'เท้ง ณัฐพงษ์' หัวเรือใหญ่ 'พรรคประชาชน' เพื่อประชาชน สานต่อ'ก้าวไกล' | คมชัดลึก

วันที่ 9 สิงหาคม 2567 เวลา 12.00 น. พริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ อดีตพรรคก้าวไกลเปิดเผยว่า ผู้แทนราษฎรจากอดีตพรรคก้าวไกลจำนวน 143 คน เดินทางไปประชุมวิสามัญพรรค เพื่อร่วมประชุมกำหนดผู้บริหารพรรคชุดใหม่ หลังจากที่พรรคก้าวไกลถูกยุบและตัดสิทธิ์กรรมการบริหารพรรคทั้งหมด

โดยที่ประชุมมีมติเปลี่ยนชื่อพรรคเป็น “พรรคประชาชน (People’s Party)” คำขวัญประจำพรรคคือ “โดยประชาชน เพื่อประชาชน สร้างประเทศไทยที่อำนาจสูงสุดเป็นของประชาชน” มีสัญลักษณ์สามเหลี่ยมสีส้มหัวกลับ ต่อยอดมาจากแนวคิดของพรรคอนาคตใหม่และพรรคก้าวไกล

นอกจากนี้ ที่ประชุมวิสามัญยังได้เลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ได้แก่

 

1. ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรค

2. ศรายุทธิ์ ใจหลัก เลขาธิการพรรค

3. ชุติมา คชพันธ์ เหรัญญิกพรรค

4. ณัฐวุฒิ บัวประทุม นายทะเบียนพรรค

5. พิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ กรรมการบริหารพรรค

ด้าน เท้ง ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้า ระบุว่า พรรคประชาชนสืบอุดมการณ์ของพรรคอนาคตใหม่ และพรรคก้าวไกล วันนี้ได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรคจึงสามารถที่จะออกมาพูดสื่อสารกับพ่อแม่พี่น้องประชาชนได้อย่างตรงไปตรงมา ว่าภารกิจของตนและพวกต่อจากนี้ทีมงานของพรรคทุกคนมีภารกิจที่จะทำให้สามารถสร้างรัฐบาลแห่งการเปลี่ยนแปลงในการเลือกตั้งครั้งอื่นๆได้

 

แน่นอนว่าจะเปลี่ยนแปลงได้จะต้องชนะการเลือกตั้งตนคิดว่าเป้าหมายคืออยากจะชนะการเลือกตั้ง โดยสามารถเป็นพรรครัฐบาล พรรคเดียวได้ และนั่นคือเป้าหมายสูงสุด

และหลายๆ สิ่งหลายอย่างภารกิจที่ตนต้องทำในเรื่องการสร้างพรรคใหม่ คือปรับปรุงโครงสร้างพรรค หาสมาชิกพรรค ยอดบริจาค หาคะแนนนิยม และปรับปรุงนโยบายให้เป็นที่ยอมรับของพี่น้องประชาชนมากขึ้น

โดย ทุกท่านที่ยืนอยู่ด้านหลังตนตอนนี้ คือทุกคนที่อยู่ร่วมกันมาตั้งแต่พรรคอนาคตใหม่ ตนในฐานะหัวหน้าพรรค และเป็นสมาชิกสส.มาหลายปีสิ่งสำคัญที่สุดในการสร้างพรรคให้แข็งแรง คือการทำโครงสร้างพรรคให้แข็งแรง คุณศราวุธได้รับเลือกทำหน้าที่เลขาพรรคเพราะได้ทำหน้าที่นี้มาตลอดตั้งแต่ทำงานมา 

 

ด้านคุณ ศราวุธ ใจหลัก เลขาธิการพรรคประชาชน เปิดเผยว่า พรรคมีโครงสร้างสมาชิกพรรคที่เป็นสส. มีทั้งโครงสร้างที่เป็นตัวแทนสมาชิกพรรค มีเครือข่ายพื้นที่ เครือข่ายชาติพันธุ์ เครือข่ายแรงงาน แน่นอนว่าวันนี้ตนมาอยู่ในพรรคใหม่แต่ยังพร้อมร่วมกันเติบโต ส่วนสมาชิกพรรคในอนาคตจะมีโครงสร้างตัวแทนสมาชิกพรรคที่ทำงานท้องถิ่น คาดหวังที่จะมีโครงสร้างพรรคที่จะไปเป็นรัฐบาล ทำหน้าที่บริหารประเทศนี่คือความสำคัญทำให้พรรคมีหลายโครงสร้างภายในบ้าน คือการบริหารจัดการที่จะทำให้ทุกภาคส่วนที่เราต้องการเปลี่ยนแปลง "แน่นอนถ้าเราทำสำเร็จเรามั่นใจว่าจะมีพรรคทำงานต่อสร้างการเปลี่ยนแปลงในอนาคตแม้ว่าเราจะไม่ได้อยู่ที่นั่นแล้ว " 

นายศราวุธ กล่าว ด้วยน้ำเสียงสะอื้น

ด้านคุณ ศิริกัญญา ตันสกุล ชี้แจงกรณีที่มีกระแสข่าวแคนดิเดตหัวหน้าพรรคประชาชน ระบุว่า ที่มาพูดในครั้งนี้เพราะว่าเมื่อวานนี้หรือในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เธอได้ยินว่าแคนดิเดตของว่าที่หัวหน้าพรรคคนใหม่มีเธอเป็นหนึ่งในนั้น 

 

