ข่าว

ยายเล่านาที "ยู" แฟนหมอเก่ง กลับมาอยู่บ้าน เผยเคยคิดโดดสะพานจบชีวิต

ยายเล่านาที "ยู" แฟนหมอเก่ง กลับมาอยู่บ้าน เผยเคยคิดโดดสะพานจบชีวิต

15 ส.ค. 2567

ยายเล่านาที "ยู" แฟนหมอเก่ง กลับมาอยู่บ้าน เผยเคยคิดโดดสะพานจบชีวิต หลานร่ำไห้เมื่อถามถึงแฟน ลั่นแฟนผมตายไปแล้วเพราะกินส้มตำ?

15 ส.ค. 2567 จากกรณีที่ “หมอเก่ง” สาวประเภทสองที่ขับรถเก๋งหายตัวจากบ้านที่จังหวัดจันทบุรี ญาติติดต่อไม่ได้กว่า 3 วัน ก่อนประกาศตามหา จนพบว่าเช่าห้องพักอยู่กับเพื่อนชายคนสนิทภายใน จ.นนทบุรี โดยหมอเก่งยืนยันว่าสมัครใจมาเอง ไม่ได้ถูกทำร้ายหรือบีบบังคับ แต่ยังไม่อยากติดต่อกลับทางบ้าน เพราะมีปัญหากัน

 

ต่อมาพบว่า หมอเก่งเข้าโรงพยาบาลใน จ.พระนครศรีอยุธยา ในห้องไอซียู เนื่องจากอาการปวดท้องรุนแรง ไม่รู้สึกตัว หัวใจหยุดเต้น และเสียชีวิตลงในที่สุด ช่วง 14.00 น. วันที่ 14 ส.ค. 2567 ที่ผ่านมา

 

ตำรวจชุดสืบสวนภาค 1 และตำรวจ สภ.ป่าซาง พร้อมฝ่ายปกครองได้ไปตรวจสอบที่บ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ ต.ป่าซาง อ.ป่าซาง จ.ลำพูน ซึ่งเป็นบ้านของตายาย ของนายยู ชายคนสนิทของหมอเก่ง ซึ่งนอนอยู่ภายในห้องนอนเพื่อสอบถามเรื่องที่เกิดขึ้น

 

ซึ่งจากการสอบถามนายยูเบื้องต้นนายยูอ้างว่า ไม่ได้ลงมือก่อเหตุวางยาฆ่าหมอเก่ง แต่ก่อนหน้านั้นหมอเก่งเจอปัญหารุมเร้าแ ละมีการส่งข้อความแชทเพื่อสั่งซื้อยาไซยาไนด์จากบริษัทหนึ่งและยกเลิกไป ต่อมาหมอเก่งช็อกจึงนำส่งโรงพยาบาล ก่อนจะมาอยู่บ้านตายาย ที่ จ.ลำพูน ส่วนข้อเท็จจริงอยู่ระหว่างการสอบสวน

 

ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 15 ส.ค. 2567 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่พบนายครรชิต รัตนะเวียง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 ต.ป่าซาง อ.ป่าซาง จ.ลำพูน เปิดเผยว่า เมื่อคืนนี้ได้รับการประสานจากกำนันตำบลป่าซาง และตำรวจภูธรป่าซาง ว่า มีหลานชายของลูกบ้าน หมู่ 3 เข้ามาพักอาศัย ซึ่งเกี่ยวข้องกับคดีดังที่ออกข่าว

เมื่อไปถึงก็เห็น นายยู อยู่ภายในบ้านหลังดังกล่าวกับตา-ยาย และญาติเขาพร้อมกับตำรวจแล้ว โดยเท่าที่สังเกตุนายยูมีอาการซึมอย่างเห็นได้ชัด ไม่พูดไม่จาอะไรมาก โดย จนท.คุยอยู่กับนานยูกประมาณครึ่งชั่วโมง ก่อนที่จะพาเขาออกจากบ้านไป และมาทราบจากญาติของนายยูภายหลังว่า นายยูมาถึงบ้านตากับยายเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 13 ส.ค.67 โดยเขานั่งรถไฟมาลงสถานีรถไฟลำพูนก่อนที่จะนั่งสองแถวมาที่บ้านยายของเขา และดูมีอาการเครียด อยากฆ่าตัวตายเหมือนว่าจะกระโดดแม่น้ำแม่ทา ซึ่งอยู่ข้างบ้าน และที่ผ่านมาทราบเพียงว่านายยูมาเยี่ยมตายายเพียง 2-3 ครั้งเท่านั้น

 

ต่อมาผู้สื่อข่าวลงพื้นที่บ้านของนางแสงดา (สงวนนามสกุล) อายุ 88 ปี ยายของนายยู พร้อมเปิดเผยว่าเมื่อช่วงบ่ายวันก่อน หลานชายมาขออาศัยอยู่ด้วยเพื่อจะมาหางาน ตนก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะคิดว่าหลานจะมาเลี้ยงดู และเมื่อถามว่าทำไมไม่พาแฟนมาด้วยจู่ๆ เขาก็ร้องไห้ออกมาพร้อมบอกว่าแฟนผมเขาตายไปแล้ว เพราะกินส้มตำ ตนเองก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ

 

ได้แต่ปลอบใจหลานไป กระทั่งช่วงดึกคืนนี้ ได้มีตำรวจและญาติก็มาที่บ้าน และตำรวจเขาก็มาถามหาหลานชาย แต่เขาก็ไม่ได้บอกอะไรให้ตนเองทราบ เขาคุยกันกับหลานได้พักหนึ่ง ตำรวจเขาก็พาหลานออกไป ตอนนี้ตนเองก็เป็นห่วงหลานชายเหมือนกัน ส่วนเรื่องส่วนตัวหลานเขาก็ไม่ได้เล่าอะไรให้ฟัง