เสี่ยร้านอาหาร-เมีย โดนข้อหาข่มขืนนักร้องสาว
ตำรวจแจ้งข้อหา เสี่ยร้านอาหาร-เมีย ฐานข่มขืนนักร้องสาว ขณะที่เจ้าตัวโต้ลั่นพร้อมนำคลิปที่ถ่ายเอาไว้ ส่งให้ตำรวจ
8 ส.ค.2567 จากกรณี เฟซบุ๊กของ Chaloemsak Maleerod โพสต์รูปและคลิปวิดีโอ พร้อมข้อความว่า “ช่วยแชร์หน่อยนะครับ เมื่อคืนผมไปเล่นดนตรีมา ผมเป็นมือกลอง แฟนผมเป็นนักร้อง ไปเล่นดนตรีร้านหนึ่งแถวหทัยราษฎร์ ผมเล่นที่นี่มาหลายเดือนแล้วครับ แล้วแฟนผมที่เป็นนักร้องก็ค่อนข้างสนิทกับภรรยาเจ้าของร้าน แล้วเมียเจ้าของร้านก็ชอบมาบ่นเรื่องราวชีวิตให้ฟัง จนแฟนผมเห็นใจ แล้วก็ชวนกินเหล้าต่อที่ร้านจน ปิดร้าน แล้วแฟนผมก็จะกลับแต่มันพาไปบ้าน แล้วแฟนผมไปกะมันแค่คนเดียวผมไม่ได้ไป แล้วพอถึงบ้านมัน ก็นั่งกินกันต่อ แล้วบอกให้แฟนผมไปอาบน้ำ ถอดเสื้อผ้า
“แล้ววินาทีนั้น ผัวมันก็เดินออกมาแฟนผมก็ตกใจ ไหนบอกว่าทะเลาะกัน สุดท้าย มันจับแฟนผมแก้ผ้าแล้วจะข่มขึ้น แต่แฟนผมไม่ยอม มันก็ลุมกระทีบ ตบตีแฟนผม เมียตบ ผัวจะข่มขึ้น สุดท้ายแฟนผมก็วิ่งหนีออกมา แบบไม่ใส่เสื้อผ้าแล้วก็มีพวกมันตามมา เอาเสื้อผ้ามาให้ใส่ แฟนผมร้องไห้ โทรหาผม ผมก็รีบไปรับกับมา จังหวะนั้น ผมต้องใจเย็นมากๆเพื่อให้ได้ตัวแฟนผมกับมา ผมได้เจอแฟนผม สภาพมีการโดนซ้อม มีเลือดออกจมูก มีแผลช้ำตามภาพ แล้วเข้าของทุกอย่าง ก็โดนพวกมันเอาไปหมดเลยตอนนี้ผมกำลังดำเนินคดีให้ถึงที่สุดครับ ผมเสียใจมากๆ ที่ร้านเหล้า ร้านหนึ่ง ที่ผมให้ใจ จะมาทำกับพวกผมแบบนี้ อันนี้เรื่องคล้าวๆนะครับ รายละเอียดมีเยอะมากๆ ผมไม่คิดเลยว่าจะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น กับผม เสียใจมากๆครับ จะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด”
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 7 ส.ค.2567 ที่ สภ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี นางสาวนุ้ย 36 ปี พร้อมแฟนหนุ่ม เดินทางมาให้ปากคำเพิ่มเติม กับ ร.ต.อ.สมโภช สืบวงศกร รองสารวัตรสอบสวน สภ.ลำลูกกา เกี่ยวกับเรื่องที่ถูก เจ้าของร้านอาหารลวงไปที่บ้าน แล้วพยายามจะข่มขืน ก่อนจะมีการทำร้ายร่างกายแฟนสาวจนได้รับบาดเจ็บ และ ยังเอาโทรศัพท์มือถือของแฟนสาวไปด้วย ทั้งคู่ได้ให้ปากคำกว่า 3 ชั่วโมงจึงแล้วเสร็จ ก่อนที่จะเดินทางกลับ โดยนางสาวนุ้ย อ้างว่าเพลียและยังไม่ขอให้สัมภาษณ์แต่อย่างใด เพียงแต่ยอมเปิดบาดแผลที่ใบหน้าให้สื่อมวลชนดูเท่านั้น
