ข่าว

เดือด "ทุบ-เผารถกลางถนน" ขึ้นป้ายประท้วง "รถคันเดียวโกงได้ถึง 2 ครั้ง"

23 ส.ค. 2567

เดือด กลางถนน ย่านนวมินทร์ ชาย "ทุบ-เผารถ" ขึ้นป้ายประท้วง "รถคันเดียวโกงได้ถึง 2 ครั้ง" ส่งรถหมดแต่โดนยึดบ้าน

23ส.ค. 2567 เวลา 12.07 น.จาก ศูนย์วิทยุพระราม199 รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้รถยนต์ ระหว่างซอยนวมินทร์ 52-54 เจ้าหน้าที่สถานีดับเพลิงและกู้ภัยบางชันรุดตรวจสอบ ที่เกิดเหตุมีพบเพลิงลุกไหม้รถแท็กซี่ เก๋ง สีฟ้า 

 

เจ้าหน้าที่จึงเข้าดำเนินการควบคุมเพลิงใช้เวลาไม่นานสามารถดับเพลิงได้ รายละเอียดเพิ่มเติมอยู่ระหว่างการตรวจสอบ

เดือด \"ทุบ-เผารถกลางถนน\" ขึ้นป้ายประท้วง \"รถคันเดียวโกงได้ถึง 2 ครั้ง\"

ทีมข่าวคมชัดลึกลงพื้นที่ตรวจสอบ พบบริเวณหน้ารถที่ถูกไฟไหม้นั้นมีการตั้งป้าย 2 ป้าย ระบุว่า “นี่เป็นบริษัท โกงระดับชาติ รถคันเดียวโกงได้ถึง 2 ครั้ง ครั้งที่ 1 โกงไปเกือบแสน ครั้งที่ 2 ทนายบอก 200,000 กว่าบาท ต่อมาเหลือ 130,000 บาท

ออกรถแท็กซี่ บริษัทส่งหมด ไม่เคยค้างแม้แต่สตางค์เดียว โดนยึดบ้าน ซื้อรถแต่โดนยึดบ้านแล้วไม่เคยมีหมายศาลแม้แต่ครั้งเดียว มีแต่หมายยึดบ้าน แล้วมาแปะ”

 

เผยสาเหตุเผาแท็กซี่ แค้นเจอหมายศาลจะยึดบ้าน

 



ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเกิดเหตุทางตำรวจได้เชิญตัว นายสรชัช คนขับแท็กซี่ มาสอบปากคำ ที่ สน.ลาดพร้าว เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ด้าน นายสรชัช เปิดเผยจุดเริ่มต้นจนทำให้เกิดเหตุการณ์ทุบรถและเผารถขึ้น ว่า เกิดจากความอัดอั้นตันใจตั้งแต่เมื่อ 10 ปีที่แล้ว ตอนนั้นได้เข้ามาซื้อรถแท็กซี่ ที่บริษัทขายส่งแท็กซี่แห่งหนึ่งย่านนวมินทร์ โดยมีการตกลงเพื่อผ่อนชำระค่ารถ จำนวน 48 งวด ซึ่งหากผ่อนหมดแล้ว รถแท็กซี่คันดังกล่าวก็จะกลายเป็นรถแท็กซี่ส่วนบุคคล โดยที่ตนเป็นเจ้าของอย่างเป็นทางการ

แต่ทว่าเมื่อมีการผ่อนชำระครบ 48 งวดแล้วนั้น ทางบริษัทดังกล่าวได้มีการแจ้งว่าทางตนนั้นยังขาดส่งอีก 1 งวด ล่าสุดนั้นทางบริษัทได้นำจ่ายค่าประกันรถให้ ซึ่งเรื่องการจ่ายค่าประกันรถนั้นตนเองก็รู้สึกสงสัยว่าทำไมทางบริษัทไม่แจ้งก่อนล่วงหน้า เพราะทางตนจะได้เป็นคนจ่ายเอง

ต่อมาทางบริษัทนั้น การบอกตนว่าให้รถของตนนั้นรีไฟแนนซ์ เพื่อผ่อนชำระใหม่อีก 48 งวด ซึ่งทางตรงถึงแม้จะสงสัยแต่ตอนนั้นมีเงินเยอะจึงผ่อนได้ไม่มีปัญหาอะไร และเรื่องนี้ก็จบกันไปแบบที่ตนนั้นยังสงสัยอยู่

เดือด \"ทุบ-เผารถกลางถนน\" ขึ้นป้ายประท้วง \"รถคันเดียวโกงได้ถึง 2 ครั้ง\"

กระทั่งปีที่ผ่านมา ตนเลิกขับแท็กซี่ไปนานกว่า 10 ปีแล้ว จู่ๆ ก็มีหมายศาลมาแปะที่หน้าบ้านของตน ซึ่งเป็นหมายศาลที่เกี่ยวกับการยึดบ้าน ทำให้สงสัยว่าตนเองไปทำเรื่องอะไรจนถึงต้องถูกยึดบ้าน ก่อนที่จะอ่านหมายศาล และปรากฏว่าในหมายศาลระบุว่าทางบริษัทนั้นได้มีการฟ้องตน ในข้อหาที่มีการแขวนป้าย หรือหากพูดง่ายๆ คือการที่รถของตนนั้นได้หมดสภาพและทางกรมขนส่งไม่ได้อนุญาตให้รถของตนนั้น สามารถวิ่งอยู่ในท้องถนนได้แล้วอีกต่อไป 

 

 

นายสรชัช กล่าวอีกว่า รถคันนี้ยังไม่มีการโอนเล่ม ทางบริษัทมองว่าใช้รถของบริษัทอยู่ และหากนำไปวิ่งบนท้องถนนก็อาจจะผิดกฎหมาย และคนที่ต้องรับผิดชอบก็คือบริษัท แต่ตนยังสงสัยและงงอยู่จนถึงทุกวันนี้ว่าทำไมหมายศาลถึงได้มีการประกาศยึดบ้านของตนด้วย ทั้งๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าวดังกล่าวเลย

จากเรื่องราวที่เกิดขึ้นได้ไปปรึกษาทนายและต้องขึ้นโรงขึ้นศาลเพื่อสู้กับบริษัทดังกล่าวเสียเงินไปเป็นจำนวนมาก ไปปรึกษาใครก็ไม่มีใครสามารถให้คำตอบ เลยเกิดความคับแค้นและน้อยใจ จึงได้นำรถแท็กซี่ที่ซื้อมาใหม่ และจำลองให้เหมือนกับรถคันเก่าที่สุด นำมาเผาเพื่อประท้วงหน้าบริษัทดังกล่าว