หนุ่มเมียนมา เปิดปากซัดทอด ผู้ร่วมก่อเหตุสังหารลุงแท็กซี่ ทิ้งบ่อปลา
หนุ่มเมียนมา เปิดปากซัดทอด ผู้ร่วมก่อเหตุสังหารลุงแท็กซี่ ตำรวจเชิญลูกสะใภ้ให้ปากคำ หลังพบพูดคุยสายสุดท้าย นาน 7 นาที อ้างได้ยินเสียงโหยหวน เรียกค่าไถ่
ความคืบหน้าการจับกุมนายซัน อายุ 42 ปี ชาวเมียนมา ก่อเหตุสังหาร นายมีชัย (สงวนนามสกุล) อายุ 63 ปี คนขับรถแท็กซี่ ก่อนนำร่างมาทิ้งอำพรางบริเวณาริมบ่อปลา หมู่ที่ 7 ซอยข้างโรงพยาบาลรามาธิบดี สมุทรปราการ ต.บางปลา อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ โดยคนร้ายยังปฏิเสธไม่ได้ทำ ขณะที่ลูกชายคนตายเข้าให้ข้อมูล คนร้ายโทรขอ 2 หมื่น ก่อนลงมือฆาตกรรม ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
- จากปาก ลูกชาย-ญาติ คนขับแท็กซี่ คนร้ายโทรขอเงิน ก่อนลงมือก่อเหตุฆาตกรรม
- รวบ หนุ่มเมียนมา ผู้ต้องสงสัยฆาตกรรม คนขับรถแท็กซี่ ทิ้งพงหญ้าริมบ่อปลา
- สังหารโหด มัดมือไขว้หลัง ชายนิรนาม มีรอยสักมังกร-เสือเผ่น ทิ้งอำพรางบ่อปลา
28 ส.ค. 2567 เมื่อเวลา 14.00 น. พล.ต.ต.วิชิต บุญชินวุฒิกุล ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ เรียกประชุมคลี่คลายคดี พร้อมเชิญตัวลูกสะใภ้ของผู้เสียชีวิตมาให้ปากคำเพิ่มเติม ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามข้อเท็จจริงจากลูกสะใภ้ ว่าบุคคลที่ได้คุยด้วยกว่า 7 นาที คือใครกันแน่ ซึ่งลูกสะใภ้ของผู้เสียชีวิตยังตอบแบบเดิมว่า “ไม่รู้ค่ะ” ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องประชุม
พล.ต.ต.วิชิต กล่าวว่า หลังควบคุมผู้ต้องสงสัยได้ 1 ราย มีการอายัดรถแท็กซี่ของกลาง และโทรศัพท์มือถือ ของผู้เสียชีวิต ซึ่งยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบจากสำนักงานพิสูจน์หลักฐาน ส่วนการสอบปากคำชายชาวเมียนมา ให้การค่อนข้างเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี ยอมรับว่าอยู่กับผู้ตายตั้งแต่ไปรับ จนถึงจุดพบศพ และขับรถออกมาจากจุดเกิดเหตุ ไปที่ห้องเช่าในพื้นที่ จ.นนทบุรี
ที่สำคัญยังอ้างถึงตัวละครอีก 1 คน ซึ่งคาดว่าเป็นผู้ร่วมขบวนการ ซึ่งตำรวจอยู่ระหว่างพิสูจน์ทราบข้อเท็จจริง เบื้องต้นตำรวจตั้งปมไว้ 2 ประเด็น คือ ฆ่าชิงทรัพย์ และความขัดแย้งส่วนตัวประเด็นยาเสพติด
พล.ต.ต.วิชิต กล่าวอีกว่า จากกล้องวงจรปิดตามเส้นทางต่างๆ เห็นรถแท็กซี่ของผู้เสียชีวิต ขับออกจากนนทบุรี ตั้งแต่ช่วงเที่ยงคืน จนมาถึงสมุทรปราการ ก่อนจะกลับไปนนทบุรีอีกครั้ง ประมาณตี 5 ซึ่งตำรวจต้องสอบว่าผู้ก่อเหตุมีทั้งหมดกี่คน และจุดลงมือฆ่าอยู่ที่ไหน แต่จากการสืบสวนคาดว่าอยู่ในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ
ส่วนลูกสะใภ้ของผู้เสียชีวิต ที่ตำรวจเชิญมาให้ปากคำวันนี้ พล.ต.ต.วิชิต กล่าวว่า เนื่องจากพบข้อมูลประวัติการโทรเข้าเบอร์ผู้เสียชีวิต นานกว่า 7 นาที ซึ่งลูกสะใภ้ให้การว่าปลายสายที่ได้คุยด้วย คือผู้เสียชีวิต และได้ยินเสียงร้องโหยหวน และได้ยินเสียงคนจีนพูดเรียกค่าไถ่ ซึ่งคำให้การนี้ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ เพราะแพทย์ยืนยันว่า นายมีชัย เสียชีวิตมาไม่ต่ำกว่า 10-12 ชั่วโมง ซึ่งเป็นไปได้ว่าลูกสะใภ้อาจจะเกิดความสับสน ซึ่งตำรวจต้องพิสูจน์ทราบต่อไป