ขณะที่แฟนหนุ่ม ของนางสาวนุ้ย กล่าวว่า ผมอยากให้ไปติดตาม ที่เป็นข่าวอยู่ตอนนี้เพราะผมให้สัมภาษณ์ไปแล้ว โดยแฟนสาวโทรหาผมเวลา 05.00 น. โดยบอกว่าช่วยด้วย ก่อนที่จะโดนแย่งมือถือไป โดยวันเกิดเหตุตนเองก็เลิกงานจากร้านพอดี แล้วกลับบ้านส่วนแฟนผมนั่งกินต่อที่ร้าน เพราะบอกว่าเห็นใจเจ๊เจ้าของร้าน ตนเองทำงานที่นี่มาประมาณ 5 เดือน ที่ผ่านมาทางร้านและเจ้าของร้านก็เป็นปกติทุกอย่าง ไม่ได้มีอะไร
ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่เคยคาดคิดเลย ตอนนี้แฟนสาวก็ยังไม่ได้เล่ารายละเอียดให้ตนฟังมากนัก โดยตอนที่ตนเองไปเจอแฟนสาวพบว่าบริเวณใบหน้าถูกทำร้ายจนเละหมดเลย โดยตอนที่ไปเจอนั้นแฟนสาวยืนอยู่หน้าหมู่บ้านกับทางเจ้าที่รปภ. โดยแฟนสาวใส่ชุดนอนสายเดี่ยวซึ่งไม่ใช่ชุดที่ใส่ที่ร้าน โดยปกติแฟนตนเองไม่เคยไปทานเหล้าที่ไหนเลย ครั้งนี้ก็เป็นครั้งแรก ตั้งแต่ที่ตนเองคบกับแฟนสาวมาประมาณ 4-5 ปี
ต่อมาเวลา 20.30 น. วันที่ 7 ส.ค.2567 นายเดี่ยว อายุ 36 ปี เจ้าของร้านอาหาร คู่กรณี เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.สมโภช สืบวงศกร รองสารวัตรสอบสวน สภ.ลำลูกกา พร้อมกับกล่าวเปิดเผยว่า จริงๆผมไม่ได้ทำร้ายเขาไม่ได้ข่มขืน ไม่มีเหตุการณ์ทำร้ายอะไรเลย ตามคลิปผมไม่ได้บังคับเขา แล้วมันจะมีเหตุผลอะไรที่ผมต้องไปทำร้ายเขา มีเหตุผลอะไรที่ผมต้องไปกักขังเขา
เหตุการณ์ตอนนั้นผมกลับมาที่บ้านก่อน และนอนอยู่บนห้องนอน โดยทางผู้หญิงกับภรรยาผม และลูกน้องที่ร้านอีก 4 คน มานั่งดื่มเหล้ากันต่อที่บ้าน จากนั้นเค้าก็ได้เดินขึ้นมาภายในห้องนอนโดยอ้างกับแฟนว่าจะมาขออาบน้ำ เมื่อเขาเดินเข้ามาภายในห้อง เขาได้ถอดเสื้อผ้าออกหมดซึ่งถอดอยู่ข้างๆผม แล้วถามว่าผมเป็นผู้ชายไม่ใช่พระอิฐพระปูนนะครับ
ทั้งนี้นายเดี่ยวอ้างทำนองว่า ผู้แจ้งความ เป็นคนเริ่มก่อน ในขณะที่แฟนสาวของนายเดี่ยวก็อยู่ในห้องพักด้วย โดยรสนิยมของเราทั้งคู่รับกันได้
ส่วนบาดแผลที่ตามตัวผู้แจ้งความ นายเดี่ยว อ้างว่า ไม่รู้เลยว่าไปโดนอะไร ผมไม่รู้ว่าเขากลับไปสภาพไหน เพราะว่าหลังจากอยู่ด้วยกัน ผมกลับเข้ามานอนอีกห้องหนึ่ง แล้วก็ไม่รู้เหตุการณ์เลยว่ามันคืออะไรยังไง
ถ้าเขาออกไปในสภาพที่ใส่ชุดนอนของแฟนผม เป็นชุดนอนวาบหวิว แล้วไปเจอแฟน แฟนก็คงต้องถามแล้วเกิดบันดาลโทสะหรือทะเลาะกัน
