ข่าว

"แท็กซี่" หัวร้อน ฟันหัว "ผู้โดยสาร" บาดเจ็บสาหัส เหตุรับคนเมา

น้องสาว ร้อง "สายไหมต้องรอด" ช่วยเหลือ หลังพี่สาวดื่มสังสรรค์ ก่อนเรียกรถผ่านแอปฯ ระหว่างทางถูกแท็กซี่คว้ามีดดาบฟันเข้าที่หัว บาดเจ็บสาหัส

น.ส.สุภาวดี (น้องสาว) พร้อม น.ส.อิสราภรณ์ เพื่อนของ น.ส.วันเพ็ญ หรือ ปุ้ย อายุ 43 ปี ผู้เสียหาย เดินทางเข้าร้องขอความช่วยเหลือกับ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ  ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด หลัง น.ส.ปุ้ย ถูกคนขับแท็กซี่ใช้อาวุธมีดดาบไล่ฟันศีรษะจนได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุไม่พอใจขอเรียกค่าเสียเวลาจํานวน 500 บาท 


น.ส.อิสราภรณ์ เพื่อนของผู้เสียหาย เล่าว่า เหตุการณ์ขึ้นเมื่อวันที่ 10 สิงหาคมผ่านมาเวลาประมาณ ตี 1 ตนและ น.ส.ปุ้ย นัดไปสังสรรค์ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งแถวเลียบทางด่วนรามอินทรา เนื่องจากมีเพื่อนชาวต่างชาติเดินทางมาจากสิงค์โปร หลังสังสรรค์เสร็จได้เรียกรถผ่านแอปพลิเคชันชื่อดัง เมื่อขึ้นรถก็ถูกคนขับแท็กซี่บ่นต่อว่าทํานองว่า "อุตส่าห์ไม่รับผู้โดยสารข้างทาง แต่ดันมาเจอคนเมา" และยังคงบ่นเรื่อยๆ กระทั่ง น.ส.ปุ้ย เกิดอาการพะอืดพะอมจึงขอให้แท็กซี่จอดข้างทางเพื่อลงไปอ้วก 

\"แท็กซี่\" หัวร้อน ฟันหัว \"ผู้โดยสาร\" บาดเจ็บสาหัส เหตุรับคนเมา

แต่คนขับแท็กซี่เดินลงมาบ่นและบอกจะเรียกค่าเสียเวลาและค่าอ้วกจํานวน 500 บาท ซึ่งตนและเพื่อนผู้เสียหายรู้สึกว่าแพงเกินไป เพราะอ้วกก็อ้วกข้างนอกไม่ได้เปื้อนในรถ แต่ยินดีจ่ายค่าเสียเวลาให้ 200 บาท คนขับแท็กซี่ไม่พอใจและยังคงบ่นต่อบนรถ จนกระทั่งเถียงกันไปมาและถูกไล่ให้ลงจากรถพร้อมกับเรียกค่าเสียเวลากับค่าอ้วก 500 เช่นเดิม ตนและเพื่อนผู้เสียหายจึงให้ไป 200 บาท ไม่รวมค่ารถอีกกว่า 200 บาท ที่จ่ายตัดผ่านบัตรทั้งที่ยังไม่ถึงปลายทาง

 

แต่จังหวะที่เดินลงจากรถจู่ๆ คนขับแท็กซี่ได้หยิบอาวุธมีดดาบออกมาและไล่ฟันไปยัง น.ส.ปุ้ย 3-4 ครั้ง จนได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่โชคดีที่มีรถแท็กซี่อีกคันขับตามหลังและบีบแตรช่วยเอาไว้ได้ทัน ไม่งั้นอาจถึงแก่ชีวิตได้ 

ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทําให้เพื่อนชาวสิงค์โปรที่นั่งอยู่ในรถรู้สึกกลัวและบอกว่ามาเที่ยวไทย 15 ปี ไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน 

 

\"แท็กซี่\" หัวร้อน ฟันหัว \"ผู้โดยสาร\" บาดเจ็บสาหัส เหตุรับคนเมา

 

ด้าน น.ส.สุภาวดี น้องสาวของผู้เสียหาย กล่าวเพิ่มเติมว่า หลังเกิดเหตุได้แจ้งความไว้ที่ สน.โชคชัย ในข้อหาพยายามฆ่า ซึ่งทางตํารวจบอกว่า สามารถติดต่อแท็กซี่ผู้ก่อเหตุได้แล้ว นอกจากนี้ได้ร้องเรียนไปยังแอปพลิเคชันดังกล่าว เขาแจ้งว่าได้ลงโทษสูงสุดระงับบัญชีแล้ว ส่วนอาการของพี่สาวตอนนี้ มีแผลที่ศีรษะ 2 แผล นิ้วหัก 2 นิ้ว รวมเย็บกว่า 20 เข็ม แพทย์ระบุว่าให้ดูอาการ เพราะมีเลือดซึมในสมอง กระโหลกร้าว และมีอาการชักตลอดเวลา เบื้องต้นยังสามารถพูดคุยโต้ตอบได้ แต่มีอาการเบลอ

 

ขณะที่นายเอกภพ กล่าวว่า พฤติกรรมแบบนี้ควรต้องถูกเพิกถอนใบอนุญาต เพราะการขับรถสาธารณะต้องไม่แสดงพฤติกรรมเช่นนี้ ต้องรู้อยู่แล้วว่าขับรถกลางคืนจะต้องเจอกับคนเมา หากมีการอ้วกใส่รถก็ขอให้พูดคุยกันดีๆ เพราะส่วนตัวเชื่อว่า คนเมาที่ไปเที่ยวสังสรรค์ส่วนใหญ่พร้อมที่จะจ่ายหากทํารถเปื้อน แต่หากตกลงกันไม่ได้ก็ให้ตํารวจช่วยเป็นตัวกลาง ไม่ใช่มาก่อเหตุแบบนี้ เพราะมันเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง และเหตุที่เกิดขึ้นมีชาวต่างชาติอยู่ด้วย

 

ต่อมาเพจสายไหมต้องรอดพาครอบครัวผู้เสียหาย ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ เดินทางไปพบกับพนักงานสอบสวนสน.สุทธิสาร เพื่อให้ปากคำใหม่อีกครั้ง เพื่อติดตามผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดี โดยเบื้องต้นรู้ตัวผู้ก่อเหตุ และทะเบียนรถที่ใช้ก่อเหตุแล้ว ซึ่งตำรวจอยู่ระหว่างติดต่อทางโทรศัพท์เพื่อเชิญตัวมาสอบปากคำ หากไม่มาพบตำรวจจะออกหมายเรียกและออกมาจับตามกฎหมาย

 

จากพฤติการณ์ ผู้ก่อเหตุ เข้าข่ายกระทำความผิดฐานพกพาอาวุธไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะ และทำร้ายร่างกายผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส ส่วนความผิดฐานพยายามฆ่าอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานรวมถึงใบรับรองแพทย์ เพื่อนำมาพิจารณาอีกครั้งว่าพฤติกรรมเข้าข่ายหรือไม่

\"แท็กซี่\" หัวร้อน ฟันหัว \"ผู้โดยสาร\" บาดเจ็บสาหัส เหตุรับคนเมา