เปิดพฤติกรรม ผัวคลั่ง หั่นเมียสยอง ลูกชาย ไม่คิด ว่าพ่อจะลงมือทำ | คมชัดลึก

จากกรณีที่เกิดเหตุ ผัวคลั่ง ฆ่าหั่นศพเมีย ก่อนนำชิ้นส่วนออกมาทิ้งกลางถนนหน้าบ้าน ล่าสุดตำรวจคุมตัวส่งฝากขังศาลจังหวัดเชียงราย ส่วนศพผู้เสียชีวิตส่งตรวจสอบโดยละเอียดที่ จ.เชียงใหม่ โดยเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 02.00 น. (26 ส.ค. 2567) จากการตรวจสอบในเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจพบเพียงส่วนที่เป็นลำตัว ศีรษะ และขาข้างซ้าย แต่ยังไม่พบขาข้างขวา รวมทั้งไม่พบบุคคลต้องสงสัยอยู่บริเวณดังกล่าว ตำรวจจึงได้กันสถานที่เอาไว้และตรวจหาหลักฐาน 

 

 

ตรวจสอบ กล้องวงจรปิด บริเวณดังกล่าวพบว่า เมื่อเวลาประมาณ 00.50 น. ต่อเนื่องจนถึงเวลาประมาณ 00.54 น. มีชาย 1 คน เดินออกจากบ้านนำวัตถุบางอย่างออกจากบ้านไปทิ้งในซอยดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงตามไปจนถึงบ้านสองชั้นกึ่งปูนกึ่งไม้ซึ่งเป็นของ นางจินดา (สงวนนามสกุล) ซึ่งอาศัยอยู่กับสามีคือ นายสมหมาย (สงวนนามสกุล) อายุ 59 ปี สามี และบุตรชาย แต่วันเกิดเหตุบุตรชายไปกรีดยางไม่ได้อยู่บ้าน พบนายสมหมายอยู่ในบ้าน ในมือ 2 ข้างถือขวานและมีดพร้าปลายตัด ยาวประมาณ 1 ศอก 

 

เมื่อเจ้าหน้าที่จะเข้าไปสอบถาม นายสมหมาย กลับพูดจาไม่รู้เรื่อง และพยายามจะทำร้ายเจ้าหน้าที่ ทำให้เจ้าหน้าที่หลีกออกมาและปิดล้อมบ้านเอาไว้ ระหว่างนั้นได้ให้คนไปตามบุตรชายมาช่วยเกลี้ยกล่อมให้ นายสมหมาย มอบตัวแต่ไม่เป็นผล 

 

โดยในช่วงเช้าเวลาประมาณ 07.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำกำลังปีนขึ้นไปบนบ้านและใช้ไม้ง่ามจับกุมตัวเอาไว้ได้ ตรวจสอบที่มือของนายสมหมาย มีมีดพร้าสำหรับผ่าฟืนและขวาน มีคราบเลือดติดอยู่ ตรวจสอบภายในบ้านมีเลือดนองพื้นโดยเฉพาะบนชั้น 2 พบเลือดกองใหญ่ และพบรอยเลือดตรงทางลงบันไดต่อเนื่องไปจนถึงจุดพบศพภายในซอย 9 ตรวจสอบภายในตู้เย็นที่อยู่ในบ้านพบขวาข้างขวาถูกเก็บไว้ด้วย อย่างไรก็ตามนายสมหมายมีอาการคลุ้มคลั่งไม่ได้สติและไม่ยอมให้การใดๆ ตำรวจจึงตั้งข้อหา "ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และซ่อนเร้นทำลายศพเพื่อปิดบังเหตุแห่งการตาย" 

 

จากนั้นประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานและแพทย์โรงพยาบาลดอยหลวงไปร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมเก็บมีด 1 เล่มและขวาน 1 เล่ม ไว้เป็นหลักฐานเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฏหมาย 

 

 

 

