จากปาก ลูกชาย-ญาติ คนขับแท็กซี่ คนร้ายโทรขอเงิน ก่อนลงมือก่อเหตุฆาตกรรม
จากปาก ลูกชาย-ญาติ คนขับแท็กซี่ หลังเข้าให้ปากคำกับตำรวจ เผย คนร้ายโทรมาขอเงิน 2 หมื่น ก่อนลงมือก่อเหตุฆาตกรรม ตั้งประเด็นข้อสงสัยหลายอย่าง
จากกรณี ฆาตกรรมโหด หนุ่มใหญ่ จับมือมัดไขว้หลังหมกศพบ่อปลาอำพรางศพด้วยก่อหญ้า ทิ้งหมกภายในพงหญ้าริมบ่อปลา หมู่ที่ 7 ซอยข้างโรงพยาบาลรามาธิบดี สมุทรปราการ ต.บางปลา อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ทราบชื่อผู้เสียชีวิตแล้ว นายมีชัย (สงวนนามสกุล) อายุ 63 ปี ชาว อ.หนองสองห้อง จ.ขอนแก่น เป็น คนขับแท็กซี่ โตโยต้า สีเขียว-เหลือง รับผู้โดยสารมาจากนนทบุรี เวลาประมาณ 23.00 น. มาส่งแถวที่เกิดเหตุ
โดยเมื่อช่วงหัวค่ำที่ผ่านมา (27 ส.ค. 2567) ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.บางพลี ได้เชิญตัวทาง นายยอด (สงวนนามสกุล) ซึ่งเป็น ลูกชาย และ นางระเบียบ (สงวนนามสกุล) ญาติของ ผู้เสียชีวิต เดินทางมาให้ปากคำเกี่ยวกับ ผู้ไเสียชีวิต ซึ่งเจ้าหน้าที่สอบปากคำอยู่ประมาณ 2 ชั่วโมง ก่อนเจ้าหน้าที่จะพาตัวลูกชายของผู้เสียชีวิตเดินทางไปที่บ้านพักย่านบางบัวทอง
ด้าน ญาติของผู้เสียชีวิต เล่าว่า ตนได้รับโทรศัพท์บอกว่าพ่อเสีย ตนเสียใจมาก และตนอยากเห็นหน้าตัวผู้ก่อเหตุมากว่าเขาเป็นคนไหม ทำไมถึงฆ่าคนเป็นๆได้ แล้วผู้ก่อเหตุก็ไม่ใช่คนไทยด้วย พม่ามาฆ่าคนไทยมันใช่เหรอ ส่วนเรื่องที่เขาทำอะไรให้ผู้ก่อเหตุต้องทำแบบนั้นไหม ตนก็ไม่รู้ เพราะเขาไม่เคยเล่าอะไรให้ฟังเลย เวลาโทรคุยกันหรือคุยแชทกันก็แค่ถามข่าวคราวธรรมดา ในความคิดของตนก็บอกไม่ถูกเหมือนกันว่าเป็นการฆ่าเพื่อชิงทรัพย์ไหม หรือเพราะเรื่องอะไร
ตอนแรกผู้ก่อเหตุโทรมาเพื่อขอเงิน 20,000 บาท กับแฟนของลูกชายผู้เสียชีวิต แค่บอกว่าอยากได้เงินก็จะหาให้ ไม่ต้องมาฆ่ากันแบบนี้ ตนไม่รู้ว่าเขาให้เวลาหาเงินเท่าไหร่ เพราะแฟนของน้องไม่ได้คุยต่อตัดสายไปเลย แต่เรื่องนี้ลูกชายไม่รู้เรื่องเลย เขาใช้เบอร์ผู้ตายโทรมาหา แล้วได้ยินเสียงผู้ตายร้องด้วย แล้วตัวผู้ตายก็บอกว่าห้ามบอกยอด (ลูกชายผู้ตาย) เขาโทรมาประมาณช่วง 9 โมงเช้า เห็นแฟนน้องบอกแบบนั้น
ที่ผู้ก่อเหตุโทรมาน้องชายบอกว่าเชื่อ แต่ขออย่าให้เป็นเรื่องจริง แต่มันก็เป็นอย่างที่คิดจริงๆ ส่วนเรื่องที่พ่อมาขับรถกลางคืนน้องชายบอกว่าแปลกมาก น้องบอกว่าน้องเข้าบ้านเร็ว ปกติพ่อจะขับรถช่วงกลางวันน้องขับช่วงกลางคืน น้องบอกว่าแปลกมาก ส่วนตอนที่ผู้ก่อเหตุโทรหาแฟนน้อง เขาก็เหมือนว่าพูดไทยไม่ชัด น้องชายเล่าให้ฟังบนรถ และก็ไม่เคยรู้จักกับคนก่อเหตุด้วย
ส่วนพ่อมีทรัพย์สินปกติทั่วๆ ไป มีนา มีบ้าน มีรถแท็กซี่ 1 คัน ตอนออกไปขับรถก็ไม่ได้พกของมีค่าอะไรไปมาก ส่วนบ้านที่ขอนแก่นมีแค่ที่ดิน มีลูกก็แค่ยอดคนเดียว ไม่เคยมีเรื่องทะเลาะอะไรกันเลย พ่อลูกเขารักกันมาก มีอะไรก็จะถามหาแต่ลูกชาย เวลาตนคุยกับเขา ก็คุยทางแชทเฟสก็จะถามหาลูกชายตลอด ส่วนเรื่องศพก็จะเอากลับบ้านที่ขอนแก่น เพราะญาติๆ รออยู่
ด้าน นายยอด ลูกชายผู้เสียชีวิต เล่าให้ผู้สื่อข่าวที่มารอทำข่าวว่า ตนไม่ได้คุยโทรศัพท์กับพ่อเลยแล้วก็ไม่ทราบว่าแฟนได้คุยโทรศัพท์กับพ่อหรือไม่ ตนรู้ว่าพ่อเสียชีวิตช่วงเที่ยง แล้วที่บอกว่ามีคนโทรเฟสมาคุยกับพ่อตนก็ไม่ทราบเรื่องนี้ เมื่อคืนตนอยู่ที่บ้านเพราะเข้าบ้านเร็ว ตนไม่รู้ว่าพ่อติดการพนันหรือไม่ และก็ไม่เคยมีคนมาทวงหนี้พ่อ
โดย : สุธินันท์ คงสินธ์