ชาวบ้าน ยื่นซ้ำรอบ 11 ปี จี้สอบ สร้างพระใหญ่ หลัง ดินสไลด์ภูเก็ต ทำถูกหรือไม่ | คมชัดลึก

วันนี้ (26 ส.ค.67) บริเวณวัดกิตติสังฆาราม (วัดกะตะ) ต.กะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายฉลอง ลอยสมุทร ตัวแทนประชาชนชุมชนบ้านกะตะ ต.กะรน อ.เมืองภูเก็ต ผู้ได้รับความเดือดร้อน จากเหตุดินโคลนถล่มจากเทือกเขานาคเกิด เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2567 ที่ผ่านมา จนส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตจำนวน 13 ราย และบาดเจ็บจำนวนหนึ่ง 

 

นอกจากนี้ยังมีบ้านเรือนและทรัพย์สินของประชาชนได้รับความเสียหายจำนวนมาก ได้ยื่นหนังสือให้กับนายเฉลิมพงษ์ แสงดี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) จังหวัดภูเก็ต เขต 2 และนายศรัทธา ทองคำ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เพื่อขอให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการเกิดเหตุการณืดังกล่าว และขอให้หามาตรการเตือนภัยป้องกันเหตุที่จะเกิดซ้ำขึ้นอีก โดยมีนายวรศิษย์ พุฒจีบ นายอำเภอเมืองภูเก็ต, นายเรวัต อารีรอบ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต ร่วมรับทราบปัญหาด้วย 

 

นายฉลอง ลอยสมุทร ตัวแทนประชาชนชุมชนกะตะผู้ได้รับความเดือดร้อน กล่าวว่า การเข้ายื่หนังสือให้กับทาง ส.ส. และจังหวัดภูเก็ตนั้น นอกจากจะขอให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และขอให้หามาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำขึ้นอีก 
 

รวมถึงเรื่องของการติดตั้งระบบเตือนภัยต่างๆ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน ยังได้มีเอกสารประกอบซึ่งเป็นหนังสือที่ตนเคยยื่นให้กับทางหน่ยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะจังหวัดภูเก็ต เมื่อประมาณปี 2563 พร้อมภาพดินสไลด์ที่เกิดขึ้นเมื่อ 11 ปีที่แล้ว เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบ เพราะชาวบ้านที่อยู่พื้นที่เชิงเขา โดยเฉพาะบริเวณชุมชนกะตะ ซึ่งได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นค่อนข้างมาก โดยต้องการให้ตรวจสอบการใช้พื้นที่ของเทือกเขานาคเกิดว่า ถูกต้องหรือไม่อย่างไร 

 

สิ่งที่กังวลมากที่สุด คือ ชาวบ้านที่ยังคงตั้งบ้านเรือนพักอาศัยอยู่บริเวณเชิงเขาดังกล่าวและเป็นจุดเสี่ยงภัย จะอยู่อย่างไร เพราะไม่รู้ว่าจะเกิดการถล่มลงมาอีกเมื่อไร จึงร้องขอให้มีการติดตั้งระบบเตือนภัย หรืออะไรก็ได้มารองรับความเสี่ยง เพราะขณะนี้ภูเก็ตยังอยู่ในช่วงฤดูฝนยาวไปอีกอย่างน้อย 3 เดือน เพราะทุกคนไม่สามารถจะย้ายปิอยู่ที่อื่นได้ เพราะที่นี่คือ บ้านของเรา นายฉลอง กล่าว

 

ด้านนายเฉลิมพงษ์ แสงดี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดภูเก็ต เขต 2 กล่าวว่า ด้วยทางผู้ได้รับความเดือดร้อนจากเหตุดินสไลด์มีความกังวลเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และเมื่อประมาณ 11 ปีที่แล้ว ทางชาวบ้านเคยยื่นหนังสือให้กับผู้ว่าฯ ภูเก็ต เมื่อ 11 ปีที่แล้ว เกี่ยวกับการขออนุญาตสร้างพระใหญ่หรือพระพุทธมิ่งมงคล และการขออนุญาตใช้พื้นที่ว่า มีการดำเนินการถูกต้องหรือไม่อย่างไร รวมถึงการก่อสร้างอาคารบริวารต่างๆ ว่ามีการขออนุญาตถูกต้องหรือไม่ 

 

หลังจากนี้จะทำหนังสือไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เกี่ยวกับการทำลายป่าต้นน้ำที่อยู่บนยอดเขานาคเกิด สอบถามกระทรวงวัฒนธรรม ประเด็นการจัดตั้งมูลนิธิที่มีการดำเนินการเชิงพุทธพาณิชย์ว่าสามารถทำได้หรือไม่ และกระทรวงมหาดไทย เกี่ยวกับการติดตั้งระบบเตือนภัย เพื่อลดความหวาดระแวงในช่วงที่ฝนตกหนัก ซึ่งจะเร่งรัดการดำเนินการให้ได้โดยเร็ว 

 

 

นอกจากนี้จะมีการตรวจสอบเพิ่มเติมในพื้นที่อื่นๆ บริเวณโดยรอบเทือกเขานาคเกิดที่มีการประกอบธุรกิจต่างๆ ว่า ดำเนินการถูกต้องหรือไม่อย่างไร เพื่อป้องกันเหตุที่จะบานปลายออกไปอีก 

 

อย่างไรก็ตามทางด้านนายศรัทธา ทองคำ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวภายหลังรับหนังสือว่า ทางท่านผู้ว่าฯ ได้ทำหนังสือส่งไปยังปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมแล้ว รวมถึงหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องด้วย เพื่อให้ตรวจสอบในเรื่องที่ประชาชนเป็นกังวล ว่าข้อเท็จจริงต่างๆ เกี่ยวกับการขออนุญาตก่อสร้างต่างๆ บนเทือกเขานาคเกิด ว่า มีการดำเนินการถูกต้องหรือไม่อย่างไร รวมทั้งได้มีการวางแนวทางในการป้องกันเหตุที่จะเกิดซ้ำขึ้นอีก 

 

เบื้องต้นจะต้องเร่งฟื้นฟูและทำการขุดตักดินโคลนและก้อนหินออกจากบ้านเรือนของประชาชน เพื่อให้เขาเข้าไปอยู่อาศัยได้ รวมถึงบนถนนหนทางต่างๆ เพื่อให้สามารถสัญจรไปมาได้