ร้อง ปคม. ฟื้นคดีจับพระ ชำเราสาวอายุ 11 ปี พบกลายเป็นแพะ สุดอนาถสิ้นลมในคุก
ทนายความนำทีมร้อง ปคม. ฟื้นคดีล่าไอ้โม่ง ก่อเหตุชำเราสาวอายุ 11 ปี หลังพบจับพระ สุดท้ายกลายเป็นแพะ และต้องจบชีวิตอย่างน่าอนาถในเรือนจำ
15 ส.ค. 2567 เวลา 13.00 น. ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ถนนพหล จตุจักร กทม. นายนิทัศน์ ประเสริฐเนติกุล ชาว จ.ภูเก็ต ทนายความ เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.พอช นพลัส รอง สว.(สอบสวน) กก.1 บก.ปคม. เพื่อร้องเรียนว่า หลังจากวานนี้ (14 ส.ค.67) ได้เข้ามาปรึกษา พงส.บก.ป.ให้รื้อคดีแล้วนั้น แนะนำให้แจ้งความเป็นคดีค้ามนุษย์ วันนี้จึงมาแจ้งความกล่าวโทษต่อ บก.ปคม.ให้ดำเนินคดีกับบุคคลที่ยังไม่ทราบว่าเป็นผู้ใด ได้กระทำชำเรา ด.ญ.อายุ 11 ปี เมื่อปี 2564 ผู้เสียหายในคดีดำที่ อ.1151/2566 คดีหมายเลขแดงที่ 725/2567 ของศาลอาญาธนบุรี
โดยข้อเท็จจริงที่ปรากฎในคดีดังกล่าว มีหลักฐานที่ปรากฎว่าผลการตรวจพิสูจน์สารพันธุกรรม(DNA) ไม่มีความสัมพันธ์กับสารพันธุกรรม (DNA) ของจำเลยในคดีดังกล่าว ดังนั้น นายนิทัศน์ ทราบว่าในวันดังกล่าว ด.ญ.อายุ 11 ปี ได้ถูกกระทำชำเราโดยบุคคลอื่น ซึ่งถือเป็นการกระทำความผิดต่อกฎหมายอาญา จึงเดินทางมาพบพนักงานสอบสวน บก.ปคม. ในวันนี้ เพื่อให้การต่อพนักงานสอบสวน พร้อมมอบเอกสารประกอบคำให้การ เพื่อให้พนักงานสอบสวนดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไป
นายนิทัศน์ เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 4 ต.ค.2564 มารดาของ ด.ญ.เอ (นามสมมติ) อายุ 11 ปี แจ้งความต่อ ร.ต.อ.จิรันธนิน กลิ่นนิรัญ พนักงานสอบสวน สน.สำเหร่ ให้ดำเนินคดีกับพระสมเกียรติ ในข้อหาพรากผู้เยาว์ กระทำอนาจาร และกระทำชำเรา ด.ญ.เอ ผู้เสียหาย และพนักงานสอบสวน ได้ส่ง ด.ญ. อายุ 11 ปี ไปตรวจ เชื้ออสุจิ หรือสารพันธุกรรม (ดีเอ็นเอ) ที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ ผลของการตรวจพบเจอเชื้ออสุจิ ผ่านการร่วมประเวณี และร่องรอยการถูกทำร้ายร่างกาย ตามรายงานการตรวจ ชันสูตรผู้ป่วยในคดี โรงพยาบาลตำรวจ
ต่อมาพระสมเกียรติ เข้ามอบตัว สู้คดีโดยให้การปฏิเสธ พร้อมกับทางพนักงานสอบสวนได้ส่ง พระสมเกียรติ ไปตรวจเชื้ออสุจิหรือสารพันธุกรรม(ดีเอ็นเอเอ็น) ที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ ว่ามีความสัมพันธ์กับสารพันธุกรรม(ดีเอ็นเอ)หรือเชื้ออสุจิ ที่เก็บจาก ด.ญ. อายุ 11 ปีหรือไม่
ผลการตรวจพิสูจน์ปรากฎว่าสารพันธุกรรม(ดีเอ็นเอ)หรือเชื้ออสุจิที่ปรากฎที่ตัว ด.ญ.เอ ไม่มีความสัมพันธ์กับสารพันธุกรรม(ดีเอ็นเอ)ของพระสมเกียรติ แต่พระสมเกียรติ ก็ถูกดำเนินคดีและมีการฟ้องร้องต่อศาลอาญาธนบุรี ในคดีหมายเลขดำที่ อ.1151/2566 และท้ายสุดศาลได้มีคำพิพากษา เมื่อวันที่ 27 มิ.ย.2567 ในคดีหมายเลขแดงที่ อ.725/2567 ให้พระสมเกียรติ แพ้คดี ต้องโทษจำคุก และไปเสียชีวิตในเรือนจำธนบุรี ทั้งๆที่ตกเป็นแพะ เมื่อวันที่ 28 มิ.ย.2567 ที่ผ่านมา
จากข้อเท็จจริงที่ปรากฎในคดีดังกล่าว มีหลักฐานชัดเจน เช่น คำให้การของ ด.ญ.เอ ผู้เสียหาย ที่ได้ให้การต่อศาลว่า ในวันที่ 3 ต.ค.2564 เวลา 16.00 น. ข้าฯ ได้ไปหาคนรักของข้าฯ ชื่อ ฟ. และ มีเพศสัมพันธ์กับนาย ฟ.โดยนาย ฟ.สวมถุงยางอนามัย จึงไม่มีน้ำอสุจิออกมาจากถุงยางอนามัย
ดังนั้นน้ำอสุจิที่ตรวจพบในช่องคลอดของ ด.ญ.เอ ในคดีที่พระสมเกียรติ ตกเป็นจำเลยเป็นของใครยังมิทราบได้ แต่เป็นเหตุให้มีการดำเนินคดีกับพระสมเกียรติ จนเป็นเหตุให้มรณภาพในเรือนจำเมื่อวันที่ 28 มิ.ย.2567
ดังนั้นเมื่อ ด.ญ.เอ ถูก กระทำชำเรา โดยชายที่ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าเป็นบุคคลใด แต่การกระทำชำเราหรือการร่วมประเวณีระหว่าง ด.ญ.เอ และชายดังกล่าวถือว่าเป็นการกระทำผิดต่อกฎหมายอาญา มาตรา 277 ผู้ใดกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกินสิบห้าปีซึ่งมิใช่ภรรยาของตน โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม ต้องระวางโทษ จำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี ถ้าการกระทำความผิดตามวรรคหนึ่ง เป็นการกระทำแก่เด็กอายุไม่เกินสิบสามปี ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่เจ็ดปีถึงยี่สิบปี ตามกฎหมายอาญา ความผิดดังกล่าวเป็นความผิดอาญาแผ่นดิน ที่ยอมความไม่ได้และมีโทษจำคุกสูง
ตนจึงมาร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ปคม. ทำการสืบสวนสอบสวนหาบุคคลที่ยังไม่ทราบว่าเป็นผู้ใด กระทำผิดต่อกฎหมายเป็นความผิดร้ายแรง เป็นภัยต่อสังคมเพราะกระทำต่อเด็ก มาดำเนินคดีตามกฎหมาย
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้รับแจ้งความไว้ดำเนินการสืบสวนสอบสวนตามกฎหมายต่อไป