จึงมีการคาดการณ์ไปต่างๆนานาเธอจึงขอบอกว่า "ไม่ประสงค์ที่จะเป็นหัวหน้าพรรคตั้งแต่ต้น"

 

ซึ่งเมื่อวานตอนประมาณ 18:00 น เป็นช่วงที่เริ่มคุยกันภายในของทางฝั่งสมาชิกพรรคสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่เป็นของอดีตพรรคก้าวไกล

 

ซึ่งในกระบวนการก็จะมีการหยั่งเสียงเพื่อหาเสียงผู้รับรองว่าที่หัวหน้าพรรคคนใหม่ ก่อนที่จะเข้าสู่กระบวนการของที่ประชุมใหญ่วิสามัญในวันนี้

ในการเสนอชื่อมีหัวหน้าพรรคคนเดียวที่มีการเสนอชื่อขึ้นมาคือคุณณัฐพงษ์ และเธอเป็นคนเสนอชื่อคุณณัฐพล เพราะมั่นใจว่ามีคุณสมบัติพอที่จะเป็นผู้นำของพรรคใหม่ในการสู้ศึกเลือกตั้งปี 2570

 

ด้วยความที่คุณณัฐพงษ์เป็นคนที่ครบเครื่อง เริ่มต้นการทำงานจากสส.เขตและมาเป็นสส.ปาร์ตี้ โดยเริ่มเข้ามามีบทบาทในการทำงานงานเบื้องหลังของพรรคในฝ่ายไอทีและเป็นคนทำระบบต่างๆ มีส่วนร่วมในการบริหารพรรคมาโดยตลอดทำให้และสมาชิกของพรรคก็มั่นใจให้เสียงสนับสนุนในการรับรองคุณณัฐพงษ์เมื่อคืนที่ผ่านมา "จึงขอโอกาสนี้แก้ข่าวที่มีการออกมาในช่วงดึกของเมื่อวานนี้"

 

 

ในส่วนที่มาของชื่อพรรค  คุณเท้ง ณัฐพงษ์ ระบุว่า สำหรับที่มาของชื่อพรรคแน่นอนว่าตั้งแต่อุดมการณ์ของพรรคอนาคตใหม่ก้าวไกลจนถึงประชาชน ในปัจจุบันประโยคที่ตนคิดว่าสำคัญที่สุดนอกเหนือจากนโยบายต่างๆ คือประโยคที่ว่า "อำนาจสูงสุดเป็นของประชาชนประชาชน" คำว่าประชาชนในชื่อพรรคไม่ได้อยู่แค่ในชื่อพรรคก็ยังมีสโลแกนภาพที่ระบุว่า "โดยประชาชน เพื่อประชาชน เพื่อสร้างประเทศที่อำนาจสูงสุดเป็นของประชาชน" มีคำว่าประชาชนถึง 3 ครั้ง สอดคล้องกับโลโก้ของพรรคที่มี 3 ด้านแต่เป็นสามเหลี่ยม สามด้านหัวกลับ แต่มีทั้งหมด 6 เหลี่ยม สอดคล้องกับประกาศคณะราษฎร์ทั้ง 6 ประการ รวมถึงสิ่งที่เพื่อเจตนาสื่อสารอุดมการณ์พรรคต่อเนื่องต่อไป เพื่อสะท้อนให้เห็นว่าไม่ว่าจะอุดมการณ์ความเชื่อ นโยบายต่างๆเราไม่ปเปลี่ยนแปลง 

ส่วนแนวทางการบริหารพรรคต่อจากนี้ แน่นอนเมื่อผู้บริหารเปลี่ยนบางอย่างเรื่องการบริหารต้องเปลี่ยนไปแน่นอนแต่ในเรื่องของหลักการความเชื่ออุดมการณ์จะไม่มีวันเปลี่ยนแปลงที่เปลี่ยนไป คือทีมบริหารกรรมการบริหารเปลี่ยนมีการแบ่งบทบาทหน้าที่ใหม่ การแบ่งบทบาทหน้าที่เป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นชัดที่สุดว่ามีแนวทางอย่างไรในการสร้างพรรค

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงจุดยืนการแก้ มาตรา 112 นั้น นายณัฐพงศ์เผยว่า ไม่เคยลดเพดานในเรื่องอะไร ที่ต้องการแก้กฎหมายดังกล่าวเพื่อไม่ให้นำกฎหมายมากลั่นแกล้งกันทางการเมือง จะเดินหน้าผลักดันกฎหมายนี้ที่ยังมีปัญหาอยู่ ส่วนกรณีการต่อสู้กับคดี 44 สส. ที่ถูกร้องเรียนจริยธรรมจากสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นั้น เป็นคำร้องที่ต่างจากคดียุบพรรคการกระทำของ สส. มีองค์ประกอบต่างกัน ยืนยันว่าไม่กังวลและพร้อมชี้แจง เราไม่ได้สร้างพรรคมาเพื่อต่อรองกับกลุ่มอำนาจ แต่ยืนอยู่บนหลักการ โดยจะเห็นได้จากจำนวน สส. และ สก. ที่ย้ายมาครบทั้งหมด

 

นายณัฐพงษ์ ยังกล่าวอีกว่าได้พูดคุยกับนายธนาธร ว่าต้องมีการพัฒนาตัวเอง ต้องเขียนนโยบายต่าง ๆ พร้อมกับการทำงานหนัก เพื่อเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พร้อมยืนยันว่า ธนาธร ไม่มีอิทธิพลทางความคิดต่อตัวเอง แต่สิ่งที่มีอิทธิพล คืออุดมการณ์ความเชื่อ