ข่าว

แท็กซี่หัวร้อน มอบตัว อ้างถูกดูหมิ่น ปาเงินใส่หน้า สติหลุดคว้ามีดฟันหัว

แท็กซี่หัวร้อน มอบตัว อ้างถูกดูหมิ่น ปาเงินใส่หน้า สติหลุดคว้ามีดฟันหัว

12 ส.ค. 2567

คนขับแท็กซี่ เข้ามอบตัว สน.สุทธิสาร อ้างถูกกลุ่มผู้เสียหายดูหมิ่น ปาเงินใส่หน้า ประกอบกับเครียดเรื่องส่วนตัว สำนึกผิดอยากขอโทษผู้บาดเจ็บ

กรณีน้องสาวผู้เจ็บร้องเพจสายไหมต้องรอด ถูกแท็กซี่หัวร้อนก่อเหตุใช้มีดจ่าฟันหัวพี่สาวได้รับบาดเจ็บสาหัส หลังพี่สาวเมาและอาเจียนใส่ถุงพลาสติก แต่ไม่พอใจร้องเรียกขอค่าเสียหาย 500 บาท ขณะเดียวกันชุดสืบสวน สน.สุทธิสาร ประสานไปยังแอปพลิเคชั่นที่เพื่อนของผู้เสียหายเรียกใช้บริการในวันเกิดเหตุจนทราบว่า ผู้ขับขี่รถคันดังกล่าว คือ นายประกาศ (สงวนนามสกุล) แจ้งว่าจะเข้ามอบตัวในช่วงเย็นวานนี้ (11ส.ค.) แต่ปรากฏว่าไม่มาตามนัด 

 

ต่อมานายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ทราบข่าว จึงเดินทางมาที่ สน.สุทธิสาร ทันที เพื่อสอบถามสิ่งที่เกิดขึ้น พร้อมกับเปิดเผยว่า ได้เข้าร่วมซักถามผู้ต้องหาว่า มีปากเสียงกับบาดเจ็บและเพื่อนๆตั้งแต่ในรถจนคุมอารมณ์ไม่อยู่ เมื่อเพื่อนของผู้บาดเจ็บโยนเงิน 200 บาท ใส่หน้า ประกอบกับเครียดเรื่องปัญหาครอบครัวและปัญหาหนี้สิน ทั้งภรรยาใกล้คลอดลูก และลูก 2 คนกำลังเรียนหนังสือโทรศัพท์มาขอเงิน ซึ่งตนไม่มีเงินให้ อีกทั้งยังค้างค่าบ้าน แล้วถูกเจ้าของอู่แท็กซี่โทรมาทวงค่ารถ จึงเครียดหนัก 

เพจสายไหมต้องรอดเดินทางมาที่ สน.สุทธิสาร

เมื่อมาเจอเหตุคนเมาแล้วอ้วก จึงไปกันใหญ่ หากย้อนเวลากลับไปคงไม่ทำอะไรรุนแรงถึงขนาดนี้ รู้สึกเสียใจ และ จะไม่นำมีดดาบไว้ในรถ เพราะถ้าไม่มีมีด ก็จะเอาออกทำร้ายผู้โดยสารไม่ได้ อยากไปขอโทษผู้บาดเจ็บที่โรงพยาบาล 

 

พ.ต.ท.ชุติพนธ์ ตระกรุดทอง รองผู้กำกับสอบสวน สน.สุทธิสาร ระบุว่า เบื้องต้นเข้าข่ายกระทำความผิดในข้อหา ทำร้ายร่างกายผู้อื่น โดยใช้อาวุธ และ ทำลายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ก็ต้องรอผลตรวจจากแพทย์ที่จะออกในวันพรุ่งนี้ (13 ส.ค.)

 

ด้านน้องสาวผู้บาดเจ็บ ให้ข้อมูลว่า ตอนนี้พี่สาวรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลนพรัตน์ มีอาการกระโหลกร้าว เลือดออกในสมองเสี่ยงต่อการช็อค และความจำช่วงเกิดเหตุเลือนลาง ซึ่งหมอประเมินว่า ผู้บาดเจ็บจะมีอาการช็อคจากการถูกฟันที่ศีรษะไปตลอดชีวิต

คนขับแท็กซี่เข้ามอบตัว

ภายหลังสอบปากคำผู้ก่อเหตุนานเกือบ 2 ชั่วโมง พนักงานสอบสวนได้ปล่อยตัวชั่วคราวโดยยังไม่แจ้งข้อกล่าวหา แต่จะนัดหมายมาแจ้งข้อกล่าวหาอีกครั้ง หลังผลการตรวจบาดแผลและผลจากความเห็นของแพทย์ส่งกลับมา จึงจะพิจารณาแจ้งข้อกล่าวหาทำร้ายร่างกายหรือทำร้ายร่างกายให้ได้รับอันตรายสาหัส 

 

ระหว่างนายประภาสกำลังกลับ ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่า เหตุใดจึงก่อเหตุลงไป เจ้าตัวอ้างว่า ถูกดูถูกดูหมิ่นหลายอย่าง ทั้งการปาเงินใส่หน้าและดูถูกที่ตนเองเป็นแท็กซี่ ประกอบกับมีความเครียดหลายอย่างในเรื่องครอบครัว หากย้อนเวลากลับไปได้ก็จะไม่ทำอีก นอกจากนี้ยังอยากขอโทษผู้เสียหายที่ก่อเหตุลงไปโดยหลังจากให้ปากคำเสร็จเรียบร้อยแล้วก็จะเดินทางไปพบผู้บาดเจ็บที่โรงพยาบาล และรอเข้ามารับทราบข้อกล่าวหาอีกครั้ง