เขาบอกว่าผมเป็นข่มขืน ผมก็เลยบอกว่าเฮ้ยผมข่มขืนใคร ผมเลยส่งคลิปพวกนี้ให้ตำรวจดู ถามว่าตอนนี้เค้าวิ่งออกจากบ้านไป ถามว่าโป๊ไหมก็เค้าใส่ชุดนอนออกไป ผมไม่สามารถบอกอะไรได้เยอะเพราะหลังจากเสร็จตรงนั้น ผมก็ไปนอนเลย แต่ตัวเขาก็ยังนอนอยู่บนเตียง อยู่กับแฟนผม โดยผมได้ลุกมาอาบน้ำ เสร็จแล้วผมก็ไปเข้านอน ส่วนแฟนผมจะไปทำร้ายเขา ไม่มีครับ โดยคลิปที่ถ่ายไว้เพื่อป้องกันตัว เพราะผมทำร้านเหล้า ก็จะมีบางที ซึ่งเราก็พูดตรงๆเพราะว่าเราเที่ยวผู้หญิงและบางคนเขาก็สมยอม แล้วเค้าพากลับมาบ้านเรา ก็กลัวการที่จะเกิดเหตุการณ์แบบนี้
ผมรู้สึกว่าผมโชคดีที่ถ่ายคลิปไว้ หลังจากนี้จะดำเนินการฟ้องในส่วนของคนที่เกี่ยวข้องที่ไปคอมเมนต์ คุณยังไม่รู้อะไรเลย คุณยังไม่ฟังความจริงจากผม แต่ผมเข้าใจว่าเค้าเป็นผู้หญิงแล้ว ก็สภาพนั้นอะ แต่ถ้าเป็นผม ผมก็ต้องเมนต์ด่าก่อน แต่ผมยืนยันครับว่าผมฟ้องแน่นอน และถ้ายังไม่รู้ความจริงแล้วยังไม่หยุด ผมฟ้อง แล้วก็เดี๋ยวมีช่องทีวีบางช่องที่เสนอข่าวผมไปแล้ว เดี๋ยวผมฟ้องครับ
ส่วนตัวกับผู้หญิงคนนี้ โดยปกติแล้วน้องเค้าร่วมงานกับผมมาหลายเดือนผมก็เห็นเป็นพี่เป็นน้อง ไม่เคยมีความรู้สึกที่แบบว่าชู้สาวเลย เคยช่วยเหลือเรื่องเงินทอง เบิกแอดวานซ์ล่วงหน้าเราช่วยกันมา อยู่กันแบบพี่แบบน้อง
ด้าน พ.ต.อ.ถิรเดช จันทร์ลาด ผกก.สภ.ลำลูกกา เปิดเผยว่า เหตุที่เกิดขึ้นพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำผู้เสียหายและแฟนหนุ่มไว้ ส่งตัวไปตรวจร่างกายที่รพ.ลำลูกกา
ขณะเดียวกันวานนี้(7ส.ค.) ผู้ถูกกล่าวหาพร้อมภรรยาและบุคคลที่อยู่ในบ้าน เข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ โดยพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำไว้หมดทุกคนแล้ว พร้อมแจ้งข้อกล่าวหากับเจ้าของร้านทั้งฝ่ายชายและฝ่ายหญิงในข้อหา ร่วมกันข่มขืนกระทำชำเรา
ส่วนฝ่ายหญิงภรรยาเจ้าของร้านแจ้งข้อหาเพิ่มเติมข้อหาทำร้ายร่างกายไปอีก 1 ข้อหา หลังแจ้งข้อหาแล้วได้ปล่อยตัวไป ทั้งนี้ได้สอบปากคำไปแล้ว 5 ปาก ขั้นตอนต่อจากนี้พนักงานสอบสวนจะรวบรวมพยานหลักฐานของทั้ง 2 ฝ่าย หากติดขัดหรือต้องการความชัดเจนในประเด็นใด ก็จะประสานเข้ามาสอบปากคำเพิ่มเติม และรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป