ญาติเชิญวิญญาณ เหยื่อเจ็ทสกี สามีผู้โดยสาร เผยเศร้า ยังไม่ได้ยิน คำขอโทษ | คมชัดลึก

18 ส.ค. 2567 ครอบครัวและญาติๆ เดินทางมาเชิญวิญญาณ นายประยูร อ่วมปทุม อายุ 64 ปี คนขับเรือหางยาว และผู้โดยสารหญิง ซึ่งเสียชีวิตจากอุบัติเหตุเจ็ทสกี ชนเรือหางยาว บริเวณท่าเรือบางกระเจ้านอก จ.สมุทรปราการ โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า

นายมงคลสวัสดิ์ เวิ่นกระโทก อายุ 48 ปี สามีผู้เสียชีวิต เล่าว่า กำลังนั่งเรือข้ามฝั่ง ตนนั่งหน้า แฟนนั่งกลาง แล้วก็มีคนขับ มาถึงประมาณกลางแม่น้ำ มีเจ็ทสกีขับมาชน พอตนหันไปมองก็ไม่เห็นแฟน และคนขับ จึงตะโกนเรียกชื่อ เพราะแฟนว่ายน้ำไม่เป็น ส่วนคู่กรณียังไม่มาพูดคุย ทั้งที่ตนเป็นผู้เสียหาย มีคนตายทั้งคน อย่างน้อยคำขอโทษ ยังไม่ได้ยินเลย

ส่วนเรื่องไฟเรือลุงยูร มีไฟฉายอยู่ สำหรับเจ็ทสกีตนคิดว่ามาค่อนข้างเร็ว เพราะไม่งั้นเครื่องยนต์จะตกน้ำไหม ลองสังเกตรอยยุบของเรือก็ได้ ซึ่งตนเองหากตกน้ำไปก็คงไม่รอดเหมือนกัน

ด้าน น.ส.ประภาศรี อ่วมประทุม อายุ 41 ปี ลูกสาวของลุงยูร คนขับเรือ เพิ่งทราบข่าวช่วงเช้า เพราะมีคนโทรศัพท์ไปแจ้ง รู้สึกเสียใจมาก ไม่คิดว่าพ่อจะเสียชีวิตเร็ว ยอมรับว่าก่อนเกิดเหตุมีลางสังหรณ์เรื่องตากระตุก ไม่ยอมหายสักที ก่อนหน้านี้พ่อหยุดขับเรือไปพักหนึ่ง แต่ก็มาขับใหม่ พ่อยึดอาชีพนี้มาตั้งแต่ตนยังเล็กๆ ให้ไปพักพ่อก็ไม่ยอม

ส่วนความคืบหน้าทางคดี พ.ต.อ.ประภาส มั่งคั่ง รอง ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ ระบุว่า คดีนี้ไม่ซับซ้อน พนักงานสอบสวน กองพิสูจน์หลักฐาน และกรมเจ้าท่า ลงพื้นที่ไปตรวจที่เกิดเหตุและเก็บหลักฐานต่างๆ แล้ว เหลือเพียงประสานนักประดาน้ำลงตรวจสอบจุดที่เครื่องเรือจมน้ำว่าอยู่จุดไหน เนื่องจากเป็นพื้นที่เขตรอยต่อระหว่างสมุทรปราการ กับทางกรุงเทพมหานคร หากได้ข้อสรุปพื้นที่ที่แน่ชัดแล้ว ก็จะเดินหน้าทางสำนวนคดี

ส่วนการแจ้งข้อหา ยังต้องรอผลการสอบสวนของกรมเจ้าท่าอีกครั้ง เพราะมีอำนาจหน้าที่โดยตรงของกรมเจ้าท่า ตาม พ.ร.บ. เดินเรือ ซึ่งหากกรมเจ้าท่าสอบสวนแล้วเสร็จ จะมีการแจ้งความร้องทุกข์กับทางพนักงานสอบสวนอีกครั้ง ยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย

ส่วนประเด็นที่สังคมตั้งคำถามว่าคนขับเรือ ดื่มสุราหรือเมาสุราในขณะขับขี่หรือไม่นั้น เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้ทำการตรวจหาแอลกอฮอล์ในตัวคนขับเจ็ทสกีตั้งแต่เมื่อคืน และไม่พบแอลกอฮอล์แต่อย่างใด