั้นปี 4 ในฐานะนายกองค์การบริหารสโมสรนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า การจัดกิจกรรมในวันนี้เป็นการแสดงจุดยืนว่า ทางองค์การบริหารสโมสรนิสิตจุฬาฯ ไม่เห็นด้วย โดยจะยืนคัดค้านการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเป็นระยะเวลา 112 วินาที เพื่อแสดงจุดยืนว่าพรรคก้าวไกลที่มีนโยบายในการแก้ไข ม.112 ไม่ใช่ล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งคำวินิจฉัยนี้ขัดต่อเจตจำนงของประชาชนในการเลือกตั้งที่ผ่านมา กว่า 14 ล้านเสียง โดยในวันนี้ยังมีตัวแทนจากหลายมหาลัยมาร่วมด้วย อาทิเช่น ตัวแทนจากแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุมร่วมอ่านคำแถลงการณ์ด้วย
นาย ธีรภพ เต็งประวัติ นักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ชั้นปีที่2 ในฐานะแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม อ่านคำแถลงการณ์มีใจความว่า ในหน้าประวัติศาสตร์การเมืองไทยตลอด 20 ปีที่ผ่านมามีพรรคการเมืองถูกสั่งยุบไปแล้วร่วม 110 พรรค ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พรป.) ว่าด้วยพรรคการเมืองหลายฉบับ ด้วยหลากหลายข้อกล่าวหา อาทิการไปรวมกับพรรคการเมืองอื่น การไม่ส่งรายงานใช้จ่ายเงินสนับสนุน จนถึงการเกี่ยวข้องกับการล้มล้างระบอบการปกครอง ทำให้พรรคการเมือง นักการเมืองจำนวนมาก โดยเฉพาะพรรคการเมืองในกลุ่มที่ถูกนิยามว่าเป็น "ฝ่ายประชาธิปไตย" ต้องถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบเลิก และเพิกถอนสิทธิทางการเมือง เป็นการพรากความฝันและดับซึ่งความหวังของพ่อแม่พี่น้องประชาชนที่ได้ฝากไว้กับพรรคและนักการเมืองเหล่านั้น
ในประเทศที่เป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริงควรสนับสนุน ส่งเสริมการรวมกลุ่มของประชาชน การยุบพรรคการเมืองต้องเป็นทางเลือกสุดท้าย และไม่ควรถูกยุบจากองค์กรอิสระที่ไม่ได้มีอะไรยึดโยงกับประชาชน หากพรรคการเมืองจะดับสูญก็ต้องสูญหายไปด้วยน้ำมือของประชาชน โดยการตัดสินใจไม่ลงคะแนนเสียงเลือกตั้งให้กับพรรคนั้น ๆ การกระทำของศาลรัฐธรรมนูญในวันนี้ คือการละเมิดเจตจำนงของประชาชนรวมกว่า 14 ล้านเสียงที่ได้ลงคะแนน ให้ความไว้วางใจกับพรรคก้าวไกลในการเลือกตั้งเมื่อปี 2566 ที่ผ่านมา
"การเป็นนิติรัฐ" ย่อมไม่หมายความเพียงว่ารัฐต้องผูกพันกับกฎหมาย หากแต่การกระทำของรัฐต้องมีความชอบด้วยกฎหมาย แต่ยังหมายถึงวัตถุประสงค์ในการจำกัดอำนาจรัฐและผู้ปกครองในประเทศโดยกฎหมาย ซึ่งก็คือเพื่อไม่ให้กระทำการตามอำเภอใจ หากแต่ใน 20 ปีที่ผ่านมา แทนที่จะเป็นที่พึ่งในการพิทักษ์สิทธิเสรีภาพของประชาชนและองค์กรที่ตรวจสอบและจำกัดอำนาจผู้ปกครองตามหลักนิติรัฐ ศาลรัฐธรรมนูญกลับกลายเป็นเครื่องมือในการขยายขอบเขตของอำนาจรัฐและสถานะของผู้ปกครองในระบบยุติธรรม
แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุมจึงขอยืนยันว่าการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญาย่อมเป็นสิ่งที่กระทำได้ตามระบอบประชาธิปโดยในระบบรัฐสภา และประณามการตัดสินใจที่จะยุบพรรคก้าวไกลโดยศาลรัฐธรรมนูญในวันนี้ ว่าเป็นการกระทำที่ยอมรับมิได้และเป็นการขัดต่อหลักนิติรัฐและหลักการประชาธิปไตยที่อำนาจอธิปไตยเป็นของประชาชน ยิ่งไปกว่านั้น แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุมขอยืนยันว่า ทุกการกระทำที่ชนชั้นนำไทยใช้ในการตอบโต้ความพ่ายแพ้ในการเลือกตั้ง ตั้งแต่การบิดเบือนการเลือกตั้ง การทำรัฐประหาร รวมจนถึงการยุบพรรคอย่างที่เห็นกันในวันนี้ เป็นการที่มิใช่ มิควร และมิเคยเป็นเรื่องปกติในทุกสังคมประชาธิปไตย โดยบรรดาประเทศที่นิยามตัวเองว่ามีระบอบการปกครองในรูปแบบประชาธิปไตย
จากนั้นผู้เข้าร่วมชุมนุมยังร่วมกัน ตะโกนคำว่า "สุขสันต์วันรพี" จำนวน 3 ครั้ง เพื่อเป็นการแสดงการเสียดสีถึงวันรำลึกพระบิดาแห่งกฎหมายไทย คือ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ ผู้ได้รับยกย่องให้เป็น "พระบิดาแห่งกฎหมายไทย" ในวันที่ 7 ส.ค. นี้นั้นเอง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง