นาทีชีวิตหนุ่ม 17 ลงมือสังหารพ่อเลี้ยง เพื่อช่วยแม่ที่ถูกทำร้าย | คมชัดลึก

10 ส.ค.2567 ร.ต.ท. ภาณุวัฒน์ สิตวงษ์พนักงานสอบสวน สภ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี รับแจ้งพบผู้เสียชีวิตในห้องพักคนงานภายในโรงสีเก่า หมู่ หมู่ 7 ตำบลเขาพระ อำเภอเดิมบางนางบวช จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบรุดไปตรวจสอบฝ่ายสืบสวน แพทย์เวรโรงพยาบาลเดิมบางนางบวช เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานภูธรจังหวัด เจ้าหน้าที่มูลนิธิเสมอกันกู้ภัยสุพรรณบุรี เขตเดิมบาง

ที่เกิดเหตุเป็นห้องพักชั้นเดียวเปิดโล่งพบศพ ทราบชื่อ นายปรีชา อายุ 50 ปี บ้านอยู่ตำบลโคกช้าง อำเภอเดิมบางนางบวช มีบาดแผลถูกของมีคมฟันที่ลำตัว ลำคอ และศีรษะเป็นแผลฉกรรจ์หลายแผล

ส่วนคนร้ายที่ก่อเหตุจากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่าเป็นลูกเลี้ยง อายุ 17 ปี หลังก่อเหตุได้หลบหนีไปในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ แต่ถูกตำรวจสืบทราบว่าว่าเป็นคนก่อเหตุและโดนตำรวจกดดัน จึงกลับมามอบตัวกับตำรวจ

จากการสอบถาม น.ส.พร (นามสมมุติ) อายุ 42 ปี ภรรยาผู้เสียชีวิต เล่าว่า เป็นหม้ายลูกติด 1 คน คือ นายมาร์ค อายุ 17 ปี คนก่อเหตุ อยู่กินกันมาหลายปีจนมีลูกสาวด้วยกันอีก 1 คน

ตอนอยู่ด้วยกันใหม่ๆนายปรีชา ขยันทำมาหากิน แต่ระยะหลังหันไปกินเหล้าเมาทุกวัน งานการไม่ทำ ต่อมาได้บังคับให้ตนขายรถจักรยานยนต์ที่มีอยู่คันเดียว เอาเงินไปใช้จ่าย และซื้อเหล้ากิน พอเงินหมดก็บังคับให้นายมาร์ค ลูกชายไปทำงานหาเงินมาให้ใช้ จากนั้นก็มักจะทะเลาะมีปากเสียงกัน ประจำ ส่วนมากจะทะเลาะเรื่องเงินไม่มีใช้ บางวันลูกสาววัยขวบเศษ ต้องกินน้ำข้าวแทนนม เพราะไม่มีเงินซื้อนมให้ลูก

ล่าสุด เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม ที่ผ่านมา ก็เกิดมีปากเสียงทะเลาะกันเรื่องที่ผู้เสียชีวิตตีลูกสาววัยขวบเศษ ตนเข้าไปห้ามทำให้สามีไม่พอใจ ถือมีดอีโต้จะเข้ามาฟันตน ขณะนั้นลูกชายอยู่ในบ้านเห็นเหตุการณ์จึงเข้าห้ามเพื่อปกป้องไม่ให้พ่อเลี้ยงทำร้ายแม่ เป็นเหตุให้สามีตนไม่พอใจจะใช้มีดฟันลูกชายอีก ลูกชายจึงใช้เท้าถีบ จนมีดหลุดจากมือ จากนั้นลูกชายก็คว้ามีดมาฟันพ่อเลี้ยงไปหลายที จนเสียชีวิต หลังก่อเหตุได้นำมีดไปทิ้งลงแม่น้ำท่าจีน ก่อนจะพากันหลบหนีไปที่กรุงเทพฯ แต่ได้รับการติดต่อจากตำรวจว่าเขารู้แล้วว่าเป็นคนก่อเหตุให้กลับมามอบตัว จึงพากันกลับมามอบตัว

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้คุมตัวนายมาร์ค ไปชี้จุดทิ้งมีดของกลางที่โยนทิ้งลงแม่น้ำท่าจีน พร้อมกับประสานเจ้าหน้าที่ชุดค้นหาใต้น้ำของมูลนิธิเสมอกันกู้ภัยสุพรรณบุรี มาช่วยงมหา ซึ่งบริเวณจุดที่ทิ้งมีดอยู่ใต้สะพานข้ามแม่น้ำที่ระดับน้ำลึก ประมาณ 8 เมตร เจ้าหน้าที่ใช้เวลางมหาประมาณ 30 นาที ก็พบมีดอีโต้ของกลาง จมปักอยู่ในน้ำ จึงนำขึ้นมามอบให้ตำรวจ นำไปประกอบสำนวน

นายมาร์ค เล่าว่าวันเกิดเหตุเห็นพ่อเลี้ยงทำร้ายแม่และน้อง โดยมีมีดอยู่ในมือ ทำท่าจะฟันแม่ ตนจึงเข้าช่วยโดยถีบจนล้ม และมีดหลุดมือ จึงเป็นโอกาสตนได้คว้ามีดขึ้นมาได้ก็ฟันใส่พ่อเลี้ยงไปหลายครั้ง จำไม่ได้ว่ากี่ครั้ง จนแน่นิ่ง

จากนั้นได้ขี่รถจักรยานยนต์ พาแม่และน้องนั่งซ้อนท้ายขับขึ้นสะพานข้ามแม่น้ำท่าจีนก่อนจะเหวี่ยงมีดลงไปในน้ำและรุ่งเช้าก็หนีเข้ากรุงเทพฯ จากนั้นได้กลับมามอบตัวรับผิด

ก่อนหน้านี้แม่ตนถูกพ่อเลี้ยงทำร้ายร่างกายทุบตีมาโดยตลอด จนครั้งสุดท้ายตนทนไม่ไหวเหลืออดจึงเข้าช่วยแม่ ถ้าตนไม่ช่วยแม่ อาจจะถูกพ่อฟันเสียชีวิตแน่

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้คุมตัวนายมาร์ค กลับไปสอบสวนเพิ่มเติม เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป