"เจ๊ปู" โผล่พบตำรวจใน"ฐานะพยาน" ปม"ยาดองมรณะ"
"เจ๊ปู" เข้าให้ข้อมูลตำรวจใน"ฐานะพยาน" ปม"ยาดองมรณะ" ยันไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ไม่ทราบผสมสารเคมี วอนสื่อช่วยสืบหาข้อเท็จจริง
28 ส.ค. 2567 เวลา 09.00 น.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวานนี้ เวลา 19.30 น. ที่สน.มีนบุรี นางสาวภัสส์รศา อารีจิตสุขสิริ อายุ 49 ปี หรือเจ๊ปู คนผสมยาดองส่งขายและเจ้าของซุ้มยาดอง เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนและฝ่ายสืบสวน สน.มีนบุรี เพื่อเข้าให้ข้อมูลเพิ่มเติมกรณีมีผู้ป่วยได้รับพิษเมทานอลจากยาดองในฐานะพยาน
เจ๊ปู ยืนยันความบริสุทธิ์ใจ และไม่คิดจะหลบหนี เพราะต้องการพิสูจน์ความจริง ว่า ไม่มีเจตนาที่จะกระทำผิด เนื่องจากได้ประกอบกิจการตัวยาสมุนไพร สมัยรุ่นพ่อยาวนานกว่า 30 ปี ไม่เคยพบเหตุการณ์ลักษณะนี้ ที่ผ่านมาเข้าพบเจ้าหน้าที่ ให้ความร่วมมือในการให้ข้อมูลเบาะแสทุกครั้ง และการเข้าพบพนักงานสอบสวน ในครั้งนี้ จะให้ข้อมูลในประเด็นเกี่ยวกับ กลุ่มลูกค้าที่ได้ซื้อยาดองจากตนเอง แต่ได้นำกลับส่งคืน ในช่วงระหว่างวันที่ 18 .ส.ค.- 22 ส.ค. เป็นช่วงเวลาที่น่าสงสัย ว่าอาจมีความเชื่อมโยง กับ 2 ผู้ต้องหาหรือไม่
เจ๊ปู อ้างว่า ว่าไม่มีส่วนรู้เห็น เกี่ยวกับนำสารเคมีผสมน้ำ ของ 2 ผู้ต้องหา เพราะได้ติดต่อซื้อขายกันมากว่า 1 ปี แต่พบมีปัญหาล่าสุด ช่วงเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา เพราะว่าตนก็ไม่อยากตัดเส้นทางการทำมาหากินอยู่แล้ว มีครอบครัวที่ต้องดูแล แต่หากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้แจ้งข้อหาว่าอาจเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด ก็พร้อมที่จะพิสูจน์ข้อเท็จจริง เพราะมั่นใจว่าตัวเองไม่เกี่ยวข้อง และไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับที่มาของการนำสารเคมีมาผสม จนทำให้มีผู้เสียชีวิต
ทั้งนี้ขอความร่วมมือสื่อมวลชน ช่วยกันสืบหาความจริงว่าสาเหตุมันเกิดจากอะไร เพราะก่อนหน้านี้ตอนยังไม่เกิดปัญหาลูกค้าตนที่ซื้อไปก็ไม่เคยมีปัญหา จนมาถึงวันนี้ตนต้องให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ด้าน พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ พร้อมด้วย พล.ต.ต.สมควร พึ่งทรัพย์ รองผู้บัญชาการตํารวจนครบาล พล.ต.ต.เกียรติกุล สนธิเณร ผู้บังคับการตํารวจนครบาล 3 และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมประชุมคณะทํางานฝ่ายสืบสวนสอบสวน เพื่อดําเนินคดีกับบุคคลที่เกี่ยวข้องในคดีสุราเถื่อนผสมเมทานอลพื้นที่เขตมีนบุรีและคลองสามวา จนมีผู้ได้รับสารพิษอาการสาหัสมากกว่า 30 ราย และเสียชีวิต 6 ราย
พล.ต.ต.เกียรติกุล ผบก.น.3 เปิดเผยความคืบหน้าภายหลังการประชุมว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาน.ส.ภัสส์รศา อายุ 49 ปี หรือ “เจ๊ปู” ผู้ผสมยาดอง ได้เดินทางเข้ามารับทราบข้อกล่าวหา ภายหลังจากที่พนักงานสอบสวนได้มีการออกหมายเรียก ในความผิดฐาน “ผลิตสุราโดยไม่รับอนุญาต, จำหน่ายสุราโดยไม่รับอนุญาต, กระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และกระทำการประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส” ในส่วนของแนวทางหารสืบสวนขยายผลเพิ่มเติม ตอนนี้มีความคืบหน้าพอสมควร โดยมีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์รวมถึงพยานบุคคลและวัตถุมากพอที่จะสามารถพิสูจน์ทราบเพื่อเอาผิดผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด
สําหรับ ”เจ๊ปู“ อยู่ในกลุ่มที่เป็นผู้ผลิตและมีการส่งต่อไปยังซุ้มยาดองต่างๆ จนเกิดเหตุมีผู้ได้รับสารพิษอาการสาหัสและเสียชีวิต จึงขอฝากไปยังประชาชนว่าควรจะเลือกบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ถูกต้องตามกฎหมาย เพราะสุราเถื่อนหรือยาดองต่างๆ ไม่สามารถรู้ได้ว่าคนทําเขาใส่อะไรลงไปบ้าง เพื่อที่อนาคตจะได้ไม่เกิดเหตุเช่นนี้ขึ้นอีก
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ามีบุคคลอื่นเกี่ยวข้องกับการผลิตยาดองนอกเหนือจาก “เจ๊ปู” และ 2 พี่น้องที่ถูกจับกุมไปแล้วหรือไม่ ทาง พล.ต.ต.เกียรติกุล ระบุว่า อยู่ระหว่างการสืบสวนขยายผล ส่วนจะอ้างว่ารู้หรือไม่รู้มีเจตนาหรือกระทําการโดยประมาทหรือไม่นั้น หากพยานหลักฐานเชื่อมโยงถึงใครดําเนินคดีทั้งหมด
ทั้งนี้ในส่วนของร้านยาดองทั้ง 18 ซุ้ม เบื้องต้นกันไว้เป็นพยานก่อน เพื่อดูว่าแต่ละคนมีพฤติกรรมหรือรู้เห็นในการกระทําความผิดหรือไม่ แต่อย่างไรก็ตามการจําหน่ายยาดองมีความผิดตาม พ.ร.บ.ภาษีกรมสรรพสามิตอยู่แล้ว