พ.ต.ท.วิทวัส วงษา สารวัตรสอบสวน สภ.ดอยหลวง พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี เปิดเผยว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นผู้ก่อเหตุเป็นสามีของผู้ตายซึ่งเป็นโรคซึมเศร้าและน่าจะมีความเครียดจากโรคประจำตัว หลังจับควบคุมตัวไว้ได้ผู้ต้องหายังให้การวกวน พบว่าพบผู้ก่อเหตุมีอาการของโรคซึมเศร้าและเครียด ชอบดื่มสุราและทะเลาะกับภรรยา โดยได้นำตัวไปขอฝากขังที่ศาลจังหวัดเชียงราย ตั้งแต่เวลา 14.00 น. 

 

ส่วนที่บ้านที่เกิดเหตุทางญาติและเพื่อนบ้านที่ทราบข่าวต่างมาช่วยกันเตรียมสถานที่จัดพิธีศพ แต่ยังไม่ได้มีการพูดคุยถึงกำหนดการพิธีเผาศพแต่อย่างได เพราะตอนนี้ศพยังอยู่ระหว่างนำไปตรวจชันสูตรที่ จ.เชียงใหม่ 

 

ลูกชาย ผู้เสียชีวิต เล่าว่า ตอนช่วงเย็นตนยังทานข้าวพร้อมหน้าทั้งพ่อแม่ลูก ยังไม่มีทีท่าว่าจะเกิดเหตุเศร้า แต่ช่วงกลางคืนตอนเกิดเหตุตนไปกรีดยางที่สวน ซึ่งห่างจากบ้านไปประมาณ 5 กม. และแบตมือถือก็หมด กลับมาบ้านอีกทีตอน 6 โมงเช้า ก็มาทราบข่าวว่าพ่อซึ่งป่วยจิตเวชจากการติดเหล้ามาประมาณปีกว่า แต่ก็ไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ลงมือฆ่าหั่นศพแม่ ตอนมาเจอพ่อยังมีอาการคลุ้มคลั่ง พูดไม่รู้เรื่อง ต้องช่วยกันควบคุมตัว ปกติพ่อเป็นคนไม่สุงสิงกับใคร ไม่คิดว่าจะก่อเหตุแบบนี้ ตอนเย็นยังกินข้าวด้วยกันอยู่เลย 

 

ด้าน ผช.ผญบ.บ้านแม่เลียบ กล่าวว่า ผู้ก่อเหตุไม่ค่อยสุงสิงกับใคร อยู่คนเดียว ดื่มเหล้าจัด มีประวัติป่วยจิตเวช หลังชาวบ้านทราบข่าวว่าเกิดเหตุสะเทือนขวัญขึ้นต่างก็รู้สึกหวาดกลัวกันเป็นอย่างมาก เป็นเหตุสะเทือนขวัญครั้งแรกของหมู่บ้าน 

 

ในขณะที่เพื่อนบ้านที่มาเจอศพกลุ่มแรก เผยว่า ตอนประมาณเที่ยงคืนกว่า มีคนที่จะไปกรีดยางโทรมาบอกว่าพบศพ หรือ ตุ๊กตา วางอยู่ใต้ต้นมะขามกลางซอย ตนจึงให้สามีโทรไปประสานผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านให้มาตรวจสอบด้วยกัน เมื่อมาดูก็พบว่าเป็นศพของนางจินดา "ผู้ก่อเหตุมีอาการจิตเวช เคยก่อเหตุทำร้ายร่างกายตัวเอง แขวนคอ และปีนหลังคาบ้าน ไม่เคยก่อเหตุทำร้ายร่างกายคนอื่นมาก่อน ครั้งนี้ถือเป็นเหตุสะเทือนขวัญครั้งใหญ่สุดของอำเภอดอยหลวง ชาวบ้านยังขวัญเสียกันอยู่"

 

 

โดย : ณัฐวัตร ลาพิงค์