รวบ “อิฐ บางแม่นาง” วิศวกรหนุ่ม รับจ็อบค้ากระสุนปืน
จับ “อิฐ บางแม่นาง” วิศวกรหนุ่ม นักแม่นปืน รับจ็อบเสริมขายกระสุนปืน-อาวุธปืน โดนรวบพร้อมของกลางคาร้านรับส่งพัสดุ
8 ส.ค.2567 สืบนครบาล นำโดย พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. สั่งการให้ พ.ต.ท.สมพงษ์ เกตุระติ สว.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น. ร.ต.ต.ทรงศักดิ์ เจียมสกุล รอง สว.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น. พร้อมกำลัง ชุดปฏิบัติการที่ 5 กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. ร่วมกับนักสืบ TOP G ชุดปฏิบัติการที่ 5 จับกุมตัว
นายธัชชัย หรือ อิฐ บางแม่นาง อายุ 38 ปี ชาวจ.นนทบุรี ได้ภายในร้านส่งพัสดุเอกชน สาขาบางใหญ่ จ.นนทบุรี พร้อมตรวจยึดของกลาง 13 รายการ คือ
1) กล่องพัสดุ สีน้ำตาล ภายในบรรจุเครื่องกระสุนปืนขนาด 9 มม. ยี่ห้อ Thai Arms จำนวน 1 กล่อง (50 นัด)
2) กล่องพัสดุสีน้ำตาล ภายในบรรจุ เครื่องกระสุนปืนขนาด 9 มม. ยี่ห้อ NRC จำนวน 1 กล่อง (50 นัด)
3) กล่องพัสดุสีน้ำตาล ภายในบรรจุ เครื่องกระสุนปืนขนาด 9 มม. ยี่ห้อ Thai Arms จำนวน 2 กล่อง (กล่องละ50 นัด รวม 100 นัด )
4) กล่องพัสดุ สีน้ำตาล ภายในบรรจุ
4.1) เครื่องกระสุนปืนขนาด 9 มม. ยี่ห้อ Bullet Master จำนวน 1 กล่อง (50 นัด)
4.2) เครื่องกระสุนปืนขนาด .22 LR ยี่ห้อ Aguila จำนวน 2 กล่อง (กล่องละ 50 นัด รวม 100 นัด )
4.3) เครื่องกระสุนปืนขนาด .22 LR ยี่ห้อ ELEY จำนวน 2 กล่อง (กล่องละ 50 นัด รวม 100 นัด)
4.4) เครื่องกระสุนปืนลูกซอง ขนาด 12 เกจ ยี่ห้อ Bullet Master จำนวน 1 กล่อง (25 นัด)
4.5) พร้อมด้วย ใบเสร็จ บริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพลส (ประเทศไทย) จำกัด จำนวน 1 แผ่น
5.กล่องพัสดุสีขาว ภายในบรรจุ เครื่องกระสุนปืนขนาด .22 แม็กนัม ยี่ห้อ Armscor จำนวน 1 กล่อง (50 นัด)
6) กล่องพัสดุสีน้ำตาล ภายในบรรจุ เครื่องกระสุนปืนขนาด .38 ยี่ห้อ Bullet Master จำนวน 1 กล่อง (50 นัด)
7) กล่องพัสดุสีน้ำตาล ภายในบรรจุ เครื่องกระสุนปืนขนาด .38 ยี่ห้อ Thai Arms จำนวน 1 กล่อง (50 นัด) และ เครื่องกระสุนปืนขนาด .22 ยี่ห้อ Sellier&Bellot จำนวน 1 กล่อง (50 นัด)
8) กล่องพัสดุสีขาว ภายในบรรจุ เครื่องกระสุนปืนขนาด .45 ยี่ห้อ Federal premium จำนวน 1 กล่อง (10 นัด)
9) กล่องพัสดุสีขาว ภายในบรรจุ เครื่องกระสุนปืนขนาด .22 ยี่ห้อ Federal จำนวน 1 กล่อง (50 นัด) และ เครื่องกระสุนปืนขนาด .22 ยี่ห้อ Sellier&Bellot จำนวน 1 กล่อง (50 นัด)
10) กล่องพัสดุสีน้ำตาล ภายในบรรจุ เครื่องกระสุนปืนขนาด .38 ยี่ห้อ Thai Arms จำนวน 1 กล่อง (50 นัด)
11) กล่องพัสดุสีน้ำตาลภายในบรรจุ เครื่องกระสุนปืนขนาด .38 ยี่ห้อ Bullet Master จำนวน 1 กล่อง (50 นัด)
