ข่าว

พ่อโวย “รองผอ.” สั่งลูกปีนระเบียงทำความสะอาด พลัดตกตึก ไร้ความรับผิดชอบ

พ่อสุดทน “รองผอ.” สั่งลูกชายปืนระเบียงออกไปทำความสะอาด เกิดพลัดตกอาคารเรียน บาดเจ็บสาหัส แต่กลับไร้ความรับผิดชอบ

อาคารเรียน จุดเกิดเหตุ 19 ส.ค. 2567 นายจันทร์ดี สมสาร์ อายุ 40 ปี บิดาของ เด็กชายเอ (นามสมมุติ ) นักเรียนมัธยม โรงเรียนแห่งหนึ่ง ใน อำเภอกันทรลักษณ์ จังหวัดศรีษะเกษ เข้าร้องขอความช่วยเหลือจาก นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม หลังลูกชายถูกครูใช้ไปทำความสะอาดอาคาร ชั้น 2 ตรงระเบียงกันสาด โดยการปีนหน้าต่างออกไปทำความสะอาดระเบียง สุดท้ายลูกชายพลัดตกตึก ลงมาแขนหักผิดรูปทั้ง 2 ข้าง ได้รับบาดเจ็บสาหัส  โดย ผอ.โรงเรียน อ้างว่าสาเหตุที่ต้องทำความสะอาดเร่งด่วน เพราะจะมีผู้บริหารมาตรวจเยี่ยมและประเมินโรงเรียน แต่ทางโรงเรียนกลับไม่ให้การช่วยเหลืออย่างเหมาะสม

เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 15 ก.พ. 2566 เวลา 09.00-10.00 น. มีเพื่อนนักเรียนโทรมาบอกพ่อให้ไปที่โรงเรียน เนื่องจาก ด.ช.เอ ตกอาคารเรียนได้รับบาดเจ็บสาหัส เมื่อไปถึงก็เห็นลูกนอนโอดโอยร้องด้วยความเจ็บปวดอยู่ใต้อาคาร จึงรีบนำตัวส่งรพ.โนนคูณ

 

เบื้องต้นจากการเอกซเรย์มีอาการสาหัส จึงส่งต่อไป รพ.กันทรลักษณ์ โดยทาง รพ.ได้ผ่าตัดอาการบาดเจ็บที่แขนสองข้างเมื่อวันที่ 19 ก.พ. 2566 โดยแขนขวากระดูกหักสองท่อน แขนซ้ายหักสามท่อน กระดูกไหปลาร้าร้าว จากนั้นก็ออกจากห้องผ่าตัด มาพักฟื้นที่ รพ. จนถึงวันที่ 1 มี.ค. 2566

 

ระหว่างนั้นทางคณะครูได้ไปเยี่ยม และสั่งให้ลบคลิปเหตุการณ์ทั้งหมด และให้เงินช่วยเหลือ 2,000 บาท จากนั้นก็มาพักฟื้นที่บ้าน คณะครูมาเยี่ยมพร้อมกับนำข้อสอบมาให้ทำเพื่อจบการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 และให้เงินชดเชยอีก 3,000 บาท

 

จากนั้นทางพ่อก็ได้ไปสอบถามครูที่โรงเรียนเกี่ยวกับการเยียวยาช่วยเหลือ แต่การเจรจาไม่เป็นผล ต่อมาครั้งที่สองทางคณะครูมาเจรจาที่บ้าน เพื่อให้ความช่วยเหลือ โดยโรงเรียนขอไม่ให้มีการฟ้องร้องดำเนินคดี โดยจะจ่ายเงินชดเชยจำนวน 200,000 บาท แบ่งเป็น จ่ายงวดแรก 100,000บาท เดือน เม.ย. 2566 และงวดที่สองอีก 100,000 บาท เดือน ธ.ค. 2566

 

แต่ปรากฏว่าเมื่อถึงเวลางวดแรกจ่ายเพียง 80,000 บาท ต่อมาทางครอบครัวมีการทวงถามกับ ผอ.โรงเรียน จนกระทั่งเวลาล่วงเลยมาถึงเดือน ธ.ค.2566 ที่ครบกำหนดจ่ายครั้งที่สอง ทาง ผอ.อ้างว่าให้ไปติดต่อกับทาง รองผอ. ที่เป็นคนสั่ง เนื่องจาก รองผอ. จะเกษียณอายุราชการจะได้นำเงินเกษียณมาเยียวยา และหากไม่สามารถเจรจาได้ก็ให้ไปฟ้องร้องกับ รองผอ. เอง อีกทั้งตนเองก็ไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุจึงไม่ทราบรายละเอียด แต่ปรากฏว่าครอบครัวของผู้เสียหายมีภาพถ่ายว่า ผอ.อยู่ในที่เกิดเหตุ ทำให้ ผอ.ไม่ยอมเจรจาด้วย

 

ด้าน นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ เปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวต้องแยกออกเป็น 2 ส่วน เรื่องแรกคือ คดีอาญาเนื่องจาก รองผอ. เป็นผู้สั่งการให้ไปทำความสะอาด จะต้องถูกดำเนินคดี ส่วนการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายเพื่อเยียวยา ถือว่าเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ที่ให้ศาลฯใช้ดุลยพินิจในการพิจารณาลงโทษ