ข่าว

เร่งล่า ผัวเมียมหาภัย เนียนเข้าเรียนนักธุรกิจระดับสูง ตุ๋นไฮโซ 300 ล้าน

เร่งล่า ผัวเมียมหาภัย เนียนเข้าเรียนนักธุรกิจระดับสูง ตุ๋นไฮโซ 300 ล้าน

13 ส.ค. 2567

กลุ่มนักธุรกิจรวมตัวร้องกองปราบ ถูกสองผัวเมียมหาภัย เนียนเข้าเรียนคอร์สอบรมนักธุรกิจระดับสูง ก่อนหลอกลงทุน ตุ๋น 300 ล้าน

13 ส.ค. 2567 เวลา 10.30 น. ที่ ศูนย์รับแจ้งความกองบังบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (กองปราบ) นายอติภัสณ์ ฤทธิเดช ทนายความ  พาผู้เสียหายประมาณ 18 ราย เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ พ.ต.ท.เริงชัย ชุดพิมาย รอง ผกก.(สอบสวน)กก.4 บก.ปอศ. หลังถูกบุคคลแฝงตัวสมัครเข้าเรียนหลักสูตรผู้บริหารระดับสูงของบริษัทเอกชนหลายที่ ออกอุบายขอยืมเงินและชักชวนให้เพื่อนสมาชิกที่เรียนด้วยกันลงทุน มีผู้เสียหายกว่า 30 ราย รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 300 ล้านบาท

เร่งล่า ผัวเมียมหาภัย เนียนเข้าเรียนนักธุรกิจระดับสูง ตุ๋นไฮโซ 300 ล้าน

น.ส.จรรยาพร หนึ่งในผู้เสียหายเปิดเผยว่า ได้รู้จักสองผัวเมียคู่หนึ่งที่แฝงตัวเข้ามาสมัครเรียนตามคอร์ส อบรมผู้บริหารระดับสูงของบริษัทฯเอกชนหลายที่ ก่อนจะตีสนิทชักชวนและยืมเงินจากสมาชิกในคอร์ส ที่ส่วนมากจะเป็นกลุ่มผู้มีฐานะ

 

โดยอ้างว่า เป็นเจ้าของบริษัทจัดหาพนักงานเชียร์ขายสินค้าหน้าร้าน ถูกกล่าวหาพยายามไปขายงานให้กับบริษัทชื่อดังของประเทศไทย และได้นำคอนแทคของแต่ละบริษัทชื่อดังมาอ้างจน ทำให้หลงเชื่อ

 

เริ่มแรกในปลายปี 2561 สองผัวเมียได้ยืมเงินตนไปจำนวน 3 แสนบาท เพื่อไปลงทุนกับบริษัทดังกล่าว จะให้ผลตอบแทนอยู่ที่ 3% จากนั้นอีกหนึ่งสัปดาห์สองผัวเมียได้นำเงินจำนวน 3 แสนบาทมาคืนพร้อมกับเงินตอบแทนอีก 3% จริง

 

จากนั้นก็ทำการยืมเงินไปลงทุนเพิ่มขึ้นอีกต่อเนื่องหลายครั้ง ก่อนเกิดโรคระบาด โควิด-19 เมื่อปี 2563 ทั่งสองได้ติดเงินตนอยู่ประมาณ 20 ล้านบาท ก็เริ่มคืนเงินล่าช้า

ต่อมาในปี 2566 สองผัวเมียได้ติดต่อให้ตนเพิ่มเงินลงทุนอีก 9 ล้านบาท อ้างว่าหากไม่โอนเงินมาร่วมลงทุนอีก เงินที่ตนลงทุนจะไม่ได้คืน หลังจากนั้นก็เลื่อนการจ่ายเงินเรื่อยมา และอ้างว่าบริษัทคู่ค้าจ่ายเงินล่าช้า แต่เมื่อตนติดต่อไปทางบริษัทคู่ค้ากลับพบว่าไม่มีการติดตามที่ถูกกล่าวอ้าง จึงทราบแล้วว่าตนถูกหลอก โดยรวมความเสียหายของตนอยู่ที่ 38 ล้านบาท 

 

น.ส.จรรยาพร กล่าวต่อว่า ตนจึงได้ไปจ้างบริษัทนักสืบเอกชนให้ไปตามทวงหนี้ และพบว่ามีผู้เสียหายได้ไปจ้างบริษัทเอกชนที่ตามทวงหนี้กับลูกหนี้รายนี้เช่นเดียวกัน จึงพบว่า มีผู้เสียหายกว่า 30 รายที่โดนโกงในลักษณะเดียวกัน และตนยังทราบมาว่ามีผู้เสียหายซึ่งเป็นแพทย์ถูกหลอกยืมเงินสูญเงินไปกว่า 90 ล้านบาท ส่วนผู้เสียหายอื่นๆ ถูกหลอกยืมเงินในลักษณะเดียวกัน สูญเงินไปคนละไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 300 ล้านบาท

 

 นอกจากนี้ตนยังทราบว่า มีการโกงเงินประกันสังคมและเงิน กยศ.เด็กที่ทำงานเป็นPCในบริษัท โดยมีการเก็บเงินดังกล่าวทุกเดือนไปจำนวนกว่า 100 คน แต่ไม่มีการจ่ายให้กับประกันสังคมและเงิน กยศ.ให้กับพนักงาน ตนมีหลักฐานและมีการยืนยันจากพนักงานเหล่านั้น

 

วันนี้ตนพร้อมผู้เสียหายอีกหลายรายจึงเดินทางมาแจ้งความกับสามีภรรยา คู่นี้ และผู้ร่วมขบวนอีก 2 รายการคือน้องสาว และกรรมการบิษัทฯในข้อหาฉ้อโกงประชาชน และ กู้เงินอันเป็นการฉ้อโกงประชาชน