หนุ่มซื้อบ้านจากกรมบังคับคดี แต่เข้าอยู่ไม่ได้ ถูกข่มขู่จ่ายเงิน 2 ล้าน | คมชัดลึก

นายวัฒน์ (นามสมมุติ) ผู้เสียหาย วัย 42 ปี เดินทางมาพบนายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง เพื่อขอความช่วยเหลือ หลังจากซื้อบ้านพร้อมที่ดินในจังหวัดสุพรรณบุรี จากกรมบังคับคดีตั้งแต่ปี 65 ถึงแม้จะมีคำสั่งศาลให้ออกจากบ้านไปแล้ว แต่จนปัจจุบันก็ยังไม่สามารถเข้าอยู่ได้ เพราะถูกลูกชายเจ้าของเก่าที่เป็นข้าราชการท้องถิ่นในจังหวัดนครปฐม ทักแชทโพสปืนข่มขู่ หากต้องการเข้าอยู่ต้องจ่ายเงิน 2 ล้านบาท รวมถึงยังปลอมเฟสโพสต์ทำให้เสียหาย ซึ่งนายวัฒน์เข้าแจ้งความและร้องเรียนไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม แต่เรื่องยังไม่คืบหน้า
 

นายวัฒน์ เล่าว่า เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2565 ตนเองเข้าไปประมูลทรัพย์สินจากกรมบังคับคดี จังหวัดสุพรรณบุรี ในราคา 920,000 บาท ในวันเดียวกันลูกชายเจ้าของบ้าน ซึ่งเป็นนิติกรชำนาญการ หน่วยงานราชการแห่งในจังหวัดนครปฐม โทรมาว่า จะขอซื้อที่ดินคืน วันต่อมาเจ้าของบ้านโทรมาขอความช่วยเหลือว่า บ้านถูกยึดไม่มีที่พักอาศัยและขออยู่ไปก่อน ตนเองก็ไม่ได้ขัด ยอมให้อยู่โดยตกลงกันว่าจะให้อยู่เพียง 1 เดือนเท่านั้น ผ่านไป 6 เดือนก็ยังไม่ยอมย้ายออก กลับมาข่มขู่ถ้าเข้าไปบ้านหลังนี้จะต้องมีการตายเกิดขึ้น

จากนั้นตนเองได้ไปยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการบังคับคดีให้ช่วยเหลือ กระทั่งศาลมีหมายขับไล่ออกมาในเดือนกุมภาพันธ์ 2566 แต่พอไปตรวจบ้านกลับพบว่า ยังไม่ยอมออกอีก จึงมีการพูดคุยกัน อีกฝ่ายบอกว่า ถ้าจะให้ออก ต้องจ่ายเงินจำนวน 2 ล้านบาทให้กับเขา 

กระทั่งมีการออกหมายจับ แต่ทางญาติมาขอร้องไว้ เพราะเกรงว่า จะมีผลกระทบกับหน้าที่ทางราชการ ซึ่งตนเองก็เห็นใจเป็นครั้งที่ 4 และที่ผ่านมาก็ยังมีการคุกคาม จึงตัดสินใจจะขาย แต่พอเขารู้ ก็มีการโพสต์เฟสบุ๊ก ทั้งข้อความ รูปภาพของตนเองไปในทางเสียหาย จนทุกวันนี้ยังไม่กล้าเข้าไปอยู่บ้านหลังนี้ 

นอกจากนี้เคยร้องเรียนไปยังผู้บังคับบัญชาในจังหวัดนครปฐมซึ่งเป็นที่ทำงานของลูกชายเจ้าของบ้าน แต่ก็ยังไม่มีความคืบหน้า วันนี้จึงเดินทางมาให้ กัน จอมพลัง ช่วยเหลือติดตามความคืบหน้าของคดีดังกล่าว และอยากให้ทางหน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องยกเลิกอาวุธปืนที่นำมาใช้ข่มขู่ด้วย

ด้าน กัน จอมพลัง ระบุว่า หลังจากนี้ในช่วงบ่ายจะเดินทางเข้าพบผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม เพื่อเข้าพูดคุยในรายละเอียด ในส่วนของทางคดีทราบว่า บางคดีได้อยู่ในขั้นตอนของศาล ซึ่งก็ต้องปล่อยไปตามกระบวนการ และในวันพรุ่งนี้ (14 ส.ค.) อาจจะต้องเดินทางไปที่กระทรวงมหาดไทย เพื่อติดตามเรื่องนี้อีกครั้ง