12) กล่องพัสดุสีน้ำตาล (กล่องเปล่า) จำนวน 20 กล่อง
13) ถุงใส่ของพลาสติก แบบถือ ลายสีขาว-ดำ (ใช้สำหรับบรรจุกล่องพัสดุมาจัดส่ง จำนวน 1 ใบ
รวมตรวจยึดกระสุนปืนได้ทั้งหมด 885 นัด
ดำเนินคดีฐานจำหน่ายเครื่องกระสุนปืนสำหรับการค้า โดยไม่ได้รับอนุญาต
โดยเจ้าหน้าที่จับกุม อิฐ บางแม่นาง ได้ขณะขับรถยนต์ส่วนตัว นำถุงผ้าใบขนาดใหญ่ ภายในมีกล่องพัสดุ ลักลอบบรรจุกระสุนปืนขนาดต่างๆ เพื่อนำไปส่งให้แก่ลูกค้าที่สั่งซื้อทางออนไลน์
โดย นายธัชชัย รับว่า นำเครื่องกระสุนปืนขนาดต่างๆ มาจัดส่งจำหน่าย เจ้าหน้าที่จึงนำตัวเข้าไปเปิดกล่องเพื่อตรวจค้นพัสดุที่จัดส่ง
ผลการตรวจค้น สามารถตรวจยึดของกลางที่เกี่ยวข้องกับคดี จำนวน 13 รายการดังกล่าว รวมตรวจยึดกระสุนปืนได้ทั้งหมด 885 นัด
โดยนายธัชชัย หรือ อิฐ บางแม่นาง ให้การภาคเสธ ว่า ทำงานเป็นวิศวกรโยธา ของบริษัทเอกชนยักษ์ใหญ่ ก่อนลาออกมารับงานวิศวกรฟรีแลนซ์ เนื่องจากมีความชื่นชอบการยิงปืนตั้งแต่อายุ 21 ปี จึงได้ฝึกฝนในเชิงกีฬาจนมีความชำนาญ และรู้จักคนในวงการยิงปืน และวงการจำหน่ายกระสุนปืน ตลอดจนอุปกรณ์บีบีกัน จึงหันมาจำหน่ายกระสุนปืนขนาดต่างๆ และอุปกรณ์บีบีกันเป็นรายได้เสริม ไม่คิดว่าจะมาถูกจับกุมได้ในที่สุด
จากการตรวจสอบประวัติในฐานข้อมูลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พบว่าเคยถูกดำเนินคดีฐานเป็น ตัวการในข้อหามีเครื่องกระสุนปืนซึ่งมิใช่สำหรับใช้กับอาวุธปืนที่ตนได้รับอนุญาตให้มี และจำหน่ายเครื่องกระสุนปืนเพื่อการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต เมื่อปี 2565 ตามเลขคดี ที่ 14/2565
ต่อมานำหมายค้นศาลจังหวัดนนทบุรี เข้าตรวจค้นบ้านพัก หมู่ 10 ต.บางแม่นาง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี พบอาวุธปืนขนาด .357 มีใบอนุญาตของบุคคลอื่นซุกซ่อนอยู่ จึงตรวจยึดนำส่งพนักงานสอบสวนโรงพักพื้นที่ในส่วนที่เกี่ยวข้องตามกฎหมายในคราวเดียวกัน จากนั้นจึงได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ดำเนินคดี
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ กล่าวว่า อาวุธปืนและกระสุนปืน เป็นต้นตอของการก่อเหตุอาชญากรรม โดยทางสืบนครบาลมุ่งเน้นปราบปรามจับกุมอย่างจริงจัง เพื่อลดปัญหาในสังคมและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน และฝากเตือนว่า การซื้อขายครอบครองและพกพาอาวุธปืน ต้องขอใบอนุญาตจากนายทะเบียนให้ถูกต้องตามกฎหมาย หากซื้อขายอาวุธปืนที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียน ทั้งผู้ซื้อและผู้ขายจะมีความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน ผู้ขายมีโทษจำคุกตั้งแต่ 2-20 ปี และปรับตั้งแต่ 4,000-40,000 บาท