เปิดปฎิบัติการ 36 ชม. แข่งกับเวลาช่วย 3 ผู้ประสบภัย หวั่นอุโมงค์ดินถล่มซ้ำ | คมชัดลึก

จากกรณีเกิดเหตุดินถล่มในอุโมงค์รถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ช่วงคลองขนานจิต ต.จันทึก อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ของไซต์งาน กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ภายในอุโมงค์ ติดอยู่ภายใน จำนวน 3 คน   

26 ส.ค.2567 นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ได้เดินทางมาที่บริเวณหน้าอุโมงค์ทางเข้ารถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ช่วงคลองขนานจิต ต.จันทึก อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เพื่อติดตามความคืบหน้าการค้นหาผู้ประสบภัยทั้ง 3 ราย ล่าสุดผ่านไป นานกว่า 36 ชั่วโมงแล้ว ก็ยังไม่สามารถนำตัวผู้ประสบภัยออกมาจากจุดเกิดเหตุได้ 

สำหรับการค้นหาผู้ประสบภัยที่ติดอยู่ภายในอุโมงค์ทั้ง 3 รายนั้นยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ในวันเกิดเหตุจนมาถึงขณะนี้ แต่ก็ยังไม่สามารถนำตัวผู้ประสบภัยออกมาจากจุดเกิดเหตุได้ ถึงแม้ว่าจะมีการตรวจจับสัญญาณชีพที่ระบุได้ว่าทั้ง 3 รายยังมีชีวิตอยู่

นายสุรพงษ์ กล่าวภายหลังจากที่ฟังรายงานความคืบหน้าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ว่า เป้าหมายในวันนี้คือการช่วยเหลือผู้ประสบภัย ให้รอดชีวิตออกมาได้  จากการพูดคุยพบว่า อุโมงค์ที่เกิดเหตุมีลักษณะขุดเป็นมี 3 layer ลักษณะเป็นขั้นบันได ซึ่งการค้นหาในเบื้องต้น ได้มีการดำเนินการไปแล้ว แต่ยังไม่สามารถระบุตำแหน่งที่ชัดเจนของผู้ประสบภัยได้ ทำให้ต้องมีการปรับแผนงาน กันอยู่ตลอดเวลา พร้อมให้กำลังใจ กับทุกคนที่กำลังดำเนินกันอย่างเร่งด่วน และหากต้องการความช่วยเหลือหน่วยงานนอกสังกัด ก็สามารถบอกได้ ทางรัฐบาลจะพยายามซัพพอร์ต อย่างเต็มที่

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า จากที่ได้รับรายงานพบว่า ขณะนี้อุปกรณ์ในการค้นหามีเพียงพอแล้ว แต่ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจ ของผู้คุมงาน  ซึ่งการช่วยเหลือก็จะเน้นไปทางหลักของวิศวกรรม ซึ่งส่วนตัว มองว่า อาจจะต้องมีการเสริมในเรื่องของการวิเคราะห์ข้อมูล ปัจจัยที่ใช้ชีวิตรอดของผู้ประสบภัยที่อยู่ด้านใน เช่น การวิเคราะห์ในเรื่องของอากาศก็เป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งต้องวิเคราะห์ว่า อากาศที่อัดเข้าไปนั้นเพียงพอต่อการดำรงชีพของคนด้านในหรือไม่ 

ส่วนหลายคน จะกังวลในเรื่องของฝนที่อาจจะตกมาเพิ่ม ตนดูแล้วคาดว่า ฝนน่าจะยังตกมาไม่มากนัก และการระบายน้ำด้านในอุโมงค์ มีการระบายน้ำอยู่แล้ว แต่อาจจะต้องเฝ้าระวังในจุดที่ดินถล่มลงมาเพราะอาจจะมีการสไลด์ตัว

ทางด้าน นายธนนท์ ดอกลัดดา ผู้จัดการโครงการ บริษัท เนาวรัตน์พัฒนาการ จำกัด (มหาชน)  เปิดเผยว่า การค้นหาที่ผ่านมาจะใช้วิธีในลักษณะ ให้ทางเจ้าหน้าที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นำเครื่อง ได้นำเครื่องตรวจจับสัญญาณชีพ เข้าไปสแกนด้านใน เพื่อระบุตำแหน่งของผู้ประสบภัย เพื่อดูความลึก และจุดที่ผู้ประสบภัยอยู่ แต่เมื่อทำการเจาะเข้าไปตามที่เครื่องสแกนระบุตำแหน่ง กับไม่พบผู้ประสบภัยอยู่ในบริเวณดังกล่าว ซึ่งได้มีกระทำการถึง 2 ครั้ง แต่ก็ยังไม่พบผู้ประสบภัย ทำให้ต้องมีการปรับแผนในการค้นหา โดยครั้งนี้จะเป็นการเจาะท่อไปที่ตำแหน่งของรถดั้ม ตามคำบอกเล่าของคนงานที่อยู่ในเหตุการณ์และรอดชีวิตออกมาได้  

ในขณะเดียวกันก็ได้มีการนำแบคโฮ ไปขุดบริเวณด้านบน ซึ่งเป็นจุดที่คาดว่า ดินสไลด์ตัวลงมาในอุโมงค์เพื่อที่จะลดการกดทับของดิน ในขณะเดียวกันก็จะใช้ในการค้นหาผู้ประสบภัยด้วยแต่ทั้งนี้ก็ต้องดูการสโลปตัวของดินด้วยว่ามีความปลอดภัยมากน้อยเพียงใด ซึ่งปัญหาหลักตอนนี้ก็คงเป็นเรื่องของ ผลที่อาจจะตกลงมาเนื่องจากดินนั้นไปลักษณะเป็นดินเลนไม่มีการเกาะตัวเมื่อชั้นล่างถูกขุดออกก็จะสไลด์ตัวลงมาเรื่อยๆ

อย่างไรก็ตามทางทีมข่าว ได้รับการรายงานว่า ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้มีการเจาะท่อเข้าไป เหลืออีกประมาณ 4 เมตรจะถึงรถดั้มซึ่งเป็นจุดเป้าหมายในการที่จะค้นหาผู้ประสบภัยรายแรก แต่การที่จะดันท่อ เข้าไปในระยะความลึกถึง 4 เมตรนั้นอาจจะต้องใช้เวลาถึง 3 ชั่วโมง และการค้นหาในครั้งนี้ก็เป็นไปด้วยความยากลำบาก เพราะหากถ้าไม่เจอผู้ประสบภัยก็อาจจะต้องมีการเปลี่ยนแผนอีกครั้ง